พัทยาพาเพลิน

[WayfarinG]

น้ำมันขุ่นมากๆ แต่พี่สายชลถ่ายมา นึกว่า น้ำใสชมัด.. เอิ๊กกก.. ข้าน้อยขอคาราวะจริงๆ.. 

[สายชล]

ขอบคุณจ้ะหนูพิงค์....

ภาพครั้งนี้ ไม่ได้ลบตะกอน เลยค่ะ..... ถ้าเป็นภาพ Close up ปกติก็ไม่ค่อยจะเห็นตะกอนอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นภาพ  Wide Angle ละก็ตะกอนตรึมเลย  อย่างเช่นภาพเจ้า Bearded Leatherjacket นั่นเป็นต้น จะเห็นว่าตะกอนพราวแพรวเต็มจอไปหมด

คุณสายน้ำบอกว่าปล่อยไว้อย่างนั้นแหล่ะ จะได้รู้ว่าตะกอนที่เกาะสากมันมากมายเพียงใดค่ะ....

[สายชล]

การไปดำน้ำครั้งนี้ ได้มีโอกาสลงดำน้ำที่ เรือกูด ด้วย....

นับตั้งแต่จมเรือกูดเมื่อเกือบสองปีก่อน....สองสายได้ยินกิตติศัพท์ความขุ่นและความแรงของน้ำที่เรือกูดแล้ว ก็ไม่มีกะจิคกะใจจะไปดำน้ำที่เรือกูดเลย เพราะมีความรู้สึกว่าเรือครามที่เป็นเรือพี่เรือน้องกับเรือกูดก็เหมือนๆกัน  เราเคยประทับใจกับเรือครามมาแล้ว ก็เลยไม่อยากจะไปลงดำน้ำที่เรือกูดอีก 

อนึ่ง...สองสายได้เคยไปเยี่ยมเรือกูดครั้งยังประจำการอยู่ในกองทัพเรือที่สัตหีบ ซึ่งเราประทับใจกับเรือหลวงกูดในขณะนั้นมาก  เราจึงอยากจะเก็บภาพที่เคยเห็นไว้ในความทรงจำมากกว่า ภาพของเรือกูดที่ถูกนำไปตั้งแท่นไว้อยู่ใต้น้ำ



อ่านรายละเอียดเรื่องเรือกูดได้ที่...http://www.saveoursea.net/boardsmf/index.php?topic=912.0

[สายชล]

แต่เหตุกาณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นในวันเสาร์นั้น ทำให้เราต้องเปลี่ยนใจ....

หลังการดำน้ำสองไดฟ์ที่เกาะสากจบลงแล้ว....เรือมารีนก็ชักสมอขึ้น แล้วปล่อยให้เรือลอยไปเรื่อยๆตามกระแสน้ำ เพื่อรอให้เราทานข้าวกลางวันที่กลายเป็นข่าวบ่ายไปแล้วให้เรียบร้อยเสียก่อนจึงจะแล่นกลับเข้าฝั่ง 

ปรากฏว่าเรือมารีนลอยขึ้นไปทางด้านเหนือของเกาะสาก และไปหยุดลอยลำเหนือจุดที่เรือกูดตั้งแท่นอยู่ใต้น้ำ แล้วก็ลอยอยู่อย่างนั้นไม่เคลื่อนต่อไปไหนอีก จนเราสงสัยว่าเรือมารีนไปผูกทุ่นที่โยงกับเรือกูดไว้หรือไร เรือจึงไม่ลอยต่อไป 

จริงๆแล้ว.....เรือมารีนไม่ได้ผูกทุ่นแต่อย่างใด  สายชลนั้นถึงกับอึ้งและคิดไปเองว่า....เขาเชิญชวนเราให้ไปเยี่ยมเยือนถึงขนาดนี้แล้ว ไม่ลงดำน้ำที่เรือกูดก็คงจะไม่ดีแน่

พอถึงวันอาทิตย์....เราจึงตัดสินใจชวนน้องๆลงดำน้ำกันที่เรือกูดในช่วงบ่ายโมง ซึ่งขณะนั้นน้ำกำลังนิ่งสนิท  แต่ตะกอนก็ยังคงความเข้มข้นสมคำร่ำลือ ทำให้ทัศนวิสัยที่ตัวเรือกูดเหลือเพียง 1-2 เมตร เท่านั้น

สายชลไต่ลงไปตามสายทุ่นด้านท้ายเรือ  และคอยคุณสายน้ำที่จะตามลงมาอยู่ที่ปลายสายทุ่น เวลาผ่านไปกว่าห้านาที คุณสายน้ำก็ไม่ลงมาสักที  สายชลจึงตัดสินใจเกาะกราบเรือด้านซ้ายไปทางหัวเรือ  ระหว่างนั้นก็ได้เห็นว่าเรือกูดมีเพรียง...หอย....ฟองน้ำ และสัตว์เกาะติดอื่นๆมาจับเต็มไปหมดจนไม่เห็นโลหะที่เป็นตัวเรือแล้ว 

[สายชล]

ปะการังอ่อนเริ่มโผล่ยอดขึ้นมาให้เห็น....

[สายชล]

ปะการังอ่อนบางต้นก็สูงเกือบฟุต....

[สายชล]

ฟองน้ำกิ่งสีชมพูที่เกาะอยู่ทั่วลำเรือ ทำให้เรือกูดดูสดใสขึ้น...

[สายชล]

โครงเหล็กหลังคากันแดดที่คลุมท้องเรืออยู่  ในไม่ช้าก็คงจะหักโค่นมาเพราะเพรียงที่จับตัวหนาและหนัก....

[สายชล]

เสาระเบียงเรือส่วนมากก็มีสภาพเช่นเดียวกับโครงเหล็กหลังคาเรือ....

[สายชล]

แต่ไม่เข้าใจว่า เสาบางต้นทำไมไม่ค่อยมีสัตว์เกาะติดมาจับเหมือนต้นอื่นๆ...สีที่ใช้ทาเสาไว้ก็ยังเห็นได้ชัดเจน

[สายชล]

บันไดขึ้นลงระหว่างท้องเรือกับกราบเรือยังอยู่ในสภาพที่พอมองออกว่าเป็นบันได.....

[สายชล]

ฟองน้ำสีม่วงที่หัวบันไดดูสวยดีค่ะ....

[สายชล]

เพรียงตัวใหญ่ยักษ์ที่เกาะอยู่ทั่วไปตามตัวเรือ....

[สายชล]

หลากหลายชีวิตและสีสันที่มารวมตัวกันอยู่ในที่เดียวกัน...ทำให้เกิดภาพที่คล้ายกับศิลปินปาดป้ายสีลงไปบนผ้าใบอย่างสนุกสนาน....

[สายชล]

ปลาตัวเล็กตัวน้อยแหวกว่ายอยู่ทั่วไป....