กระดานข่าว Save Our Sea.net
พฤศจิกายน 16, 2025, 01:33:13 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ที่กระบี่ ..... มีอะไรน่าสนใจ นอกจากไปดำน้ำ  (อ่าน 15977 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« เมื่อ: สิงหาคม 30, 2007, 04:15:23 AM »

จากการที่รายการและกำหนดการของกิจกรรมที่ SOS จะไปทำที่ จ.กระบี่ ในเดือนธันวาคม 2550 อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง เพราะมาจากสาเหตุที่สมาชิกไปร่วมกันไม่ครบตามจำนวนที่กำหนดไว้ ซึ่งอาจทำให้ไม่สามารถดำเนินกิจกรรมปลูกป่าชายเลนไปตามแผนได้ จึงมีความจำเป็นที่ต้องมีแผนสำรอง สำหรับวันที่ 9 - 10 ธันวาคมไว้ล่วงหน้า

คุณสายชลได้แจ้งไว้ในกระทู้กิจกรรมแล้วว่า เราจะเปลี่ยนวันพายเรือคายัคจากวันที่ 10 มาเป็นวันที่ 9 แทน ในเมื่อไม่ได้ปลูกป่าชายเลนกัน เราก็จะพาไปพายเรือลัดเลาะชมป่าชายเลนแทน  รวมทั้ง พาไปทัศนาจรในจุดอื่นๆที่น่าสนใจอีก ซึ่งจะไปโพสต์ในกระทู้ห้องกิจกรรมหลังวันที่ 15 กันยายน 2550 ดังนี้

วันที่   8 ธันวาคม 2550 .......... ดำน้ำปล่อยปลาและม้าน้ำ
วันที่   9 ธันวาคม 2550 .......... พายเรือคายัคที่ท่าเลน และลงเล่นน้ำที่ ท่าปอมคลองสองน้ำ
วันที่ 10 ธันวาคม 2550 .......... ทัศนศึกษา และเล่นน้ำ ที่ สระมรกต และ น้ำตกร้อนคลองท่อม


ดังนั้น  ถ้ามีเหตุอันจำเป็นต้องเปลี่ยนไปใช้แผนสำรองนี้  ผมจึงอยากนำเรื่องราวเกี่ยวกับสถานที่เหล่านั้น มาแนะนำให้รู้จักกันไว้เสียก่อนครับ



* Khanap-Nam_01.jpg (99.99 KB, 750x499 - ดู 842 ครั้ง.)

* Ao-Nang_01.jpg (98.68 KB, 750x480 - ดู 913 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 30, 2007, 04:17:40 AM โดย สายน้ำ » บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
Mermaid
อีกไม่กี่กระทู้ก็ได้5ดาวแล้วเร่งมือหน่อย
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 269



« ตอบ #1 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2007, 04:24:55 AM »

หนูเคยไปอยู่ที่นึงเค้าเลี้ยงปลาดุกยักษ์ค่ะ แต่จำไม่ได้แล้วว่าเป็นส่วนไหนของกระบี่ เดี๋ยวจะลองสอบถามจากเพื่อนๆทางนู้นดูค่ะ น่าไปดูนะคะ ตัวหย่ายยยยยมากกกกกก.......
บันทึกการเข้า

Let's go to the sea, let's go to save our sea.
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #2 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2007, 04:26:40 AM »

เรียงตามลำดับกันไปนะครับ .....

เริ่มจาก ท่าเลน ก่อน ...

อ่าวท่าเลน ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองกระบี่ไปทางทิศตะวันตก ประมาณ 35 กม. อ่าวท่าเลนนี้ เป็นอ่าวขนาดเล็ก แต่เลื่องชื่อที่สุดในเรื่องของสถานที่ พายเรือคายัค ระดับโลกแห่งหนึ่ง มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลก เดินทางมาพายเรือคายัคกันเป็นจำนวนมากในแต่ละปี

อ่าวท่าเลนมีแนวเทือกเขาหินปูนที่สวยงาม  มีป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์มากมายในระบบนิเวศ ไม่ว่าจะเป็นนกนานาชนิด ลิงแสม หรือแม้แต่ค่างแว่น นักท่องเที่ยวสามารถพายเรือคายัคลัดเลาะไปตามเส้นทางป่าโกงกาง เพื่อชมความงามของธรรมชาติบริเวณอ่าวท่าเลนได้




ภาพจาก  :  www.truelife.com
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #3 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2007, 04:32:50 AM »

สองสายเคยไปพายเรือคายัคที่ท่าเลนมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว  รับรองได้ว่าไม่ไฮโซเหมือนที่เราไปพายที่บ่อท่อกันเมื่อครั้งที่ผ่านมา  โหด ... มันส์ ... ฮา  ครบทุกรส

ผมลองไปคัดโปรแกรมของบริษัทหนึ่งมาให้ดู  แต่คิดว่าบริษัทที่เราจะใช้บริการ คงจะไม่แตกต่างกันมากนักครับ

08.00 น   รับแขกจากโรงแรม มุ่งสู่ท่าเรือท่าเลน
09.15 น   เดินทางถึงท่าเรือท่าเลน พร้อมมัคคุเทศน์ ผู้ดูแลนักท่องเที่ยว และ อุปกรณ์ เรือคายัค (Sit-On-Top Kayak) จะนำเรือคายัคลงนํ้า พร้อม ฝึกสอนเทคนิคการพายเรือคายัคให้แก่นักท่องเที่ยว
09.30 - 12.30 น.   มัคคุเทศน์จะพาท่านพายเรือคายัค ไปตามคลองขนาบนํ้า ซึ่งเชิงผานั้นจะมีความสูงประมาณ 500 ฟุต ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีความงดงาม และยังสามารถชมความเงียบสงัดของธรรมชาติพบกับระบบนิเวศวิทยาที่สมบูรณ์ของป่าโกงกาง และ เฝ้าสังเกตชีวิตความเป็นอยู่ของสัตว์ป่าตามธรรมชาติ อย่างเช่น ลิง, นกเหยี่ยว, ดัวแลน (Lizard) และ อื่นๆ
12.30 น.   รับประทานอาหารกลางวัน, เล่นน้ำ,พักผ่อนตามอัธยาศัย
13.30 น   พายเรือคายัค ชมความงามต่อ
14.30 น.   เดินทางกลับสู่ท่าเรือท่าเลน
15.00 น   เดินทางจากท่าเลน เพื่อไปเล่นน้ำที่คลองสองน้ำ ( ท่าปอม )
16.45 น   กลับถึงโรงแรมโดยสวัสดิภาพ



ภาพจาก  :  www.truelife.com


ลองอ่านเรื่องราวบอกเล่าของผู้ที่เคยไปมาแล้วได้ที่นี่ครับ http://www.truelife.com/content_print.php?c=398713

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 30, 2007, 04:43:53 AM โดย สายน้ำ » บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #4 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2007, 04:37:17 AM »

ตามรายการของบริษัท เค้าจะพาเราไปเล่นน้ำที่ ท่าปอมคลองสองน้ำ กันอยู่แล้ว

เราจึงควรทำความรู้จัก ท่าปอมคลองสองน้ำ กันสักหน่อยนะครับ

   คลองท่าปอม เป็นลำธารสายสั้นๆ ยาวประมาณ 5 กิโลเมตร กำเนิดจากแอ่งน้ำผุดบนเขาช่องพระแก้ว ไหลผ่านสระน้ำกลางป่าก่อนที่ไหลลงสู่ทะเลอันดามัน โดยคลองท่าปอมอยู่บริเวณรอยต่อของน้ำจืดกับน้ำเค็มพอดี ยามน้ำทะเลหนุนสูง น้ำในคลองที่จืดสนิทจะกลายเป็นน้ำกร่อย ครั้นพอน้ำลง น้ำจืดจากป่าต้นน้ำก็จะดันน้ำทะเลออกหมด ทำให้พื้นที่ธารน้ำท่าปอมเป็นป่าพรุ ที่มีลักษณะพิเศษคือ มีน้ำเค็มและน้ำจืดไหลมาบรรจบกัน มีพื้นที่ราว 300 ไร่ กลายเป็นระบบนิเวศเล็กๆ อันชวนพิศวง เพราะนอกจากจะเป็นรอยต่อ 2 น้ำแล้ว ยังทำให้เกิดจุดบรรจบของ 3 ป่าอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน มีป่าโกงกาง พังกาหัวสุม ไม้พืชป่าชายเลน อยู่ร่วมกับชมพู่น้ำ ไม้ป่าพรุอย่างกลมกลืน โดยมีหลาวชะโอน ไม้ป่าดิบชื้น



* Tha-Pom_01.jpg (100.78 KB, 750x499 - ดู 868 ครั้ง.)

* Tha-Pom_02.jpg (102.88 KB, 750x499 - ดู 828 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #5 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2007, 04:38:19 AM »

    คลองท่าปอมหรือคลองสองน้ำ คลองแห่งนี้น้ำใสราวกระจก มองดูเป็นสีเขียวมรกต เนื่องจากมีสารละลายหินปูนหรือแคลเซียมคาร์บอร์เนตและกำมะถันปนอยู่มาก เป็นพื้นที่ซึ่งมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง ทั้งระบบนิเวศแบบป่าพรุน้ำจืด แบบพื้นที่ชุ่มน้ำ แบบป่าดิบ และแบบป่าชายเลน จึงเป็นที่อยู่อาศัยของทั้งปลาน้ำจืดและน้ำกร่อย



* Tha-Pom_05.jpg (100.18 KB, 432x650 - ดู 861 ครั้ง.)

* Tha-Pom_03.jpg (93.36 KB, 750x499 - ดู 1037 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #6 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2007, 04:42:16 AM »

สิ่งที่งดงามอย่างหนึ่งริมสายธารใสไหลเย็นของคลองท่าปอมก็คือ รากไม้ที่คดเคี้ยว แตกแขนงงดงาม เพราะไม้เหล่านี้ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่ในสภาพดินเลนดินชุ่มน้ำ ง่ายต่อการโค่นล้ม จึงต้องมีรากที่แผ่กว้างเป็นฐานยึดเกาะค้ำยัน รากไม้เหล่านี้ช่วยสร้างริมสองฝั่งคลองท่าปอมให้งดงามยิ่ง

และที่แน่ๆคือ  ที่ร้อนๆและเหน็ดเหนื่อยมาจากการพายเรือคายัค จะหายเป็นปลิดทิ้ง เมื่อได้ลงไปแช่น้ำที่นี่ .....

ความเย็นยะเยียบของน้ำ รวมทั้งกระแสน้ำที่ไหลแรง เป็นเสมือนวารีบำบัด ขจัดความร้อนรุ่มทั้งกายและใจออกไปได้หมด

ไม่เชื่อลองถาม น้องป้ากบดูเซะ .....



* Tha-Pom_04.jpg (99.01 KB, 432x650 - ดู 810 ครั้ง.)

* Tha-Pom_06.jpg (102.87 KB, 432x650 - ดู 805 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #7 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2007, 05:07:06 AM »

วันต่อไป .... เราจะเดินทางไป น้ำตกร้อน และ สระมรกต กัน

ลองมาอ่านข้อมูลจาก www.siamsouth.com ที่ให้รายละเอียดไว้ดังนี้ครับ



น้ำตกร้อน หรือน้ำตกร้อนคลองท่อม ตั้งอยู่ใน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ เป็นน้ำตกขนาดเล็ก สูงประมาณ 5 เมตร กว้างประมาณ 10 เมตร มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 42 องศาเซลเซียส

น้ำตกร้อนคลองท่อม เกิดจากแหล่งแร่น้ำร้อนใต้ดินที่ซึมขึ้นมาจากผิวดินลักษณะคล้ายน้ำพุร้อน และไหลไปรวมกันตามความลาดเอียงของพื้นที่ ซึ่งบางช่วงของสายน้ำก็จะมีควันลอยกรุ่นและคราบหินปูนธรรมชาติพอกอยู่ดูแล้วก็สวยแปลกตาดี

ส่วนบริเวณที่ธารน้ำร้อนไหลลดระดับลงสู่คลองท่อมจะมีลักษณะเป็นคล้ายชั้นน้ำตกเล็ก ๆ มีแอ่งน้ำอุ่นอยู่ข้างล่างให้นักท่องเที่ยวเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน ในขณะที่ด้านบนมีแอ่งน้ำเล็กๆ ดูคล้ายอ่างอาบน้ำหลายๆแอ่งให้นักท่องเที่ยวได้ลงไปนอนแช่น้ำแร่อุ่นๆ ซึ่งเชื่อว่าจะดีต่อสุขภาพ ที่ดูๆไปก็ประหนึ่งสปาที่ธรรมชาติออกแบบให้อย่างมหัศจรรย์

นอกจากจะมีอ่างอาบน้ำสปาธรรมชาติแล้ว บริเวณใกล้ๆ กับน้ำตกร้อนยังมีการสร้างพื้นที่สำหรับแช่น้ำแร่ที่ต่อท่อมาจากธารน้ำ ซึ่งคงจะเป็นการให้บริการที่ทั่วถึงกับทุกๆคนได้อีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ยังมี่ข่าวว่าในอนาคตทาง อบต.คลองท่อมยังมีโครงการสร้างมูลค่าเพิ่มจากน้ำตกร้อนด้วยการทำน้ำแร่ธรรมชาติบรรจุขวดขาย

ปัจจุบันน้ำตกร้อนคลองท่อมเป็นแหล่งท่องเที่ยว"อันซีนไทยแลนด์ " ที่มีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปเที่ยวชมกันไม่ได้ขาด

สำหรับน้ำตกร้อนคลองท่อมสามารถไปได้โดย จากตัวเมืองกระบี่เดินทาง ถึง อ.คลองท่อม เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 4038 แล้วเลี้ยวขวาไปตามถนนรพช.และตามป้ายบอกทางไปก็จะพบน้ำตกร้อน ที่สามารถไปเที่ยวชมได้ทุกวัน ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท.ภาคใต้เขต 4 โทร.0-7621-1036,0-7621-2213,0-7621-7138


ที่ตั้ง

อำเภอคลองท่อมอยู่ห่างจากตัวอำเภอเมืองกระบี่ ตามถนนเพชรเกษมหรือเส้นทางกระบี่-ตรังประมาณ 45 กิโลเมตร จากตลาดอำเภอคลองท่อม มีถนนลูกรังแยกไปทางตะวันออก ปากทางมีป้ายบอกเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขาประ-บางคราม เดินทางไปเป็นระยะ 10 กิโลเมตร จะถึงบริเวณพุน้ำร้อนหรือน้ำตกร้อน ถ้าเดินทางต่อไปอีกประมาณ 10 กิโลเมตร จะถึงบริเวณพุน้ำร้อนหรือสระมรกต ซึ่งยังอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางครามเช่นเดียวกัน แต่อยู่ติดกับภูเขาที่มีชื่อว่า เขานอจู้จี้ นอกจากนั้นในบริเวณนี้ยังมีพุน้ำร้อนกระจัดกระจายอยู่อีกหลายแหล่ง


ลักษณะของแหล่ง

พุน้ำร้อน (Hot spring หรือ Thermal spring) เป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติที่น้ำร้อนไหลพุ่งขึ้นมาจากใต้ดิน ในบริเวณใดบริเวณหนึ่งของพื้นผิวโลก อุณหภูมิของน้ำที่พุ่งขึ้นมาอาจจะอุ่นถึงเดือดพล่าน อาจจะมีหรือไม่มีแร่ธาตุและก๊าซละลายอยู่ด้วย ปริมาณน้ำที่ไหลพุ่งขึ้นมาจะแตกต่างกัน บางแหล่งอาจจะไหลพุ่งสูง บางแหล่งอาจจะเป็นเพียงไหลซึมขึ้นมา ซึ่งทำให้มีชื่อเรียกพุน้ำร้อนแตกต่างกัน เช่น พุน้ำร้อนที่มีกำลังอัดดันของน้ำแรงมาก จนทำให้น้ำพุ่งขึ้นสูงเป็นช่วงๆ บางแหล่งอาจพุ่งขึ้นสูงถึงกว่า 50 เมตร เรียกว่า พุน้ำร้อนไกเซอร์ (Geyser) ถ้ามีเพียงไอร้อนหรือก๊าซพุ่งขึ้นมา ตามรอยแยกในดินเรียกว่า พุก๊าซ (Fumarole) และถ้ามีเพียงน้ำร้อนไหลซึมขึ้นมาบนผิวดินเรียกว่าน้ำซึม (Seepage) ส่วนพุน้ำร้อนที่มีโคลนซึ่งเกิดจากการหลอมละลายของหินโดยน้ำร้อนเดือดปนพุ่งขึ้นมาด้วยเรียกว่า พุโคลน (Mud pot)

ในขอบเขตจังหวัดกระบี่ มีพุน้ำร้อนหลายแหล่ง มีทั้งที่อยู่ในบริเวณชายฝั่งทะเล ป่าชายเลน และพื้นที่บนบก พุน้ำร้อนเหล่านี้ มีสภาพรูปร่างตามธรรมชาติแตกต่างกันไปตามลักษณะภูมิประเทศ เกิดเป็นธรณีสัณฐาน (Geomorphology) เฉพาะแบบของพื้นที่พุน้ำร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแหล่งพุน้ำร้อนบนบกบริเวณบ้านบางคราม-บ้านบางเตียว อำเภอคลองท่อม มีพุน้ำร้อนที่มีลักษณะธรณีสัณฐานหลายรูปแบบ เช่น น้ำตกร้อน สระหรือบ่อน้ำร้อน ลานน้ำร้อน

ลักษณะของน้ำตกร้อนบ้านบางเตียวคือ พุน้ำร้อนที่ไหลขนานกับภูเขา โดยลัดเลาะไปตามระดับความลาดชันของผิวดินจนกระทั่งไหลผ่านตลิ่งตกลงสู่คลองท่อม ขณะที่ไหลลงสู่คลองท่อมมีลักษณะเป็นน้ำตกและน้ำที่ไหลมีอุณหภูมิสูงกว่าน้ำปกติ ชาวบ้านจึงเรียกว่า น้ำตกร้อน

พุน้ำร้อนที่บริเวณนี้ปรากฏให้เห็นเป็นหย่อม ๆ และส่วนมากน้ำจะไม่ร้อนมาก อุณหภูมิประมาณ 40-50 องศาเซลเซียส อาจเรียกพุน้ำอุ่นก็ได้ น้ำที่ไหลพุ่งขึ้นมาไม่ค่อยแรง บางแห่งเพียงแค่ไหลซึมขึ้นมาตามผิวดินซึ่งมีป่าละเมาะปกคลุมอยู่ แต่จะไหลตามความลาดเอียงจากระดับความสูงตั้งแต่ 80-20 เมตร จากระดับน้ำทะเล ไปรวมกันเป็นทางน้ำเล็ก ๆ เนื่องจากบริเวณนี้มีหินปูนอยู่ด้วย ทำให้น้ำมีสารละลายแคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO3) ปนเป็นปริมาณสูง

เมื่อน้ำที่มีสารละลายแคลเซียมคาร์บอเนตพุ่งขึ้นมาสู่ผิวดิน อุณหภูมิของน้ำลดลง คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่ละลายปนอยู่ในน้ำในรูปของกรดคาร์บอนิค (H2CO3) ก็จะสลายตัวขึ้นสู่บรรยากาศ ทำให้สารละลายแคลเซียมคาร์บอเนตตกตะกอนเป็นคราบหินปูน (Travertine) เวลาผ่านไปนานเข้า คราบหินปูนเหล่านี้ก็ทับถมพอกพูนขึ้นเป็นชั้นหนา มีสีขาวหรือสีครีม แต่ตามบริเวณน้ำตกจะมีสีเขียวเพราะตะไคร่น้ำเกาะ เนื่องจากคราบหินปูนนี้ก่อตัวขึ้นตามน้ำตกหรือน้ำที่ไหลตามความลาดชันของพื้นที่ จึงมีลักษณะเป็นชั้นแบบตะพัก (Travertine terraces) หรือเป็นหลั่นซ้อนกัน ถี่ ๆ (Travertine tiered) ซึ่งในบริเวณน้ำตกร้อนนี้จะเห็นชั้นหรือหลั่นดังกล่าวอยู่ที่บริเวณตลิ่งคลองท่อมเท่านั้น โดย ปรากฏเป็นระยะทางยาวประมาณ 30 เมตร กว้างประมาณ 2-3 เมตร ถึงแม้ว่าจะเป็นน้ำตกขนาดเล็ก แต่มีจุดเด่นตรงที่น้ำมีกำเนิดมาจากพุน้ำร้อนทำให้น้ำอุ่นกว่าที่อื่น บางช่วงจะเห็นควันกรุ่น ทำให้มีบรรยากาศแปลกตาประกอบด้วยต้นไม้ใหญ่สองฟากน้ำตก ทำให้เกิดความร่มรื่นและสงบ

แหล่งพุน้ำร้อนอีกแหล่งหนึ่งของบ้านบางเตียว คือสระมรกต พบอยู่ในที่ลาดเนินเขา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเขาน้อยจู๋จี๋ในระดับความสูงประมาณ 100 เมตร จากระดับน้ำทะเลปัจจุบัน ซึ่งจัดเป็นพื้นที่ป่าที่ราบต่ำ ในบริเวณนี้จะเห็นพุน้ำร้อนเป็นลักษณะของสระน้ำร้อน (Hot pool) ประมาณ 3 สระ สระหนึ่งมีรูปทรงกลมน้ำใสสะอาด มีชื่อเรียกว่า สระมรกต อยู่ในระดับล่างใกล้สำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และลานจอดรถ เป็นแหล่งที่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมมากที่สุด พุน้ำร้อนที่นี่เกิดเป็นบริเวณกว้าง นอกจากจะเกิดแบบไหลพุ่งขึ้นมาจนเกิดเป็นสระแล้ว ยังมีบางส่วนไหลซึมขึ้นมาตามผิวดินแล้วไหลลงไปตามลาดเนินเขา ส่วนหนึ่งไหลลงสู่สระมรกตและแหล่งน้ำเบื้องล่าง อุณหภูมิ ของน้ำร้อนที่นี่ไม่ร้อนมาก ประมาณ 30-50 องศาเซลเซียส บริเวณที่น้ำร้อนไหลซึมขึ้นมาจะมีอุณหภูมิสูงกว่าอุณหภูมิของน้ำในสระ ตามขอบสระมีคราบหินปูนจับอยู่แน่นแข็ง ส่วนในบริเวณลาดเนินเขาที่น้ำร้อนซึมขึ้นมามีคราบหินปูนตกตะกอนอยู่เช่นกัน แต่ยังไม่จับตัวแข็ง เมื่อย่ำลงไปจึงรู้สึกนุ่มและลื่น

สาหร่าย (Algae) และแบคทีเรีย (Bacteria) ที่อาศัยอยู่ในสระน้ำร้อน ทำให้น้ำในสระมีสีต่าง ๆ กันตามอุณหภูมิของน้ำ บริเวณที่อยู่ใกล้ศูนย์กลางพุน้ำร้อนซึ่งมีความร้อนสูงกว่าที่อื่นจะมีสีน้ำเงิน และมีสีเขียวเมื่อน้ำอุ่นขึ้น ส่วนตามขอบสระหรือตามร่องน้ำที่ไหลลงสระ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่น้ำร้อนพุขึ้นมานั้น จะมีสีน้ำตาลหรือสีขาว


ธรณีวิทยาและการเกิดพุน้ำร้อน

ชั้นหินในบริเวณแหล่งน้ำพุร้อนแห่งนี้ ส่วนมากเป็นหินทราย (Sandstone) หินทรายแป้ง (Siltstone) และหินกรวดมน (Conglomerate) หินมีสีแดง สีน้ำตาลแดง เหลือง และขาว และเกิดร่วมกันโดยจะเป็นชั้นหินทรายหนา มีหินทรายแป้งสลับ และมีหินกรวดมนเกิดเป็นหน้าผาตั้งชันอยู่บนสุด ในบางบริเวณจะมีหินปูน (Limestone) เกิดแทรกอยู่ด้วย มีทั้งที่เป็นชั้นและเป็นเลนส์ หินปูนนี้บางแห่งจะโผล่ให้เห็นบนยอดเขา แต่บางแห่งเป็นหินโผล่ระดับผิวดิน หินทั้งหมดนี้เป็นหินชั้น พบซากดึกดำบรรพ์จำพวกใบไม้และซากหอยสองฝาในชั้นหินด้วย ช่วงอายุของชั้นหินอยู่ในมหายุค มีโซโซอิกตอนปลาย (Late Mesozoic) หรือประมาณ 150 ล้านปีที่ผ่านมา นอกจากนั้นในบริเวณนี้ยังพบหินภูเขาไฟ จำพวกหินไรโอไลต์ (Rhyolite) และพบหินอัคนี (Igneous rock) จำพวกหินแกรโนไดออไรต์ (Granodiorite) ด้วย

หินทราย หินกรวดมน และหินปูน จัดเป็นหินที่มีรูพรุน และมีความซึมได้สูง ส่วนหินปูนมักเป็นหินที่มีโพรงและรอยแตกในเนื้อหินมาก หินเหล่านี้จึงมีความเหมาะสมในการกักเก็บน้ำ ประกอบกับพื้นที่อำเภอคลองท่อม มีหินอัคนีแทรกดันหินทรายและหินกรวดมนขึ้นมา เห็นได้ชัดที่บริเวณยอดเขาน้อยจู๋จี๋ ทำให้เกิดรอยเลื่อน รอยแยก เป็นช่องทางให้น้ำร้อนจากใต้ดินไหลพุ่งขึ้นสู่พื้นดินได้ โดยรอยเลื่อนส่วนมากเป็นแนวเดียวกับการวางตัวของภูเขา คือแนวทิศตะวันตกเฉียงเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้ ค่อนมาทางเหนือ-ใต้

ปรากฏการณ์ของน้ำร้อนใต้โลก (Geothermal water) และพุน้ำร้อนมักพบอยู่ในพื้นที่ของภูเขาไฟที่ยังมีพลัง (Active) อยู่ในปัจจุบัน หรือตามแนวขอบของแผ่นเปลือกโลก (Edges of the Earth's plates) หรือตามแนวรอยเลื่อน (Faults)
ส่วนมากน้ำร้อนใต้โลกก็คือ น้ำบนพื้นผิวโลกที่ไหลซึมลงไปผ่านชั้นดิน และหิน แล้วในที่สุดถูกกักเก็บไว้ในชั้นหินที่มีความซึมได้สูง หรือชั้นหินที่มีรูพรุน (Porous rocks) นอกจากนั้นบางส่วนอาจเป็นน้ำในอดีตที่มีอยู่ในชั้นหิน ชั้นหินเหล่านี้จะอยู่ใต้พื้นผิวโลกในระดับความลึกพอควร และน้ำกลายเป็นน้ำร้อนเพราะได้รับความร้อนภายในโลกที่อยู่ลึกลงไป แหล่งความร้อนหรือต้นกำเนิดความร้อนใต้โลกคือ มวลหินหนืด (Magma chamber)

พลังงานความร้อนจากหินหนืดใต้โลกจะถ่ายเทไปสู่ชั้นหินที่ปิดทับอยู่ด้านบน ทำให้ชั้นหินเหล่านั้นมีความร้อนสะสมอยู่ด้วย (Heated rock) ความร้อนจากหินเหล่านี้จะถ่ายเทหรือแผ่ไปสู่ชั้นหินเนื้อพรุน (Porous rock) ซึ่งอยู่ถัดขึ้นไป ทำให้น้ำในบริเวณนั้นกลายเป็นน้ำร้อน และเมื่อมีความดัน (Pressure) เนื่องจากน้ำหนักของน้ำเองกับน้ำหนักของชั้นหินที่ปิดทับอยู่ข้างบน ทำให้น้ำร้อนบริเวณนี้มีความร้อนเพิ่มขึ้นอาจมีอุณหภูมิสูงถึง 260 องศาเซลเซียส

น้ำร้อนที่มีอุณหภูมิสูงนี้จะมีน้ำหนักน้อยกว่าน้ำเย็นที่ไหลซึมลงมาจากชั้นหินตอนบนหรือน้ำจากผิวดิน จึงทำให้น้ำร้อนอุณหภูมิสูงนี้ไหลย้อนขึ้นสู่ผิวดินตามแนวรอยเลื่อน รอยแตก และรอยแยกในหินโดยไม่มีสิ่งกีดขวาง ถ้าน้ำร้อนเหล่านี้ผสมกับน้ำเย็น ซึ่งอาจจะเป็นน้ำบาดาล ก็จะทำให้น้ำร้อนคลายความร้อนลงไม่เดือดพล่าน แต่จะพุ่งขึ้นเป็นพุน้ำร้อนเมื่อขึ้นสู่พื้นผิวโลก น้ำร้อนที่พุ่งขึ้นมาสู่พื้นผิวโลกจะปรากฏให้เห็นในรูปแบบต่าง ๆ กัน ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมตามแนวทางที่มันไหลพุ่งขึ้นมา


ภาพจาก   :   www.siamsouth.com



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 30, 2007, 05:10:31 AM โดย สายน้ำ » บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #8 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2007, 05:13:52 AM »

สองสายเคยไปน้ำตกร้อนครั้งแรกกับเพื่อนๆที่เลตรัง แต่ไปถึงก็มืดแล้ว ขออนุญาตเข้าไป เพราะเดินทางมาไกล ลุงที่เฝ้าปากทางแกก็ยอม  จึงได้ภาพแบบมืดๆมาให้ชมกัน

ส่วนครั้งหลังที่ไปกับสมาชิก SOS หลังปลูกป่าชายเลน   ฝนตกอย่างหนัก กล้องไม่ได้ใส่ Housing ไปด้วย จึงไม่มีภาพมาฝากเลย



* Hot-Waterfall_01.jpg (101.36 KB, 750x499 - ดู 772 ครั้ง.)

* Hot-Waterfall_02.jpg (98.13 KB, 750x499 - ดู 786 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #9 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2007, 05:29:39 AM »

เลยไปดูสระมรกตกันครับ .....

สระมรกต

จากข้อมูลตอนต้นๆ เราจะทราบแล้วว่า ไปสระมรกต จะต้องเดินทางต่อไปจากน้ำตกร้อนอีกประมาณ 10 กิโลเมตร  ซึ่งยังอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางครามเช่นเดียวกัน แต่อยู่ติดกับภูเขาที่มีชื่อว่า เขานอจู้จี้ นอกจากนั้นในบริเวณนี้ยังมีพุน้ำร้อนกระจัดกระจายอยู่อีกหลายแหล่ง

เราต้องเดินเข้าไปจากปากทางเข้า ประมาณ 800 เมตร   ซึ่งทางเดินชมธรรมชาตินี้ก็จะร่มรื่นไปด้วยแมกไม้ และข้างทางจะมีสายน้ำตก ไหลข้างๆตลอดทาง  พอเดินถึงบริเวณสระก็จะเห็นพลับพลาที่ประทับ ตั้งอยู่ริมสระ ซึ่งเป็นพลับพลาที่เขาทำเอาไว้ รองรับ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา แต่เค้าห้ามขึ้นไปนะครับ



* Sra-Morakot_01.jpg (107.76 KB, 750x499 - ดู 768 ครั้ง.)

* Sra-Morakot_02.jpg (103.17 KB, 750x499 - ดู 774 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #10 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2007, 05:31:13 AM »

ที่เราจะเห็นน้ำที่นี่ ออกเป็นสีเขียวมรกต เหตุก็เป็นเพราะ แบคทีเรีย และสาหร่ายในน้ำซึ่งจะทำให้น้ำมีสีต่างๆแตกต่างกัน และ นอกจากนั้น สายน้ำแร่ใต้ดินที่มีอยู่บริเวณนี้ ยังทำให้สารแขวนลอยในน้ำตกตะกอน จึงทำให้น้ำมีความใสมากด้วย

ถ้าเราเดินขึ้นไปทางตอนเหนือก็จะเห็นสายน้ำที่ไหลลงมารวมกันจนกลายเป็นสระมรกตแห่งนี้ แล้วถ้าเราเดินไปอีกจนถึงต้นน้ำเราก็จะเจออีกสระหนึ่งซึ่งน้ำจะใสและเป็นสีออกน้ำเงินเลยครับ



* Sra-Morakot_03.jpg (102.53 KB, 432x650 - ดู 779 ครั้ง.)

* Sra-Morakot_04.jpg (97.78 KB, 750x499 - ดู 750 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #11 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2007, 05:34:38 AM »

เมื่อเดินเลยน้ำตกขึ้นไป ก่อนจะเข้าป่าไม้ .... หันกลับมามองทางอ่างน้ำ จะเห็นศาลาที่ประทับอยู่ด้านล่างอย่างชัดเจน



* Sra-Morakot_06.jpg (103.51 KB, 750x499 - ดู 743 ครั้ง.)

* Sra-Morakot_05.jpg (105.64 KB, 432x650 - ดู 763 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #12 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2007, 05:37:44 AM »

ตามทางเดินเหนือน้ำตก จะมีน้ำไหลผ่าน  แต่เนื่องจากเป็นหินปูน จึงสามารถเดินได้ค่อนข้างสบายเพราะไม่ลื่น

แต่ ... ยังไม่วาย มีคนมือบอนมาขูดสลักชื่อเอาไว้อีก ....



* Sra-Morakot_07.jpg (101.43 KB, 432x650 - ดู 728 ครั้ง.)

* Sra-Morakot_13.jpg (99.22 KB, 750x499 - ดู 700 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 30, 2007, 05:49:20 AM โดย สายน้ำ » บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #13 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2007, 05:40:29 AM »

เมื่อเข้าไปในแนวป่า  ความชื้นจะสูงขึ้น ทำให้ร้อนและเหงื่อออกมาก ....

แต่บรรยากาศรอบตัว สวยงามมาก ... ไม่ว่าจะเป็นรากไม้ใหญ่ที่เลื้อยเหมือนงูยักษ์อยู่กลางทางเดิน หรือ ลำธารน้ำใสไหลร้อนแบบนี้



* Sra-Morakot_08.jpg (108.57 KB, 750x499 - ดู 697 ครั้ง.)

* Sra-Morakot_09.jpg (101.53 KB, 750x499 - ดู 697 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #14 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2007, 05:43:20 AM »

เดินไปคุยกันไป .... ไม่นานก็ถึงจุดหมายปลายทางที่สงบ ร่มรื่น และงดงามคือ สระน้ำผุด



* Sra-Morakot_10.jpg (103.52 KB, 750x499 - ดู 683 ครั้ง.)

* Sra-Morakot_11.jpg (99.41 KB, 750x499 - ดู 686 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
หน้า: [1] 2 3   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.062 วินาที กับ 20 คำสั่ง