น้องแม่หอยท่องเดนมาร์ค

[แม่หอย]

  วันนั้นอากาศเย็น (8 องศา) ทีแรกฟ้าใสแจ่ม แต่พอไปเดินเล่นในป่าก็มีฝนโปรยปรายละอองมาให้เย็นชุ่มฉ่ำลงไปอีก.. ต้นไม้ในบริเวณสวนป่านั้นมีพวกต้นโอ๊ค ต้นบีช ฮาเซลนัทก็มีค่ะ แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเขาเอาลูกมากินสดๆ ได้..

ในภาพนี้จำไม่ได้ซะแล้วว่าโอ๊คหรือบีช ..ต้นใหญ่มาก

[แม่หอย]

  แม่หอยชอบมากค่ะ เดินเล่นในป่า อากาศสดชื่น หายใจเต็มปอดชุ่มฉ่ำ..
เจอดอกบัวตองฝรั่ง (ตั้งชื่อเอง) กลีบผอมเชียว..

[แม่หอย]

อากาศเย็นสบาย.. ฝนปรอยมานิดเดียวก็หลบไปเหลือไว้แต่ความสดชื่น แสงแดดสวยได้ที่ แม่หอยเลยให้น้องแก้วเป็นนางแบบถ่ายภาพแบบมีแสงส่องมาทางด้านหลัง (ยืมกล้องของคุณชายมาถ่าย) ชอบมาก เลยอยากได้ภาพตัวเองยังงี้มั่ง .. ให้คุณชายก้องถ่ายให้ ดูซิ ฝีมือใครเหนือชั้นกว่า..  เอ๊ะ หรือว่านางแบบสวยไม่เท่ากัน ..เหอๆ..

[แม่หอย]

  พอเดินกลับมาบริเวณพิพิธภัณฑ์ มีรถฟอร์ดรุ่นเก๋าจอดอยู่ริมกำแพงอาคารเก่าอายุกว่าสองร้อยปี เห็นตัวอักษรระบุไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1795 แน่ะ ผนังกำแพงอิฐมีต้นไม้ปลูกให้ไต่แผ่ไปตามผนัง สวยเก๋เชียวค่ะ..

[แม่หอย]

  จาก Moesgaard คุณลุงขับรถพาไปเที่ยวในป่าใกล้ๆ ไปแวะที่ Skovmolle (molle น่ะตัวโอมีขีดทะแยงผ่านตัวอีกค่ะ) เฮ้อ.. เขียนลำบากจริง.. มีบ้านโบราณมีกังหันน้ำแบบโบราณ มีร้านกาแฟตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์แบบสมัยเก่า (คราวนี้ไม่ได้เข้าไปกินอะไร แต่เมื่อ 6 ปีก่อนเคยเข้าไปนั่งจิบกาแฟจำได้ว่าเสิร์ฟมาเป็นกา กินเสร็จให้ตาค้างกันไปเลยล่ะค่ะ 

[แม่หอย]

  บ้านเก่าแก่อายุกว่า 150 ปี  ตั้งแต่ปี 1852 แน่ะค่ะ..

[แม่หอย]

  .. คงทั้งเก่าและชุ่มชื้นมาก มีลำธารไหลผ่าน หลังคาบ้านมีตะไคร่มอสขึ้นเขียวสวยเชียวค่ะ..

[แม่หอย]

จากป่า คุณลุงก็พาไปชมวิวบริเวณชายฝั่ง Kysing Fjord ที่คุณน้องก้องเคยมาเก็บตัวอย่างหอยแครงทำงานวิจัยสมัยเรียนปริญญาโทที่นั่น .. ประมาณว่าให้คุณชายได้รำลึกความหลัง ไม่รู้เกี่ยวข้องกับสาวๆ มั่งหรือเปล่า  แต่ที่ได้ยินคือเก็บตัวอย่างหอยมาทำวิจัยแล้วก็เลยเก็บมาต้มกินด้วย .. แต่ภายหลังเจอว่ามีพยาธิเพียบ คิดแล้วสยองขวัญ.. หอยแครงของที่นั่นหน้าตาไม่เหมือนหอยแครงเรานะคะ เป็นคนละชนิด แต่เรียกว่า cockle เหมือนกัน ของเขาเป็นสกุล Cerastodema  ส่วนของเราเป็นสกุล Anadara .. ของเราคงไม่มีพยาธิเท่าไร ฮิๆ..

[แม่หอย]

  ลงไปชมวิวท่าเรือชายทะเลเล็กน้อย ..
คุณก้องรำพึงรำพันอยากกินทอดมันปลา หรือ ฟิช ฟิคคาเดลล่า ร้านที่ท่าเรือนั่น เห็นว่าอร่อยเหาะ ตอนเธอมาทำวิจัยต้องซื้อไปกินบ่อยๆ แต่โชคไม่ดีวันนี้ร้านปิดเลยอดชิมซะ

[แม่หอย]

  จากนั้นก็ไปแวะดูโบสถ์หรือวิหาร เรียกไม่ถูก แต่ฟังได้ความว่าเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเก่าแก่สมัยก่อน แล้วทางเมืองเขาคงรักษาไว้เป็นเหมือนโบราณสถานแห่งหนึ่ง  ตรงข้างทางเข้ามีกระท่อมดินเหนียว ดูยังกะบ้านชนบทแถวๆ อินเดียแน่ะค่ะ .. เห็นแล้วแปลกดีว่ายุโรปก็ยังมีกระท่อมแบบนี้เหมือนกัน

[แม่หอย]

  ผนังวิหารทำด้วยไม้แผ่นใหญ่หนา มีการตกแต่งด้วยลวดลายและสีเข้มขรึม ดูเรียบๆ แต่ขลังยังไงชอบกล..

[แม่หอย]

ที่นี่ดูเป็นชนบทมากเลยค่ะ .. ตรงลานใกล้ๆ กับโบสถ์ มีคอกที่ใช้กิ่งต้นวิลโล่หรือหลิว ปักชำเป็นแนวรั้ว แตกกิ่งใบเติบโตงามเชียว ไม่รู้เอาไว้ทำอะไร แต่สวยดีค่ะ ดูน่าจะเป็นเหมือนคอกสัตว์ .. แต่ตอนนี้ขอให้คนเข้าไปแอ็คท่าบันทึกภาพไว้ชมเล่นก่อน

[แม่หอย]

  มีเตาหลอมโลหะโบราณ ทำด้วยดิน เอาหินที่มีแร่โลหะใส่ลงไป เผาโหมไฟให้ร้อนสุดจนโลหะหลอมละลาย ช่องด้านล่างสำหรับให้โลหะที่หลอมไหลออกมารวบรวมไปใช้ทำอาวุธหรืออุปกรณ์อื่นๆ ต่อไป..
  ดูท่าว่าคงจะมีคนขี้สงสัยว่าจะใช้งานได้จริงหรือไม่ เลยเอาแท่งเหล็กไปลองเผาหลอมดู เห็นร่องรอยว่าใช้ได้จริงจากเศษเหล็กที่ใหม้ละลายไปส่วนหนึ่ง..

เตานี่ดูไปก็คงคล้ายๆ เตาเผาสำหรับตีเหล็กสมัยโบราณในบ้านเรานะคะ เห็นแล้วทึ่งในภูมิปัญญาคนสมัยก่อน

[แม่หอย]

.. หลังจากนั้น ลุงยอนพาไปแวะชมวิวที่จุดปิคนิคที่เรียกว่า Eagle nest ก่อนกลับบ้าน ..สงสัยว่าแถวนั้นจะมีนกอินทรีไปทำรังหรือไง แต่ที่ไปก็ไม่เห็นสักตัว เห็นแต่หุ่นนกอินทรีอยู่กลางสนาม..

[แม่หอย]

   มีคุณครูพาเด็กนักเรียนมาปิคนิค กินอาหารกลางวันกันอยู่กลุ่มหนึ่ง ดูน่าสนุก ที่เดนมาร์กนี่เจอครูพาเด็กๆ ไปทัศนศึกษานอกสถานที่อยู่บ่อยเลยค่ะ.. เด็กๆ แก้มแดงน่ารัก ได้ทักทายฮัลโหลกันตามธรรมเนียม