พฤศจิกายน 13, 2025, 05:31:19 PM
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว
: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ค้นหา
สมาชิก
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
กระดานข่าว Save Our Sea.net
>
หมวดหมู่ทั่วไป
>
สรรพชีวิตแห่งท้องทะเล
(ผู้ดูแล:
สายชล
,
สายน้ำ
) >
ไปดูวาฬ
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: ไปดูวาฬ (อ่าน 9014 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 4627
ไปดูวาฬ
«
เมื่อ:
พฤศจิกายน 04, 2007, 11:58:18 PM »
ไปดูวาฬ (1)
: ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์
วาฬไม่ใช่ปลา เธอเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม จุดสังเกตแสนง่ายคือแพนหางขนานกับพื้น โบกขึ้นลงเป็นจังหวะ ต่างจากปลาที่โบกหางไปซ้ายไปขวา วาฬยังหายใจด้วยปอด ต้องโผล่ขึ้นมาสู่ผิวน้ำเพื่อพ่นอากาศออกทางจมูกที่อยู่บนหัว เกิดเป็นฝอยน้ำฟูฟ่องเห็นแต่ไกล วาฬบางชนิดอยู่หายใจใกล้ผิวน้ำเพียงไม่กี่นาที ก่อนดำดิ่งลงสู่ใต้ท้องทะเลลึกนานครึ่งค่อนชั่วโมง บางชนิดอยู่ใต้น้ำสั้นกว่านั้น
เมื่อวาฬต้องขึ้นมาเหนือน้ำ วาฬกับมนุษย์จึงมีโอกาสเจอกัน สมัยก่อนเจอแล้วคนชอบวาฬไม่ชอบ เพราะเราจะใช้ฉมวกใช้หอกทิ่มแทงวาฬ เพื่อนำน้ำมันและเนื้อมาใช้ ปัจจุบันโลกเปลี่ยนไป การล่าวาฬแทบไม่เหลือ ยกเว้นบางประเทศที่ชอบใช้ข้ออ้างเพื่อการวิจัย (วิจัยว่าทำยังไงถึงจะทำให้สัตว์สูญพันธุ์ได้) วาฬกับคนมีโอกาสเจอหน้ากันแบบเป็นสุข ๆ เถิด กลายเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวดูวาฬ Whale Watching
วาฬแบ่งเป็น 2 กลุ่ม พวกหนึ่งคือวาฬมีเขี้ยว เช่น วาฬเพชรฆาต วาฬสเปิร์ม (โมบี้ดิ๊ก) อีกกลุ่มคือวาฬบาลีน ภายในปากเต็มไปด้วยบาลีนหรือซี่กรอง มีไว้เพื่อกรองคริลกินเป็นอาหาร หลายคนเข้าใจว่า วาฬกินแพลงก์ตอนตัวเล็กจิ๋ว แต่คริลตัวไม่เล็กนะครับ ใหญ่ประมาณกุ้งขาวไซส์เล็กที่ขายกันตามตลาด คริลจะอยู่รวมเป็นฝูงในทะเลเขตหนาว เป็นที่ชื่นชอบของวาฬบาลีนทั้งหลาย อ้าปากฮุบหนเดียวได้อาหารนับร้อยกิโลกรัม
โดยทั่วไป แหล่งอาหารของวาฬบาลีนมักอยู่ในที่ห่างไกล ยากที่เราจะไปเห็น สองแหล่งใหญ่คือขั้วโลกเหนือกับขั้วโลกใต้ แต่ใครจะมีปัญหาหาตังค์ไปได้หนอ อีกแห่งที่ผมรู้อยู่ในทะเลบ้านเรา อยู่ห่างฝั่งเพียง 1-3 กิโลเมตร ใกล้กรุงเทพก็ปานนั้น ผมกำลังกล่าวถึงทะเลบ่อนอก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นถิ่นที่วาฬบรูด้าเข้ามากินปลาอกแลในช่วงปลายฝนต้นหนาว เจอแล้วตื่นเต้นเกินคาดเลยครับ น่าเสียดายที่กิจกรรมนี้ไม่ได้รับการสนับสนุนเท่าที่ควร เราขาดข้อมูลหลายประการ รวมทั้งผู้ที่รณรงค์ให้เกิดกิจกรรมนี้ก็โดนสอยร่วง (คุณเจริญแห่งบ่อนอก) ถึงทุกวันนี้ ยังจับตัวการไม่ได้ ใครอยากไปดูวาฬในเมืองไทย คงต้องหาทางกันเอง แนะนำให้ไปติดต่อคุณกระรอก แฟนคุณเจริญ เธอยังอยู่ที่บ่อนอก ค่อย ๆ คลำทางไปเดี๋ยวก็คงเจอเอง
เมื่อเมืองไทยมีของดี แต่ยังไม่ยอมใช้ ผมจึงจำต้องพาคุณไปเมืองนอก เราจะไปแอฟริกาใต้ ผมไปในฐานะวิทยากรของทัวร์เอื้องหลวง Shark Viewing & Whale Watching Exclusive Tour ผมเจอฉลามตัวใหญ่ด้วยครับ เป็นแม่ฉลามขาวยาวตั้งสี่เมตร เหตุการณ์เร้าใจดีชะมัด แต่ขอเก็บไว้เล่าในโอกาสต่อไป
ผมขอเริ่มต้นด้วยภูมิประเทศ แอฟริกาใต้ชื่อก็บอกแล้วว่า อยู่ใต้สุดของแอฟริกา ทวีปใหญ่เป็นอันดับสองของโลก พื้นที่ทั้งหมดมากกว่า 30 ล้านตารางกิโลเมตร แอฟริกาใต้มีพื้นที่ประมาณ 1.2 ล้านตารางกิโลเมตร ใหญ่เป็นสองเท่าของเมืองไทยครับ
ใต้สุดของประเทศ เป็นเขตที่สองมหาสมุทรมาบรรจบ หนึ่งคือแอตแลนติก อีกหนึ่งคืออินเดีย รอยต่อของสองทะเลยักษ์เป็นแหลมที่รู้จักกันดีทั่วโลก ในนามของ Good Hope หรือแหลมที่ขึ้นชื่อลือชาหนักหนาในเรื่องพายุและคลื่นลม สมัยก่อนยังไม่มีคลองสุเอซ เรือจากยุโรปต้องวิ่งอ้อมแอฟริกาเพื่อมาเอเชีย ล้วนต้องผ่านแหลมนี้ หลายลำเจอทั้งพายุทั้งหมอกทะเล (sea mist) ชนหินโสโครกจมบุ๋ง ๆ ไปหลายลำ จนชาวเรือต้องตั้งชื่อแหลมให้เป็นมงคลเข้าไว้ ข้าน้อยยังไม่อยากลอยคอในทะเลที่น้ำเย็นระดับ 15 องศา
เมื่อมีเรือผ่านเยอะ จึงมีเมืองท่าเป็นธรรมดา ชาวดัตช์นักท่องทะเลเป็นผู้สร้างไว้ ต่อมารู้จักในนาม Cape Town แม้ยุคหลังการเดินเรือจะเปลี่ยนไปใช้คลองสุเอซ แต่เคปทาวน์เจริญสืบต่อมา จนกลายเป็นเมืองใหญ่ มีผู้คนอยู่สามล้าน รวมทั้งเป็นจุดหมายของทุกทัวร์ไทยที่ไปแอฟริกาใต้
การมาเคปทาวน์ในช่วงอื่นของปี การันตีว่า คุณจะได้เห็นวิวสวยงาม เจอนกเพนกวินเป็นของแน่ เจอแมวน้ำเยอะแยะด้วยนะ แต่คุณจะพลาดโอกาสเจอสัตว์ใหญ่ที่สุดในโลก ยกเว้นคุณมาในช่วงเดือนกันยาตุลาไปจนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ช่วงนี้คือเวลาที่แม่วาฬ Southern Right Whale กำลังเลี้ยงลูก เธอจะพาลูกโทนว่ายเข้าใกล้ฝั่ง เพื่อหลีกหนีจากศัตรูตัวฉกาจ เจ้าวาฬเพชรฆาตนักเขมือบลูกวาฬ
ทัวร์เอื้องหลวงมาดูวาฬ ชื่อก็บอกแล้วว่า มาแล้วต้องเห็นวาฬ ทีแรกผมก็ใจเต้นตุ๊มต่อม กลัวว่าเจอวาฬแค่พ่นน้ำปู้ด ๆ เห็นเป็นฝอยนิดหน่อย จะคุ้มกับการข้ามโลกท่องทะเลมั้ยเนี่ย ใจผมเต้นตุบตับไปเรื่อย จวบจนถึงวันที่สองของการเดินทาง เมื่อพวกเรานั่งเรือออกไปดูแมวน้ำที่ Haut Bay เรือออกจากท่ามาได้ไม่ถึงร้อยเมตร ผู้คนบนเรือโวยวายกันยกใหญ่ โน่นแน่ะนกเขาคูจุ๊ก...จุ๊กกรูนกมันเฝ้าดูหาชู้มัน เอ๋...ไม่ใช่ ตรงโน้นสิมีอะไร นั่นไง...วาฬ !!!
ผมรีบวิ่งไปหัวเรือ ทันเวลาเห็นครีบของวาฬโผล่น้ำขึ้นมาเป็นเงาดำ ตัดกับประกายแดดสะท้อนระลอกขึ้นระยิบระยับ พอถ่ายภาพได้สองสามรูป ผมรีบชี้ให้ลูกทัวร์ดู นั่นไงครับวาฬ มาดูวาฬได้เห็นวาฬ ทัวร์เราประสบความสำเร็จแล้วชะเอิงเงย ลูกทัวร์ตาคมค้อนขวับ อาจารย์ขาหนูอุตส่าห์เป็นพี่บอลรักคุณเท่าฟ้า มากับเอื้องหลวงทริปพิเศษ เงินก็จ่ายแพงกว่าชาวบ้าน แล้วทำไมหนูได้เห็นแค่เนี้ย คนอื่นเค้าก็เห็นเหมือนกันนะคะ เธอบุ้ยใบ้ให้ผมดูคนทัวร์ร่วมครึ่งร้อยที่ลงเรือลำเดียวกัน ยังไม่นับอีกหลายร้อยคนที่มาเที่ยวแอฟริกาใต้ในช่วงวันหยุดยาวเดือนตุลา
พูดอีกก็ถูกอีก จ่ายเงินเยอะกว่า ย่อมต้องหวังสูง ผมเตรียมการไว้แล้วครับ ทัวร์ทั่วไปเค้าลงเรือกันครึ่งชั่วโมง เห็นแมวน้ำเจอวาฬเป็นของแถม แต่เอื้องหลวงทริปพิเศษตะลุยไปจนถึงใจกลางอาณาจักรวาฬและฉลามขาว เรามุ่งหน้าต่อไปเมือง Hermanus ระหว่างทางผมหลับ แต่ตกใจตื่นเมื่อได้ยินเสียงลูกทัวร์กรี๊ด พากันชี้โบ๊ชี้เบ๊ผ่านกระจกทางด้านขวาของรถบัส ผมพยายามเบิ่งตามาดูบ้าง ใจคิดว่าเป็นลิงบาบูนที่ชอบมาเดินเล่นริมทะเลแถวนี้ แต่ดูอีกที เฮ้ย...วาฬ มากันถึงริมตลิ่งเลยหรือนี่ ไม่ใช่ตัวเดียว แต่มาทั้งแม่ทั้งลูก
ตลอดเส้นทางเลียบริมทะเลชั่วโมงเศษ ผมเพิ่งรู้ซึ้งถึงคำว่าดูวาฬ ทุกครั้งเราต้องนั่งเรือฝ่าคลื่นไปกลางทะเล ดูวาฬไปนั่งแหวะไปตามประสาคนเมาคลื่น (คนอื่นนะ มิใช่ผม) จะมีก็ครั้งนี้แหละ นั่งรถบัสกระดิกเท้าชมวาฬ ดูกันเหมือนดูหมาข้างถนนเมืองไทย กว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง ผมนับวาฬได้ไม่ต่ำกว่าสิบตัว
เมื่อมาถึงเมือง รถบัสคันใหญ่จอดกลางลานกว้างริมทะเล ผมลงมายืนบิดยืดเส้นสาย ก่อนต้องตาเหลือกวิ่งถือกระเป๋ากล้องไปที่ตลิ่ง เพราะห่างจากฝั่งไปไม่เกิน 20 เมตร วาฬแม่ลูกกำลังว่ายน้ำอย่างเชื่องช้าประมาณลูกหมาลอยคอ ไม่ได้โม้นะครับ อันที่จริงวาฬแทบไม่ได้ว่ายน้ำเลย แต่ลอยอยู่เฉย ๆ ปล่อยให้กระแสน้ำพาตัวลอยไป นี่เป็นหนึ่งในจำนวนน้อยครั้งที่ผมเห็นวาฬใกล้ปานนี้ แต่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมเห็นวาฬแบบชิด ๆ จากกลางลานจอดรถ
นอกจากกลางลานจอดรถ วาฬหลายตัวยังตามไปหลอกหลอนเรา ระหว่างการเดินช้อปปิ้งตามแผงลอยข้างฟุตบาท ตามลงไปถึงร้านอาหารริมทะเล ตลอดเวลาที่อยู่เมืองนี้ เบือนหน้าออกทะเลทีไร คุณจะได้เห็นวาฬ
โห...เกินไปมั้ง ? แม้ตลอดการเขียนคอลัมน์นี้สิบสามปี ผมมีโม้บ้าง แต่ครั้งนี้รับประกันไม่ฝอยครับ มีลูกทัวร์ร่วมยี่สิบชีวิตเป็นพยาน เราเห็นวาฬว่ายมาทีละคู่ยังกับวาฬสวนสนาม แม่ตัวใหญ่สีดำ ลูกตัวเล็กหน่อยสีปนขาว แต่คำว่าเล็กในที่นี้รับรองว่าใหญ่กว่ารถขนน้ำมันบ้านเรา Southern Right Whale จัดเป็นวาฬใหญ่ที่สุด 1 ใน 5 ของโลก (วาฬใหญ่สุดคือวาฬสีน้ำเงิน ตัวยาว 25 เมตรจ้ะ)
ผมยังมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับวาฬอีกเยอะเชียว แต่ขอเก็บไว้ต่อพฤหัสหน้า สัปดาห์นี้ดูภาพคนกับวาฬที่ข้าพเจ้าถ่ายมา ไม่ต้องเดินไปไหนไกล แค่ยืนอยู่ข้างรถทัวร์นี่แหละ จากนั้นก็ยกกล้องกดแชะ ๆ โดยมีอาม่ากับอาซิ้มยืนตบมือแปะ ๆ เชียร์อยู่ด้านข้าง สมเป็นทัวร์เอื้องหลวงทริปพิเศษจริงครับ
จาก : ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 5 พฤศจิกายน 2550
บันทึกการเข้า
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
WayfarinG
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 2388
Re: ไปดูวาฬ
«
ตอบ #1 เมื่อ:
พฤศจิกายน 05, 2007, 02:47:02 AM »
อยากไปดูบ้างเนอะ..อยากไปดำน้ำข้างๆ มันด้วย..
บันทึกการเข้า
If you reject the food, ignore the customs, fear the religion and avoid the people, you might better stay home. -- > James Michener
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 4627
Re: ไปดูวาฬ
«
ตอบ #2 เมื่อ:
พฤศจิกายน 13, 2007, 02:00:59 AM »
ไปดูวาฬ (2)
โดย ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์
แม่วาฬ
ตัวนั้นเคลื่อนที่อย่างเชื่องช้า อันที่จริง เธอแทบไม่ได้ขยับหาง เพียงทำตัวให้ลอยปริ่มน้ำ ปล่อยให้กระแสน้ำพาเธอเลียบริมฝั่ง ลูกน้อยลอยอยู่เคียงข้าง แต่ท่าทางพิสดาร ลูกวาฬหงายท้องตีลังกา ครีบทั้งคู่โผล่ขึ้นมาเหนือทะเล
ภายใต้มวลน้ำสีเขียวขุ่น เงาตะคุ่มของผาหิน หักชันจากพื้นทะเลลึกหลายสิบเมตร ดิ่งขึ้นสู่เขตน้ำตื้น เงาระโยงระยางของสาหร่ายใหญ่ที่สุดในโลก สาหร่ายเคลป์ โยกไปมาตามแรงคลื่น รอบด้านดูสงบปลอดภัย แต่แม่วาฬยังไม่ไว้ใจ ลูกนัยน์ตาโตขนาดกำปั้นมนุษย์กลอกไปมา ไม่แน่ว่าเจ้าพวกนั้นอาจโผล่เข้าจู่โจม แม้วาฬเพชรฆาตศัตรูตัวฉกาจของเธอ จะไม่ค่อยเข้ามาประชิดติดฝั่ง แต่โลกนี้มีข้อยกเว้นเสมอ
เธอยังจำเหตุการณ์เมื่อสามฤดูกาลก่อน เกิดขึ้นไม่ไกลจากตรงนี้แหละ เงียบ...สงบ ฉับพลันก็ตูมตาม เพียงไม่นาน ลูกรักของเธอต้องจากไป ไปไกล ไปสวรรค์ ลูกวาฬบาดเจ็บแสนสาหัสจากคมเขี้ยวของเพชรฆาตแห่งท้องทะเล
กว่าเธอจะมีลูกตัวนั้น เธอต้องผ่านการผสมพันธุ์ครั้งยิ่งใหญ่ โดนตัวผู้ 8 ตัวเรียงคิว หนุ่มรายใดมีสเปิร์มมากสุดหรือแข็งแรงสุด จะกลายเป็นพ่อของลูกเธอ (เป็นการแข่งขันแบบ Sperm Competition) จากนั้นเธอต้องอุ้มท้องอีก 13 เดือน กว่าจะคลอดในเดือนกันยายน ลูกของเธอเมื่อเกิดยาว 6 เมตร ซัดนมวันละ 600 ลิตร กินแหลก 6 เดือนรวด แต่ละวัน ลูกเธอตัวยาวขึ้น 3 เซนติเมตร แต่สุดท้ายทั้งแรงทั้งรักสูญสิ้นไป เมื่อเจ้าตัวน้อยตกเป็นเหยื่อ เธอจะไม่ยอมพลาดเช่นนั้นอีกแล้ว
แม่วาฬยังคงเฝ้าระวังภัย แต่เธอไม่รู้ ห่างจากตำแหน่งของเธอกับลูกน้อยเพียงไม่กี่สิบเมตร ตาหลายคู่กำลังจับจ้อง เฝ้ามองทุกอิริยาบท จนถึงจังหวะที่เธอเอี้ยวหัวพลิกตัวเปลี่ยนท่า เธอคลาดสายตาไปจากลูกน้อยเพียงแค่ไม่กี่วินาที จากนั้น...
ไอ้หยา ตัวมังใหญ่จิงจิง
อาม่าร้อง
อั๊วชอบดูสัก มันน่ารักดีนา
ผมอมยิ้ม อาม่ารายนี้น่ารัก ผมชอบผู้หญิงจีนสูงวัยอยู่แล้วเป็นทุนเดิม ยิ่งเป็นอาม่าชอบดูสัก ผมยิ่งชอบใหญ่ เพราะใจผมกับใจอาม่าตรงกันเปี๊ยบ
พวกเราชาวคณะทัวร์เอื้องหลวง การบินไทย ทริปพิเศษ
เช้าดูฉลามบ่ายดูวาฬ
พากันมาตั้งป้อมกินข้าวกลางวันที่ร้านริมทะเลเมือง Hermanus ห่างจากเคปทาวน์เพียง 122 กิโลเมตร หรือใช้เวลานั่งรถแค่ชั่วโมงครึ่ง ที่นี่เป็นเมืองชายฝั่งแสนงดงาม จนได้ฉายา Riviera of The South
แต่สิ่งหนึ่งที่ริเวียร่าไม่มี แต่เมืองนี้มี คือ Southern Right Whale วาฬตัวใหญ่เป้งมีซี่กรองเต็มปาก เป็นวาฬบาลีนกินแพลงก์ตอนเป็นอาหาร ชื่อ Southern มาจากแหล่งที่อยู่ เพราะวาฬกลุ่มนี้มี 2 ชนิด กลุ่มหนึ่งอยู่ซีกโลกเหนือ อีกกลุ่มอยู่ซีกโลกใต้ ที่น่าสงสัยกว่านั้น Right หมายถึงอะไรหนอ ?
Right มีที่มาแสนประหลาด ในยุคที่กิจกรรมล่าวาฬกำลังเฟื่องฟู วาฬกลุ่มนี้เป็นที่หมายปอง นอกจากมีน้ำมันเยอะ บาลีนหนา สำคัญสุดคือวาฬว่ายน้ำไม่เร็ว และจะลอยน้ำเมื่อตาย นักล่าไม่ต้องลำบากหาทางยึดตัววาฬไว้ไม่ให้จมน้ำ คำว่า Right จึงมาจากคำว่า ใช่เลย หรือ แม่นแล้ว เจ้าตัวนี้ที่เราอยากจะฆ่า
ในช่วงฤดูร้อน ระหว่างเดือนธันวาคมถึงเดือนพฤษภาคม วาฬจะไปชุมนุมกันที่ใกล้ขั้วโลกใต้ เพราะทะเลตอนนั้นเต็มไปด้วย Krill หรือกุ้งจิ๋ววาฬชอบ เมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าหนาวน้ำเย็นจัด วาฬจะอพยพมาสู่แผ่นดินใหญ่ บ้างไปที่อเมริกาใต้ บ้างไปออสเตรเลีย หลายตัวมาแอฟริกาใต้ และบางตัวผ่านเข้ามาจนใกล้ชายฝั่งเมือง Hermanus ทำให้เมืองนี้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ดูวาฬเจ๋งสุดในโลก และจะยิ่งเจ๋งขึ้นเรื่อย เพราะหลังจากการล่าวาฬสิ้นสุด ปริมาณของ Southern Right Whale ในแอฟริกาใต้เพิ่มขึ้น 7 เปอร์เซ็นต์ในทุก 10 ปี เชื่อว่าถ้ายังเป็นเช่นนี้ ภายในค.ศ.2040 ประชากรวาฬจะกลับเข้าสู่ภาวะก่อนถูกล่า
ใกล้จริง ๆ นะครับเนี่ย ผมพูดกับอาม่า แต่สายตายังมองผ่านเลนส์ รอจังหวะกดชัตเตอร์เป็นระยะ
ผมยังไม่เคยเจอวาฬเข้ามาใกล้แผ่นดินแบบนี้มาก่อนเลยครับ
อาม่ายิ้มเห็นฟันขาวเต็มปาก เราทั้งคู่กับลูกทัวร์อีกสิบกว่าชีวิต พากันนั่งแทะเฟรนซ์ฟรายสลับกับการดูวาฬแม่ลูก เพียงครู่เดียว แม่ลูกอีกคู่ลอยสวนมาในทิศตรงข้าม กลายเป็นสี่วาฬชู้ชื่น ลูกวาฬผลัดกันพลิกคว่ำพลิกหงาย ระหว่างที่แม่ลอยน้ำเฝ้าดู เห็นแล้วผมคิดถึงลูกติดหมัด เวลาพาลูกไปเล่นตามสวนสาธารณะ พวกเราก็ทำเช่นนี้แหละครับ
การชมวาฬริมชายฝั่ง น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับทัวร์ทั่วไป แต่เอื้องหลวงพาไปไกลกว่านั้น เราจะไปลงเรือชมวาฬแบบใกล้ชิด ลูกทัวร์บางรายเริ่มเป็นห่วง เพราะเราเพิ่งเผชิญคลื่นชมฉลามมาเมื่อเช้า จะลงเรืออีกแล้วเหรอ ? เรือลำใหญ่มั้ย ชั้นจะเมาคลื่นอีกมั้ยเนี่ย
ผมสอบถามคุณไกด์ชาวแอฟริกาใต้ ก่อนเบาใจตอบไปว่าสบายบรื๋อครับ เรือใหญ่จุได้ 42 คน แล้วก็...ผมหันไปดูทะเล น้ำในอ่าวเรียบกริบ ระลอกคลื่นสูงไม่ถึงคืบด้วยซ้ำ วาฬก็ว่ายอยู่เต็มอ่าว ไม่ต้องไปไหนไกล จะเมาคลื่นได้ไงกัน
ไหนอาจารย์ว่าไม่เมาไงครับ เสียงตะโกนโหวกเหวกอยู่ข้างหู แต่ผมไม่ตอบ เพราะตอบไม่ได้ น้ำทะเลซัดเข้าไปเปียกจากหัวจรดเท้า ยังต้องค้อมตัวลงเพื่อบังกระเป๋ากล้องที่กำลังชุ่มโชกไปด้วยน้ำเค็ม
แม้ปากไม่ตอบ แต่ใจตอบ ไม่เมาหรอกครับ ผมเชื่อว่าพวกเรากลัวตายมากกว่า เพราะเรือลำน้อยกำลังโต้คลื่นใหญ่โย้น ๆ ตูม เห็นมั้ย...มาอีกลูกแล้ว ระว้างงงง...ตูม...ซ่า เฟ้ย...มันจะไปไหนกันเนี่ย !!?
ความแค้นของผมมีเหตุผล เพราะเรือลำนี้ทำผมเสียหน้า อุตส่าห์รับปากลูกทัวร์เป็นดิบดี เรือใหญ่ครับ พอเห็นเข้าไป เนี่ยนะใหญ่ เรือประมงดัดแปลงชัด ๆ แต่ผมไม่สามารถต่อว่าเค้าได้ เพราะตัวอักษรเขียนไว้ข้างเรือชัดเจน 42 passengers & 2 crews นั่งเบียดกันแบบนั่งรถสองแถวในเมืองไทยเรอะ
เจ้าเรือลำนี้ยังหลอกล่อ รูปร่างดูเหมือนวิ่งช้า เมื่อผู้คนถามว่านั่งตรงไหนดี ผมชี้หัวเรือสบายสุด ได้รับลมเย็นสดชื่น ไม่เมาเรือ แถมเห็นวาฬชัดด้วย แต่พอเรือวิ่งออกจากท่า เรือสลัดหนังลา เปลี่ยนร่างเป็นราชสีห์ทะเล เสียงเครื่องดังกระหึ่มให้กำลังแรงดุจติดเทอร์โบเป็นโหล กัปตันยังเป็นโรคเห็นคลื่นไม่ได้เราต้องคลั่ง เบาเครื่องเสียเกียรติ ชนมันเข้าไปตูม ๆ ฮ่า ๆ วาฬว่ายอยู่ในอ่าวน้ำนิ่งตั้งหลายตัว เราไม่ดูหรอก เพราะทัวร์เราบอกไว้ ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่งต่อหนึ่งเที่ยว ขืนวิ่งไปสามนาทีเจอวาฬ เดี๋ยวไม่เป็นตามกำหนดการ เราต้องตามหาวาฬสุดขอบฟ้า
ยี่สิบห้านาทีผ่านไป เรือพาเรามาถึงนรกขุมไหนก็ไม่รู้ พอเรือเจอวาฬ กัปตันเบาเครื่อง ผมโซเซกะไปท้าดวลกับไต้ก๋งชาวแอฟริกัน แต่ต้องพลันหยุดชะงัก ร่างดำมะเมื่อมกำลังพุ่งดิ่งมาทางท้ายเรือ ห่างออกไปเพียงไม่กี่เมตร ผมตาลีตาเหลือกควักกล้องที่มีเกลือจับดุจปลาเค็มออกมา ยกขึ้นส่องรัวนิ้วกดชัตเตอร์ เฮ้ย...วาฬบุก
ภาพที่ผมมองผ่านเลนส์ คือภาพที่นำมาลงให้คุณ ๆ ได้เห็น แม้อาจจะดูยากหน่อย แต่นั่นแหละครับหัววาฬ Southern Right Whale ตัววาฬถ่ายไม่ได้ เพราะผมติดเลนส์ซูมไว้ วาฬตัวใหญ่เกินไปจ้ะ ปื้นเทาที่ติดอยู่หลายแห่ง เป็นเพรียงที่ชอบเกาะหัววาฬชนิดนี้ สังเกตด้านซ้ายบนของภาพ จะเห็นรูหายใจวาฬเป็นรูปตัว V อันเป็นลักษณะเด่นของวาฬพันธุ์นี้ครับ
เกือบครึ่งชั่วโมงต่อมา พวกเราต่างลืมเหตุการณ์ผจญคลื่น เฝ้าแต่ร้องวี้ดว้ายตามถ่ายภาพวาฬยักษ์ทั้งสี่ตัวที่ดำผุดดำว่ายรอบลำเรือ บางจังหวะวาฬทะยานขึ้นจากน้ำ ก่อนปล่อยตัวโครมน้ำแตกกระจายเปียกปอนไปทั่ว นับเป็นประสบการณ์ดูวาฬที่จำฝังใจ สนุกกว่าการไปดูวาฬครั้งไหน ๆ ในอดีต
แต่จะสนุกเท่าการดูฉลามขาวหรือไม่ ? คำตอบรออยู่สัปดาห์หน้า เมื่อผมพาลูกทัวร์เอื้องหลวงไปเผชิญฉลามตัวใหญ่ ทั้งบนเรือทั้งใต้น้ำ งานนี้มีกรี๊ดครับ...
จาก : ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 11 พฤศจิกายน 2550
บันทึกการเข้า
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
Sea Man
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2208
ท้องฟ้า/ภูเขา/ป่าไม้/ทะเล
Re: ไปดูวาฬ
«
ตอบ #3 เมื่อ:
พฤศจิกายน 13, 2007, 02:52:25 AM »
อยากไป.....
บันทึกการเข้า
.....รู้จักคิด....ฟังความคิดผู้อื่น....พร้อมเปลี่ยนแปลง....ไปสู่สิ่งใหม่และดีกว่า.....
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
หมวดหมู่ทั่วไป
-----------------------------
=> ห้องรับแขก
=> กิจกรรมและผลงาน
=> เรื่องเล่าชาวทะเล
=> ท่องเที่ยวทั่วแผ่นดิน
=> คุยเฟื่องเรื่องดำน้ำ
=> หลังเลนส์
=> สรรพชีวิตแห่งท้องทะเล
=> คลังกระทู้เก่า
กำลังโหลด...