กระดานข่าว Save Our Sea.net
มิถุนายน 18, 2024, 02:28:11 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ทีฆายุโก โหตุ มหาราชา  (อ่าน 6464 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« เมื่อ: ธันวาคม 03, 2007, 12:43:50 AM »

ในวโรกาส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุครบ 80 พรรษา  

ข้าพระพุทธเจ้าขอถวายพระพรชัยมงคล  ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน



ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

ข้าพระพุทธเจ้า
สายน้ำ  สายชล และสมาชิก www.saveoursea.net ทุกคน


* King-BD.jpg (100.23 KB, 730x650 - ดู 974 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 30, 2007, 12:53:15 PM โดย สายน้ำ » บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #1 เมื่อ: ธันวาคม 05, 2007, 02:00:58 AM »




วันที่ 4 ธันวาคม 2550 เวลา 16.20 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ มายังศาลาดุสิตาลัย ภายในพระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2550

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัส ความว่า
      
       “ขอขอบใจนายกรัฐมนตรีที่ได้กล่าวคำอวยพร และขอบใจท่านทั้งหลายที่ได้มา มาเยี่ยม และมาให้พร ทำให้มีกำลังใจ ความจริงการที่ท่านมานี้ เป็นการให้กำลังใจ ที่บอกว่าดูแข็งแรง ดูมี อนามัยที่ดี ความจริงไม่ใช่ ความดีของแพทย์ เป็นความดีของเราที่ ตั้งใจ ที่จะให้แข็งแรง เพื่อที่จะต้อนรับท่านได้ ถ้าไม่ได้ตั้งใจที่จะแข็งแรงที่จะต้อนรับท่าน ก็จะมาต้อนรับท่านไม่ได้ เพราะว่าเดิน ก็เดิน ขานำไปข้างหน้า ข้างหนึ่ง อีกข้างไปข้างหลัง ไม่ค่อยยอมสามัคคี
      
       ต้องสามัคคี แล้วก็ได้พูดเมื่อวานซืนนี้ ว่า ทหารก็ตาม พลเรือนก็ตาม ต้องสามัคคี เหมือนขาของเราที่จะต้องเดินสามัคคีกัน หมายความว่า ก้าวไปข้างหน้า แล้วอีกข้างหนึ่ง ก็ยันข้างหลัง และเมื่อยันข้างหลังเรียบร้อยแล้ว ก็ก้าวไปข้างหน้าอีกข้าง อันนี้ก็สามารถเดินได้ แล้วไม่หกล้ม ซึ่งถ้าไม่สามัคคี ก็บอกแล้วว่า ประเทศจะประสบความหายนะ ไม่ได้ใช้คำว่าหายนะ แต่ก็คล้ายกัน ว่าถ้าไม่สามัคคีกัน ไม่ปรองดองกัน ประเทศชาติล้ม ถ้าล้มก็ ผลของการล้มนั้น มีหลายอย่าง ถ้าทางกายก็ ร่างกายกระดูกหัก และต้องเข้ารักษา บางทีรักษานานๆ ไม่มีสิ้นสุด ถ้าไม่ระวังประเทศชาติก็ล่ม เมื่อล่มเราจะไปอยู่ที่ไหน ล่มก็หมายถึงว่า ลงไป จม ล่มจม ถ้าเราไม่ระวังประเทศชาติล่มจม ล่มจมก็หมายความว่า ล่มลงไปในทะเล เพราะว่าเมืองไทยนี้ก็ติดทะเล ถ้าล่มไปล่มมา ก็ลงทะเล
      
       และสมัยนี้เขาก็ ขู่กันว่า น้ำทะเลจะขึ้น แล้วก็เพราะว่าอากาศมันร้อน แต่ทำไปทำมาก็ไม่ได้ร้อนจริง มาตั้งแต่ธันวาฯ นี้คนบ่นว่าอากาศเย็น อากาศหนาว ก็ไม่รู้จะเชื่อใครว่า ตอนนี้จะหนาวหรือจะร้อน แต่ว่าคำว่า ร้อน ร้อนจริงๆ คือ เหงื่อออก ร้อน เดือดร้อน ถึงเดือดร้อนมากกว่า ทุกคนที่มานั่งอยู่ที่นี่ก็จะเดือดร้อน ภาษาไทยใช้คำว่า เดือดร้อน ร้อนแล้วเดือด น้ำเดือดมันร้อน อากาศร้อนก็อากาศทำให้เราไม่สบาย ถ้า ไม่สบายแล้ว อยู่ไม่ค่อยได้
      
       ที่อากาศร้อน ก็เพราะว่าอากาศมันเจอความร้อนของพระอาทิตย์ ซึ่งเมืองไทยก็เคราะห์ดีอยู่เหมือนกันว่า อากาศร้อนไม่ได้เย็น ไม่ได้เย็นเหมือนอเมริกา เดี๋ยวนี้ที่อเมริกากำลังเดือดร้อน เพราะอากาศเย็น อากาศ หิมะตก ซึ่งตามปกติไม่น่าจะตกอย่างนี้ แต่ว่า อเมริกากำลังร้อน เดือดร้อนในความเย็น เมืองไทยนี้ ก็มีความเดือดร้อน ด้วยความเย็นเหมือนกัน แต่ว่าพูดว่าเดือดร้อน เราก็พูดถึงว่าเมืองไทย บ่นว่า เดือด ที่จริงไม่ได้เดือด แต่คนน่ะเดือด คนมันทำเดือด ทำให้คนเดือดร้อน แล้วเวลาเดือดร้อนนี่ มันไม่สบาย น้ำเดือดถึงจะมีประโยชน์ ต้มไข่ได้ แต่ว่าถ้าเดือดเฉยๆ ไม่มีประโยชน์ ทำให้คนเดือดร้อนเนี่ย สิ้นเปลืองเปล่าๆ แล้วก็เมื่อคนทำให้เดือดร้อน ที่ว่าสิ้นเปลืองเปล่าๆ แล้วก็บ่น บ่นว่า ประเทศลุกเป็นไฟ ก็ต้องระวังไม่ให้ลุกเป็นไฟ เพราะว่าจะทำให้ล่มจม ล่มจมอย่างนี้ ที่ต่างประเทศเขาบอกว่าเมืองไทยจะล่ม จะจม ความจริง ยังไม่ล่ม และยังไม่จม แต่ถ้าไม่ระวังก็จะล่ม จม ฉะนั้น ก็จะต้องระมัดระวัง หรือทุกวันนี้ไม่ปรองดองกัน เมื่อไม่ปรองดอง ไม่ปรองดอง ก็มีรู ก็จะล่ม ล่ม จมลงไป
      
       ที่จริงพยายามจะอุดช่อง ไว้อย่างมาก เช่น น้ำจะท่วม ก็ปิด กั้น ไม่ให้น้ำท่วม แต่ที่เขาทำ น้ำจะท่วม ก็ต้องสูบน้ำออกไปใส่ในทะเล ทะเลก็ มีน้ำมากเกินไป น้ำก็ล้นเข้ามาในพื้นแผ่นดิน แล้ว มันก็ ประเทศชาติก็ล่มจม ฉะนั้น การป้องกันไม่ให้ล่มจม จะต้อง ระวังไม่ให้น้ำขึ้นมากเกินไป ซึ่งถ้าน้ำขึ้นมามากเกินไป ก็ต้องแก้ไข จะแก้ไขนี่ มีหลายวิธี จะต้องทำเขื่อน แต่ว่าเขาด่ากันว่า ถ้าทำเขื่อน เท่ากับประเทศจะจม จมในน้ำ เพราะว่าตั้งเขื่อน น้ำก็ต้องขังเอาไว้ แต่ว่าการขังน้ำ โดยใช้เขื่อน มันมีหลายวิธี ซึ่งบางที ไม่เข้าใจ ทำเขื่อนแล้วก็ น้ำก็ท่วมบางแห่ง แต่ถ้าหากว่าทำเขื่อนแล้ว ไม่ระวัง ไม่ได้บริหารเขื่อนนั้นให้ดี มันก็อาจจะทำให้น้ำท่วม
      
       อย่างที่เคยพูดถึง เขื่อนป่าสักฯ เขื่อนป่าสักฯ นี้ ถ้าไม่ได้ทำ ถ้าไม่ได้ทำก็จะ เสียเงินเป็นพันล้านทุกปี แล้วก็เสียเงินอย่างนี้แล้ว ไม่ได้อะไรเลย เดี๋ยวนี้ ที่ได้ทำป่าสักฯ มา ทุกปีมีผลดี คือ ทำการเกษตร กสิกรรมได้ผล แล้วเมื่อได้ผลแล้วก็ได้รายได้ ถ้าไม่ได้ผลก็จะต้อง ก็จะต้อง
      
       ..นี่เขา (พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรฯ) น้ำท่วมทุ่ง นี่อย่างนี้น้ำท่วมทุ่งหรือ นี่เหมือนพ่อเขา พูดมาก ปู่พูดไม่มาก แต่เวลาพูดเขาก็ว่าบ้าง พูดมาก หาว่าน้ำท่วมทุ่ง ไอ้น้ำท่วมทุ่งนี่มันไม่ดี เพราะว่าเวลาท่วมทุ่งได้ทุ่งนั้นทำอะไรไม่ได้ พืชผลต่างๆ ก็เน่า ถ้าพืชผลเน่าก็เท่ากับทำให้ ทำลายพืชผลนั้น ซึ่งตามปกติพืชผลขึ้นมาสามารถที่จะขายได้แต่พืชผลที่เน่า ขายไม่ได้ พืชผลที่เน่าทำให้เสียหาย
      
       แต่ที่ปลื้มใจที่ป่าสักฯ นี่น้ำท่วมมีบ้างแต่น้อยมาก คือว่า แต่ก่อนนี้ทุกปีต้องเสียเงินเป็นพันล้านสำหรับแก้ไขเรื่องน้ำท่วม เสียหายไปพันล้านไม่มีรายได้เลยมีแต่รายจ่าย ถ้ามีรายได้ก็ไม่เป็นไร น้ำท่วมที่ เวลา มีน้ำท่วมขึ้นมา ความจริงก็มีรายได้เพราะว่า อย่างเช่น ข้าว ถ้าไม่มีน้ำก็แห้ง แห้งผาก ไม่มีผล แต่อย่างไรไม่มีผลอย่างนั้นยังงอกออกมาได้ ก็ยังมีข้าว แต่อย่างถ้าข้าวถูกท่วมและเน่า ต้องเสีย ข้าวนั่นเสีย ไม่ได้ผล มีแต่ทางเสีย ไม่มีทางได้ ฉะนั้นการที่ทำเขื่อนแล้วก็ ไม่มีน้ำท่วม ก็มีจ่ายเงินสำหรับค่าทำเขื่อน แล้วก็มีเสียหายเล็กน้อย จนถึงเดี๋ยวนี้ เมืองไทยก็มีรายได้มากกว่ารายจ่าย แต่ว่าถ้าไม่ได้ทำ โครงการป้องกันไม่ให้น้ำท่วม มีแต่รายจ่าย ไม่มีรายได้ แล้วอย่างนี้เราก็อยู่ไม่ได้
      
       อันนี้ พูดเป็นปริศนาว่า ถ้าไม่มีรายได้ ก็ไม่มีรายจ่าย เขาว่าถ้าไม่มีรายได้ ก็ไม่สามารถที่จะจ่ายเพื่ออยู่ดี มีแต่ต้องจ่าย สำหรับป้องกันน้ำท่วมเท่านั้น ป้องกันแล้ว ไม่มีกำไรเลย มีแต่เสีย ฉะนั้นก็ ที่คนเขาว่า ทำโครงการแล้วก็เสีย จริง เสีย เสียเงิน แต่ว่าไม่เสียผลประโยชน์ ฉะนั้น ก็ต้องคิดดีๆ ว่าที่ได้ทำโครงการนั้น ก็มีจุดประสงค์ที่จะให้มีรายได้ แต่ถ้าพูดอย่างที่เขาพูด จ่ายเงินเยอะแยะ ที่จริงจ่ายแยะ แต่ว่าไม่ได้เสีย เพราะว่ามีรายได้ เวลาพูดกลับไปกลับมาอย่างนี้ท่านก็งง ท่านมองหน้าว่า เอ๊ะจะไปไหน ไปน่ะ ต้องทำโครงการนี้ อะไรก็ตาม ก็จะต้องมีเหตุผล ก็ต้องบริหารงานการให้ดี
      
       พูดถึงบริหาร ข้างหน้านี้ก็มีฝ่ายที่จะเป็นรัฐบาล รัฐบาลก็คือการบริหาร แต่ว่าบริหารนี้มีทุกอย่าง บริหารโครงการ บริหารกิจการต่างๆ บริหารการเงิน ทุกอย่างจะต้องบริหารให้ดี ฉะนั้นถ้าไม่บริหาร ก็ล่มจม แต่คนที่ไม่ได้เป็นฝ่ายบริหาร มีแต่ ตำหนิติเตียนว่าไม่ทำ ที่จริง ฝ่ายบริหารเขาก็ทำ คนที่ติเตียนนั้นก็เป็นคนที่ไม่ได้ทำอะไรเลย ตรงข้าม มีแต่ทำลาย ฉะนั้น ที่มาเมื่อ 2-3 วันนี้ ชักกลุ้มใจ ที่ฟังวิทยุ ที่เขาพูด พูดว่า เมืองไทยนี่ไม่ก้าวหน้าเลย แต่ความจริงก็ก้าวหน้า ถ้าไม่ทำอะไรเลยป่านนี้ก็ล่มจมแล้ว ถ้าไม่ทำ ก็ล่มจมเหมือนเวลาน้ำท่วม ล่มจม
      
       นี่พูดถึงน้ำมากเกินไปแล้ว เดี๋ยวหาว่าพูดน้ำท่วมทุ่ง แต่ว่ายังไงก็ตามต้องพูด วันนี้ตั้งใจจะต้องพูด ว่า ถ้าไม่ทำอะไร ทำแต่พูด ก็จะไม่ดี ก็พูดมามากแล้วในทาง คล้ายๆ ปรามไม่ให้พูด แต่อย่างไรก็ตาม วันนี้ท่านเงียบหมด ทุกคนเงียบ ก็หมายความว่า ท่านก็ตั้งใจจะไม่พูด เราก็เห็นว่าท่านไม่พูดเราก็จะไม่พูด แต่ก็พูดมากแล้ว
      
       แล้วก็ยังไงก็ตาม ก็จะต้อง อธิบายว่า ไปเข้าโรงพยาบาลนี้ เข้าๆ ออกๆ เข้าๆ ออกๆ หนังสือพิมพ์ก็ลง วันนี้เข้า เข้าแต่งสีชมพู ออกมาแต่งสี สีฟ้า เขาเหมือนตำหนิติเตียน ว่าทำไมเปลี่ยน ก็เข้าๆ ออกๆ ก็ต้องเปลี่ยนบ้าง ถ้าเข้าๆ ออกๆ และแต่งเครื่องแบบ มันน่าเบื่อ น่าเบื่อเขาก็ อย่าง อย่างท่านนายกฯ เขาก็แต่งเครื่องแบบ ท่านก็บอก น่าเบื่อ โอ๊ยน่าเบื่อ เบื่อหน้าแล้ว ถ้าเบื่อหน้าก็ไล่ออกซิ ไล่ออก แต่ท่านนายกฯ ไม่ได้ยิน เดี๋ยวหาว่าท่านนายกฯ เดี๋ยวนี้แก่แล้ว เขาว่าแก่ ที่จริงหนุ่ม หนุ่มนิดเดียว ของเราหนุ่มแบบพรุ่งนี้ จะอายุ 80 ไม่นึกเลยว่าจะถึงอายุ 80 80 ก็ใครจะว่าแก่ก็ไม่ว่า ใครตำหนิว่าแก่ ไม่ว่า เพราะว่าแก่จริงๆ แต่คนที่อายุ 60 นี้ไม่แก่ แต่ว่าท่านนายกฯ ก็น่าเบื่อ น่าเบื่อเพราะว่า เจอทีไรก็แต่ง แต่งเครื่องแบบขาวนี่ ความจริงควรจะแต่งสีอื่นบ้าง ของเรา วันนี้ไม่มีขาว สีขาว เป็นสีเหลือง แล้วเนกไทเป็นสีเหลือง แล้วก็มีสีชมพูด้วย ก็หมายความว่า เราก็ เราก็แก่แล้ว ไม่อยากแต่งตัวให้น่าเบื่อ
      
       วันนี้ก็เตรียมเสื้อคล้ายๆ ท่านองคมนตรี เสื้อเชิ้ตขาว และก็เสื้อ ไม่ใช่ท่านองคมนตรี ประธาน เสื้อสีน้ำเงินแก่ เราก็แต่งสีเทา ที่จริงแต่งงี้ก็ไม่น่าเบื่อ แต่ยังมีเนกไทสีเหลืองให้เก๋หน่อย ยังดีไม่ได้ใส่สีชมพู แต่วันนั้นใส่สีชมพู โหก็ตื่นเต้น เวลาใส่สีชมพูแล้วก็ใส่สีเขียว
      
       ใส่สีอะไรก็ได้ สีแดงก็ยังได้ สีแดงนี่เป็นกาลกิณีของเรา คนที่ว่าเป็นกาลกิณีของเรา ของเราไม่น่าจะใช้ นี่ยังไงตั้งแต่แม่ ท่านเกิดวันอาทิตย์ ท่านก็สีแดง พี่สาวก็เกิดวันอาทิตย์ พี่ชายก็เกิดวันอาทิตย์ ก็หมายความว่า เป็นสีแดง คนที่รับใช้ก็เกิดวันอาทิตย์ ยังดี ทองแดงนี่ดี ก็ไม่ได้เกิดวันอาทิตย์ เขาเกิดวันเสาร์ ก็เป็นสีม่วง ทองแดงสีม่วง เราก็ไม่เดือดร้อน แต่สีม่วงก็ดี วันก่อนนี้ใส่สีม่วง ก็เลยใส่ได้ทุกอย่าง ไม่เหมือนท่านนายกฯ ใส่เครื่องแบบขาวทุกวัน ทุกครั้ง มันน่าเบื่อ ก็จริง น่าเบื่อ แต่ว่าท่านเรียบร้อย แล้วก็แต่งขาว ท่านทำงานได้ดี ก็เลย ถ้าทำงานได้ดี ก็ไม่น่าเบื่อ
      
       ท่านผู้หญิงแต่งสีเหลือง สีเหลือง แต่เหลืองอ๋อย สีเหลืองเนี่ย ความจริงตามเรื่อง ต้องเป็นสีค่อนข้างเหลืองอ่อนมาก อย่างวันออก เมื่อวานนี้ใส่สีเหลือง สีเหลืองอ่อน นั่นน่ะเป็นสีเหลืองที่ถูกต้อง เพราะว่าเป็น สีเหลืองที่สว่างของพระจันทร์ ก็บรรยาย นี่เขาให้ มีกระต่ายอยู่ด้วย ก็เลยเป็นสีเหลืองที่ถูกต้อง แต่มาพูดบอกว่า ท่านนายกฯ แต่ง แต่งขาวนี่ ก็ได้เหมือนกัน เพราะว่าวันจันทร์ก็เป็นสีขาวก็มี เพราะฉะนั้นก็จะบอก ใครมาบอกว่าท่านนายกฯ น่าเบื่อ มาบอกว่าน่าเบื่อ น่าเบื่อไม่ได้ แต่งสีขาวสวยมาก ดีมาก แล้วทำงาน อะไรก็คล่องแคล่ว ไม่ใช่ทำงานไม่ดี ทำงานดี สีขาว ก็หมายความว่า หมดจดดี
      
       แล้วก็ ตั้งแต่ ครั้งแรกที่ คนเขาตำหนิ เมื่อปีที่แล้วไปบอกว่า นายกฯ อายุมาก ก็เปรียบเทียบกับนายกฯ เก่า นายกฯ เก่านั่นน่ะ เขาเด็กกว่า แต่ก็ไม่เท่าไหร่ ก็แก่ นายกฯ กำลังดี 60 กว่าๆ ก็กำลังดี ไม่เหมือนเรา เราแก่เกินไป เราแก่ แล้วก็นี่ท่านประธานองคมนตรีก็ยิ้มๆ บอกว่า ท่านก็แก่กว่า แต่ท่านเก่ง ท่านแก่กว่า ท่านก็แข็งแรง ท่านแข็งแรง 80 กว่านี่ กำลังดี พรุ่งนี้ข้าพเจ้าก็จะ 80 กว่า กำลังหนุ่ม กำลังแข็งแรง คนอื่นไม่แข็งแรง ยังไม่ 80
      
       พูดถึง 80 ก็มีอยู่ว่า พี่สาวอายุ 84 ท่านค่อนข้างจะแก่ แล้วเมื่อวาน เมื่อวานนี้เราไปเยี่ยม ที่จริงไม่ควรจะ ควรจะมาพักที่สวนจิตรฯ นี่ แต่ท่านไม่สบาย ก็ไม่สบายอยู่มาก ก็ต้องไปให้กำลังใจท่าน วันนี้ก็ไปไม่ได้เพราะว่ามีงาน พรุ่งนี้ก็ไปไม่ได้ มะรืนนี้ก็ไปไม่ได้ แต่ว่าต้องไปเยี่ยม ท่านไม่สบาย
      
       แต่ว่ามีอยู่ว่า ประชาชนไปเยี่ยมอยู่มากมาย ที่โรงพยาบาล มีประชาชนไปเยี่ยมเต็มลาน ห้องชุมนุมเต็ม ก็เลยทำให้สบายใจว่า มีคนเอาใจใส่ คนที่ไม่สบาย ให้กำลังใจ อันนี้ต้องชมคนไทยว่า คนไหนไม่สบาย ก็ให้กำลังใจ ถึงว่าคนไหนไม่สบาย รู้ว่ามีคนเอาใจใส่ ก็สบาย อย่างที่เข้าโรงพยาบาล ไม่รู้ตัวว่าไม่สบาย เขาหาว่าเราจะแย่ ก็ดูแล คนเขาว่าว่า พิการที่สมอง สมองเรา เราก็ไม่รู้สึกว่ามีอะไร ทำไปทำมาบอกว่า เป็นที่ลำไส้ เขาบอกว่าพิการ หรือป่วยที่ลำไส้ เขาก็หาใหญ่ ตามธรรมดาลำไส้ที่พิการ เขาจะดูทางซ้าย แต่ว่า ทำไปทำมากลับดูว่าเป็นพิการทางขวา ทางขวาของเรา เขาไปดูทางซ้าย ทางซ้ายไม่มีอะไร เขาก็เคาะใหญ่ เคาะไป ไม่เป็นไร แท้จริงเป็นทางขวา เขาก็บอกว่า ประหลาด ว่าพิการทางขวา
      
       เรานึกว่าตัวเราเป็นคนประหลาด เวลาดูว่าป่วยทางไหน ก็มาดู ว่าป่วยทางขวา ก็แล้วไป แต่ทีหลังทำไปทำมาก็เรียบร้อย ดูแล้วไม่เป็นแล้ว ไม่เป็นแล้ว เขาก็บอกว่าเป็นที่สมอง เป็นที่สมองไม่ใช่ของเรา เป็นที่สมองของหมอ เพราะเขาว่า เขาว่าพิการ ที่จริงพิการที่สมองของหมอ แล้วเสร็จแล้วไปเข้าเครื่อง เครื่อง ในเครื่องดังป๊องๆๆๆๆ ไม่เป็นอะไร ไม่มีพิการ ก็เลยออกจากโรงพยาบาลดีกว่า ถ้าอยู่ในโรงพยาบาล จะพิการจริงๆ
      
       เพราะว่าอยู่โรงพยาบาลนี่แย่ เกือบจะเปลี่ยนโรงพยาบาล เปลี่ยนไปโรงพยาบาล ที่อยู่ฝั่งนี้ ไปอยู่ฝั่งโน้น จะเป็นบ้า แล้วก็ เลยนึกไป ไปดูว่าทำไมเป็นบ้า เป็นบ้าเพราะน้ำมันจะท่วม น้ำจะท่วม น้ำมันขึ้นเลย ขึ้นไปขึ้นมา แล้วใครมาบอกว่า น้ำจะท่วม แต่น้ำ ไม่ท่วม เพราะมีโครงการ มีโครงการที่พระประแดง แต่ก็พูดไปพูดมา เขาเอาเรือ ของกองทัพเรือ เขาสร้าง มีเรือใหญ่ เขาบอกว่าให้ไปเรือนี้ ก็เอาเรือนั้นมาจอด เรือสวยด้วย ก็เลยร่ำลือกันใหญ่ว่าพรุ่งนี้จะเสด็จฯ
      
       เรายังไม่ไป เพราะว่ามีงาน มีงานตลอดปี ตลอดทั้งเดือน ก็เลยต้องปฏิเสธ เขาบอกว่า ไม่ใช่พรุ่งนี้หรอก มะรืนนี้สิไป ไป บอกว่าจะไป จะไปเยี่ยมโครงการที่พระประแดง บอกว่ายังไม่ไป ไม่เชื่อ แต่ทำไปทำมาก็เชื่อ เรือไม่เอามาแล้ว ไม่งั้นเอาเรือมาจอด เอาเรือมาจอดให้เราไป เราก็เลยบอกว่า เรือนี่ใช้น้ำมัน เปลืองน้ำมันเหมือนกัน แต่เราจะใช้ไบโอดีเซล เขาบอกว่าใช้ไม่ได้ ถ้าใช้ไม่ได้ เราไม่ไป แต่เรือ เรือที่เป็นเรือแท็กซี่ เขาใช้ไบโอดีเซลได้ เดี๋ยวนี้กำลังพัฒนาไบโอดีเซล เพราะว่าถ้าใช้ดีเซล เปลือง แล้วก็ดีเซลจะหมดโลกแล้ว แต่ไบโอดีเซลของแบบฝรั่งมัน 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง หมายความว่าไบโอเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ เราไม่ยอม เราจะใช้ไบโอดีเซล 100 เปอร์เซ็นต์ หมายความว่าดีเซลแบบไบโอ แบบพืช ใช้ 100 เปอร์เซ็นต์
      
       อย่างคราวก่อนนี้ไป แล้วก็นายกฯ ใช้ไบโอ 100 เปอร์เซ็นต์ ไบโอ ใช้น้ำมัน น้ำมันแบบก๊าซโซฮอล์ 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้ 10 เปอร์เซ็นต์ อย่างที่เขาใช้ ขึ้นภูเขา ขึ้นตรงเขื่อน ขึ้นชัน ก็ไปได้ดี รถใช้น้ำมัน ก๊าซโซฮอล์แบบของเรา ก็ขึ้นได้ดี แต่ว่าอาจจะมีน้อยหน่อย ราคาถูกกว่า ถูกกว่าดีเซลเดี๋ยวนี้ ก็ใช้ดีเซลแบบก๊าซโซฮอล์ มาตอนนี้จะใช้ดีเซลแบบน้ำมันปาล์ม น้ำมันปาล์ม 100 เปอร์เซ็นต์ ก็ใช้ได้ ไม่ต้องใช้ดีเซลสั่งมาจากเมืองแขก เพราะว่าถ้าเราใช้ดีเซลจากเมืองแขก อีกหน่อยก็หมด อีกหน่อยหมด เดี๋ยวนี้เขาก็ไม่ เขาก็ไม่ใช้ แต่จะเก็บเอาไว้สำหรับมาขายให้เรา เราต้องเสียแพงๆ
      
       เราจะใช้ไบโอดีเซลแบบน้ำมันปาล์มที่เราปลูกเอง เราปลูกเองอาจจะมีน้อยหน่อย ก็ใช้น้อย อย่าไปฟุ่มเฟือยใช้มากเกินไป น้ำมัน ใช้น้อยๆ หน่อย แต่เราจะมี มีใช้ ปลูก ต้นปาล์ม แล้วมามาทำเชื้อเพลิง ต้นปาล์ม มาทอด มาทอดปลา ทอดอะไรต่างๆ ได้ แล้วก็มาใส่ในรถดีเซล ได้ใช้แล้ว ก็ใช้ได้ มันวิ่งช้าหน่อย วิ่งช้า ก็ไม่เป็นไร เราอย่าเร่งรีบ ชีวิตอย่าให้เร่งรีบมากเกินไป แต่ราคาก็ถูก ฉะนั้น ถือหลักว่า ใช้ของราคาไม่แพงเกินไป อาจจะไม่มีประสิทธิภาพเท่ากับไฮสปีดดีเซล แต่ก็ไปได้ ก็ขอให้คิดว่าทำอะไร ต้องประหยัด คนก็ว่า ประหยัดๆ ดีกว่าไม่มีเลย ถ้าไม่มี ถ้าไม่มีดีเซล เราก็ต้องไปซื้ออยู่ดี
      
       เราไปซื้อ ก็มี 2 แห่งที่เขาขายเป็นสำคัญ ก็คือของแขก คือของฝรั่ง ของฝรั่งก็คืออเมริกัน เขาไม่ ของอเมริกันเขาไม่ค่อยขาย เขาบอกไม่มี แท้จริงเขามีเยอะ แต่ว่าเขาไม่ขายเพราะว่า เขาเก็บเอาไว้มาขายให้เราแพงๆ ที่จริงน้ำมัน จะเป็นดีเซล หรือน้ำมันเบนซิน มันราคาไม่ถึงที่ที่เขาขายกัน จนกระทั่งเขาแย่เพราะว่า เขาขายแพงเหลือเกิน เลยขายไม่ได้ ขายไม่ออก บางทีต้อง ลดราคา เพราะฉะนั้น เราซื้อน้ำมันราคาถูกของเราเอง ถูกกว่าของฝรั่ง ของแขก แล้วก็อาจจะคุณภาพ คือกำลังน้อยกว่าดีเซล ที่ขุดจากดิน แต่ที่จริงที่ขุดจากดินนั้นน่ะ ราคาไม่น่าจะแพงอย่างนั้น แต่เราโลภอยากได้น้ำมันที่มีกำลัง ก็เลยยอมเสียเงิน เสียเงิน ซึ่งเราควรจะไปใช้อย่างอื่น
      
       ฉะนั้นก็ การที่เราเสียรู้ทั้งฝรั่ง ทั้งแขก เสียเงินให้เขา ฝรั่งกับแขก เขาได้เงินเยอะๆ ก็ไปซื้ออาวุธ เขาสลับสู้รบกันเอง อิรัก เขาก็มีน้ำมันมาก แต่ว่าเขาไม่ขาย เขาไม่ขายเพราะว่าเขาขายไม่ได้ ไม่มีโรงที่จะกลั่น ก็ขายให้เรา แล้วเราเอามากลั่น แล้วเราก็ขายให้แขก แต่เขาซื้อในราคาถูก เขาขายในราคาแพง ไอ้นี่มันไม่ค่อยถูกหลักของการค้า การค้าที่รัฐบาลมีผู้เชี่ยวชาญการค้า ต้องขายอะไรให้ราคาแพงจะได้มีกำไร แล้วซื้อในราคาถูก แต่เราทำตรงข้าม เราซื้ออะไรราคาแพง เราขายราคาถูก อย่างนี้เราแย่ เพราะเรา เราไม่มี ไม่มีทางที่จะขายอะไรราคาแพง เพราะเขาก็ต้องบอก อู้..เขาขาดทุน เวลาไปที่ร้านเขาก็บอก ผม..ขาดทุน เป็นเสียงภาษาแขก เสียงภาษาจีน ภาษาฝรั่ง เขาก็ต้องบอกเขาขาดทุน ถ้าเราขายในราคาแพง โห..มันแพงเกินไป แล้วก็เลยซื้อไม่ได้ เขาบอกเขาซื้อไม่ได้ เพราะว่าเวลาจะซื้อเขา เขาก็ขายไม่ได้ เขาขาดทุน
      
       ที่จริงเราคนไทยนี่ เราใจดีเกินไป เรายอมขาดทุนเรื่อย ความจริงถ้า ถ้าเราขายอะไรไม่ให้ขาดทุน ซื้ออะไรไม่ให้ขาดทุน เรารวย เมืองไทยนี้รวย แต่ว่า เราใจดีเกินไป ต่างประเทศเขาบอกเขาขาดทุน เราก็ลงท้ายก็เดี๋ยวเชื่อเขา ไม่ดี เราขาดทุนไม่ได้ ไม่รู้รัฐบาลชุดนี้จะ จะซื้ออะไรขายอะไรให้ขาดทุน หรือเปล่า แต่ก่อนนี้ ขาดทุนเสมอ ฉะนั้นก็ เราก็จะต้องพยายามจะทำอะไรที่เราไม่ขาดทุน คือทำเอง ต้องทำเอง
      
       แล้วที่รัฐบาลสนับสนุนเศรษฐกิจพอเพียง พอเพียงเนี่ย หมายความว่า เราไม่ทุกข์ว่าเขาจะว่าว่าเราเอากำไรมากเกินไป เราไม่เอากำไรมาก เราไม่ทำให้ขาดทุน เราไม่ทำให้มี กำไรมากเกินไป เพราะเราขายกันเอง ก็กันเอง ก็ไม่ต้องขายแพง กันเองไม่ต้องซื้อแพง ฉะนั้นน่ะ เศรษฐกิจพอเพียงไม่ได้หมายความว่า ขาดทุน ขาดทุนก็ขาดทุน แต่ว่า ขาดทุน กำไร ของเราเอง กันเอง

      
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #2 เมื่อ: ธันวาคม 05, 2007, 02:02:05 AM »


      นี่พูดถึงเศรษฐกิจพอเพียงมาหลายปีแล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจกัน เพิ่งมาเข้าใจเดือนหนึ่ง สองเดือนนี่ ฉะนั้นก็ ขอให้ไปศึกษาต่อในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง พอเพียงคืออะไร ไม่ใช่เพียงพอ คือว่าไม่ได้หมายความว่าให้ทำกำไรเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นเอง ทำกำไรก็ทำ ถ้าเราทำกำไรได้ดี มันก็ดี แต่ว่าขอให้พอเพียง คือถ้าเอากำไรหน้าเลือดมากเกินไป มันไม่ใช่พอเพียง
       
       นักเศรษฐกิจก็ว่า พระเจ้าอยู่หัวฯ นี่ คิดอะไรแปลกๆ ก็แปลกสิ ขายไม่ให้ได้กำไร ซื้ออะไรไม่ขาดทุน เป็นเศรษฐกิจพอเพียง คือไม่ต้อง ไม่ต้องหน้าเลือด แล้วไม่ใช่ ไม่ใช่จะมีกำไรมากเกินไป หรือน้อยเกินไป ให้พอเพียง
       
       ไม่ใช่เรื่องของการค้าเท่านั้นเอง เป็นเรื่องของการพอเหมาะพอดี เราทำพอเหมาะพอดี ก็ดี พูดไปพูดมา เรื่อง เดี๋ยวก็จะเกิดเอา
       
       เราสร้างเรือ เราสร้างเรือให้พอเพียง เรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง นั่นน่ะ มันไม่พอเพียง มันเล็กเกินไป ยังเล็กเกินไป ก็อาจจะ ควรจะใหญ่กว่าหน่อย แต่ถ้าใหญ่เกินไป ไม่พอเพียง ถ้าเล็กเกินไปก็ไม่พอเพียง ที่เขาจะทำน่ะ เรือที่เขาจะทำ เรือดำน้ำ เรือดำน้ำดำลงไป ไปปักเลนเลย เดี๋ยวเขาโกรธเอา ว่าเรือแล่นๆ ไป ลงไป ดำน้ำ ไม่พอ ใครมาเครื่องบิน เห็นแจ๋วเลย ต้องไปจมเลนถึงจะไม่เห็น แล่นๆ ไปปัก ปักเลน ถ้าอยากไปที่ที่ลึก ก็ไปอยู่นอกเส้น ก็รู้สึกว้าเหว่ ไกลไป ไอ้เรือ เรือดูแลใกล้ฝั่งนี่ดีกว่า แต่ลำที่เราสร้าง ก็ใช้ได้ดีแล้ว แต่ที่ควรจะสร้างต่อไปให้ใหญ่กว่านี้สัก ใหญ่กว่านี้หน่อย แต่ตอนนี้ก็คงไม่มีเงินแล้ว ต้องใหญ่กว่าหน่อย เพราะว่าถ้าไม่ใหญ่พอ จะไม่สามารถที่จะปฏิบัติการ อย่างต่อเนื่อง
       
       แต่ว่า นี่พูดกลายเป็นราชการลับ ที่พูดราชการลับว่า จะซื้อเรือของรัสเซีย เรือที่เขาสร้างใหม่ ใหญ่กว่าที่เราสร้างไม่มาก นั่นจะมีประสิทธิภาพสูงสุด ถ้าซื้อของรัสเซียราคาไม่ถึงครึ่งของเยอรมัน ของอเมริกัน อเมริกันก็โกรธแน่ ถ้าเราไปซื้อของรัสเซีย ลองไปดู ลองไปดูเรือของรัสเซีย แต่เขาอาจจะไม่ขายให้ก็ได้ ลงท้ายทำไมทำมา เขาอาจจะขายให้ราคาแพง แต่ความจริงก็ควรจะขายเรา ขายเรา ไปขอเขาดู มัน ของรัสเซียดีจริงๆ แต่รู้ไม่ได้เดี๋ยว เขาขายให้เราลำโปเกโปเก ก็ได้
       
       นี่พูดไม่ได้ ความลับราชการ แต่เมืองไทยความลับราชการก็เผยเรื่อย เผยความลับราชการ ก็ไม่รู้ละ นะทองแดง ถ้าเผยความลับราชการก็อาจจะ อาจจะดีก็ได้ เพราะว่าความลับราชการก็ไม่ได้เรื่องอยู่ดี ยังไงก็ จะทำอะไรก็มาเผยกันหมดก็ได้ ทุกกองทัพ กองทัพเรือ ก็มีเรือดำน้ำ กองทัพอากาศ ก็มีเรืออะไร สมัยใหม่นี่ แต่เดี๋ยวนี้เขาเกิดจะมาซื้อลำนิดเดียว แต่ราคาแพงเหมือนลำใหญ่ แต่ตอนนั้นจะซื้อลำใหญ่ราคานิดเดียวเหมือนลำเล็ก
       
       แต่ว่า แต่ก่อนนี้จะซื้อเครื่องบินลำใหญ่ ในราคาของลำเล็ก ก็ชอบกลอยู่นะ ก็รัสเซียเหมือนกันนะ ทำไปทำมาจะซื้อเรือรัสเซีย เรือบินรัสเซีย เราไม่เห็นด้วย แต่จะซื้อเรือ เรือน้ำรัสเซีย ก็น่าใช้ กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ก็ได้ชวนกันซื้อเครื่องบิน อย่าซื้อเรื่องบินรัสเซีย ซื้อเรือรัสเซีย ไม่ใช่ ไม่อย่างงั้นจะชนกัน เรือของรัสเซีย เรือน้ำของรัสเซีย เข้าใจว่าดี เรือบินของรัสเซีย เข้าใจว่าใช้ไม่ได้ ลองไปดู
       
       นี่ นานๆ ทีได้พบกัน ก็ต้องปรารภ ว่าอะไรควรจะทำ ไม่ควรจะทำ เรือบิน ก็ดูตกลงกันแล้ว แต่ถึงเวลาได้เรือบินมา ก็อาจจะล้าสมัยแล้ว 2 ปีกว่าจะได้ 2 ปีคงล้าสมัยแล้ว เรือบินไม่ใช่รัสเซีย เรือบินของสวีเดนนะ ก็ ดูดีเพราะว่าลำมันไม่ใหญ่ กองทัพบกก็ จะไปซื้อรถ รถล้าสมัย ล้าสมัยเหมือนกัน
       
       ไม่รู้ว่า คนไทยนี่ ชอบซื้ออะไรล้าสมัย แต่เอามาเล่นก็ดีเหมือนกัน รถถังล้าสมัย แต่เมืองไทยนี่ใช้รถถัง ทันสมัย มันใช้ไม่ได้ มันจมเลน จมเลนแล้วก็ ถ้าจมเลนปั๊บก็ มันก็หมดสมัย มันลำบากที่จะ ซื้อ เดี๋ยวนี้จะซื้อ รัฐบาลก็หมดสมัยแล้ว อีกหน่อยก็หมดสมัย อีกไม่กี่เดือนก็หมดสมัย เอาไว้ให้รัฐบาลใหม่ เขาซื้อ เขาซื้อรถถัง รถอะไรนั่น แต่อย่างนี้มาแนะนำการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์กลางที่ประชุมนี้ ที่ประชุมนี้ก็ใหญ่กว่าสภาฯ คนมากกว่า มีคนตั้ง 20,000 คน ลงท้าย เขาฟังข้างนอก เขาก็งง ไม่รู้ว่าพูดเรื่องอะไร
       
       ยังไงก็ตาม ที่พูดอย่างนี้นะให้เห็นว่าเราต้องคิดดีๆ ว่าจะซื้อ จะซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จะซื้อยังไง รู้สึกว่าท่านก็ คงงงหมดแล้ว ว่าไม่ได้พูดถึงพลเรือน ว่าจะซื้ออะไร มีแต่จะซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ แต่ว่าอาวุธยุทโธปกรณ์ก็ต้องซื้อ ต้องมี เพราะว่าเดี๋ยวนี้ น้ำท่วม ก็ใช้กองทัพ กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ไปช่วยชาวบ้าน สำหรับพวกพลเรือนไม่มี ไม่มีอาวุธที่จะไปช่วยพวกที่เดือดร้อน พวกที่ต้องการใช้ เรียกว่าอาวุธสำหรับช่วยประชาชน ยังไงก็พลเรือนก็ต้องมีอาวุธละกัน
       
       แต่ก่อนนี้พูดถึงตำรวจ เป็นกองทัพ แต่เดี๋ยวนี้เขาไม่เป็นแล้ว แต่ว่าต้องใช้อาวุธ สำหรับช่วยชาวบ้าน ยังไงก็ คงต้อง คงต้องเลิกพูด เพราะว่าถ้าพูดมาก เดี๋ยวท่านก็งงว่า จะมาใช้เงินเยอะแยะ ไหนๆ เรารวยแล้ว
       
       เดี๋ยวนี้เรารวย เงิน เงินบาทมีราคาสูง สูงเกินไปก็ใช้ซิ เงินบาทสูงเกินไปก็ใช้ ใช้ในที่ที่ควร ไม่ทราบ เราเดี๋ยวนี้ไม่รู้เรื่อง อาจจะเป็นที่หมอเขาว่า สมองเราฝ่อ แต่เรารู้สึกสมองเราไม่ฝ่อ แต่เขาว่าเราฝ่อ ฟังว่า รัฐบาล หรือเมืองไทย ประชาชน มีเงินเยอะ มีเงินเกินนะ ก็ใช้สิ
       
       เขาหาว่าเราเศรษฐกิจพอเพียง คำว่าพอเพียง ถ้ามีเงินก็ต้องใช้ ไม่ใช่ขี้เหนียว ถ้ามีเงิน ไม่ต้องขี้เหนียว ซื้อไปเถิด อะไรก็ตาม เครื่องบิน เรือ รถถัง ซื้อ ถ้ามีเงินเยอะ ก็ถือว่าสนับสนุนให้จ่าย เดี๋ยวนี้เขาก็ ในหนังสือพิมพ์เห็นว่า เขาสนับสนุนให้จ่าย ถ้ามีก็จ่าย แต่ถ้าไม่มีก็ระงับหน่อย มันเป็นอย่างนี้ คนเราก็พูดเกินไปเสมอ อย่าให้เขา ตอนนี้ ที่ท่านมาให้พรให้ อวยพร ก็นับว่าดีมาก ทำให้มีกำลังใจ
       
       แต่ไม่ทราบว่าคิดถูกหรือไม่ถูกเพราะว่า ท่านไม่ได้บอกอะไร เรามีเงินเยอะใช่ไหม ดูท่าทางว่า approve ว่า มีเงินเยอะ ก็ถ้ามีเงินเยอะก็จ่าย ใช้เงินให้สมกับที่เรามีเงิน ถ้าไม่มีเงินแล้วจ่ายจะอันตราย แต่ถ้ามีเงินและไม่จ่ายก็อันตรายเหมือนกัน เพราะว่า คนที่มีเงินแล้วไม่จ่าย หมายความว่า จะเก็บไว้ทำอะไร บางคนมีเงินแล้วไม่จ่าย ให้คนอื่นจ่าย ก็หมายความว่า คนที่ไม่มีเงินบอก ใช้เงินเถอะ เพื่อที่จะได้กำไร คนที่มีเงินยิ่งอยาก อยากได้กำไร อย่างนี้ไม่ดี
       
       ฉะนั้นก็ต้อง คนที่มีเงินก็จ่าย แล้วก็ช่วยคนที่ไม่มีเงิน นี่ รู้สึกตัวว่าพูดอะไรที่ถูกต้อง คนที่มีเงินต้องจ่าย คนที่ไม่มีเงินต้องไม่จ่าย แต่คนเขาคิดตรงข้าม คนที่ไม่มีเงินต้องจ่าย อย่างสมัยนี้ คนไม่มีเงิน ให้ใช้เงิน ใช้เงินมากๆ เพราะว่าถ้าคนไม่มีเงินใช้เงินมากๆ ก็ต้องไปกู้ คนที่มีเงินมากๆ ก็ได้กำไร ไม่พอเพียง
       
       ก็ยังไงก็ ขอให้ที่ท่านมานี่ ได้ผลไปคิด ให้ไปคิดว่าควรจะทำอะไร แล้วท่านก็มีความคิดดีอยู่แล้ว ก็อย่าไป ที่พูดว่า อย่าไปมีปมด้อยว่าไม่มีความคิด ซื้อเรือ ซื้อเครื่องบิน ซื้อรถถัง ก็ไปซื้อเถอะ เรือน่ะ สร้างเองน่ะ ให้เขาสร้าง เรืออันไหนที่สร้างไม่ได้ ไปสร้างที่อื่น แล้วก็ไปสร้างที่ๆ เขาแล่นๆ ไปนั่นนะ มันคลอนหมด ไปซื้อเรือที่แล่นๆ น่ะ จะไปสู้กับเขาไม่ได้ เพราะว่ามันคลอนหมด สร้างเองดีกว่า นี่เขางงว่าทำไม ยุให้สร้างเรือ สร้างเรือเอง ให้คุณภาพดี ไม่ให้คลอน แต่ก็ต้องมีเงินไปสร้างเอง มันตก
       
       ก็ยังไงก็ คง พูดมากเกินไป ทองแดงก็เมื่อย แต่พูดอะไรก็เห็นด้วยนะ อ้าว ยัง ยังไม่ไป ยังไม่ไป ก็ขอบใจที่ท่านมา ขอให้ท่านสามารถที่จะมีจิตใจที่เข้มแข็ง แข็งแรง แล้วก็เพื่อที่จะทำอะไรให้เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม ก็จะเป็นประโยชน์แก่ท่านเอง ก็ขอขอบใจ อีกทีที่มา"


บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #3 เมื่อ: ธันวาคม 05, 2007, 02:12:17 AM »


ในหลวงกับเรือใบ - ตาม "ล้นเกล้าฯ" ข้ามอ่าวไทย ทรงพระเกษมสำราญกลางมหานที


 
ธงราชนาวิกโยธินสีแดงเข้ม รูปครุฑเกาะลูกโลก บรรจุแผนที่ประเทศไทย และเส้นรุ้งเส้นแวงทับลงบนสมอเรือและสายสมอ พลิ้วสะบัดตามแรงลมดูเด่นเป็นสง่าอยู่เหนือก้อนหินขนาดใหญ่กลางชายหาดอ่าวนาวิกโยธิน

หรืออ่าวเตยงาม กองบัญชาการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (นย.) อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เบื้องหลังอนุสรณ์สถานแห่งนี้ มีปูนปั้นรูปเรือใบประเภทโอเค ชื่อ "เวคา" (VEGA) ขนาดเท่าของจริงตั้งอยู่เคียงคู่กัน

ย้อนกลับไปเมื่อ 41 ปีก่อน "เวคา" เรือใบลำนี้เคยสร้างประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเรือใบแล่นผ่านอุปสรรคนานาประการ บวกกับความแปรปรวนของคลื่นลมกลางทะเลอ่าวไทย จาก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มายัง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ระยะทางประมาณ 60 ไมล์ทะเล หรือประมาณ 110 กิโลเมตร นานถึง 17 ชั่วโมง !!! 

เวลา 04.28 น. 19 เมษายน 2509 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเรือใบเวคาด้วยพระองค์เองเพียงลำพัง จากพระราชวังไกลกังวลแล่นข้ามอ่าวไทยมาถึง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เวลา 21.28 น. ตลอด 17 ชั่วโมงเต็ม พระองค์ทรงแล่นเรือใบลอยเคว้งคว้างมองไม่เห็นจุดหมายอยู่กลางอ่าวไทย จะพบพานกับอุปสรรคใดบ้าง ?

พล.ร.อ.ยุทธนา เชิดบุญเมือง อดีตผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน คนที่ 8 วัย 83 ปี ผู้อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น รู้เพียงว่า...วันนั้น "ลมอ่อน" ทำให้เรือใบแล่นได้ช้าลง เพราะเรือใบต้องอาศัยแรงลมในการขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมาย หากครั้งใดเจอปัญหาสภาพลมอ่อนจะต้องควบคุมเรือใบให้เดินทางสู่จุดหมายด้วยวิธีแล่นก้าว ซึ่งเป็นการแล่นเรือใบสลับฟันปลา เพื่อให้ใบเรือปะทะรับแรงลมแล่นไปสู่จุดหมายปลายทางนั่นเอง

"วันนั้นลมไม่เป็นใจถึงได้ช้า แถมสมัยก่อนมือถือยังไม่มี มีทหารเรือติดตามอารักขาแค่ลำเดียว การแล่นเรือข้ามอ่าวนั้นอันตราย แต่เมื่อรู้ว่าในหลวงมาถึงแล้ว ทุกคนปลาบปลื้มกันถ้วนหน้า ผู้บัญชาการทหารเรือสมัยนั้นถึงกับลุยน้ำทะเลไปรับพระองค์ท่านเลยทีเดียว" พล.ร.อ.ยุทธนา ย้อนความทรงจำสมัยเป็นเสนาธิการทหาร ยศนาวาเอก 

"ทุกคนเฝ้ารอคอยพระองค์ท่านด้วยความเป็นกังวล เป็นห่วงพระองค์ท่าน เพราะมันมืดแล้ว ปกติเรือใบมีความเร็วประมาณ 5 นอตต่อชั่วโมง ก็น่าจะใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมง 4-5 โมงเย็นก็น่าจะถึง แต่พระองค์ท่านมาถึงตอน 3 ทุ่มเศษ" พล.ร.อ.ยุทธนา บอกหลังคำนวณระยะทางอย่างคล่องแคล่วและรวดเร็วในใจ

วินาทีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเรือใบมาถึงอ่าวนาวิกโยธิน นำความปลาบปลื้มมาสู่เหล่าข้าราชการกองทัพเรือ พระองค์ทรงฉลองพระองค์ชุดสนามทหารนาวิกโยธินเป็นครั้งแรก และนำธง "ราชนาวิกโยธิน" ซึ่งทรงนำข้ามอ่าวไทยมาด้วย ปักเหนือยอดก้อนหินใหญ่ที่ชายหาด ท่ามกลางเสียงบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ มาร์ชราชนาวิกโยธิน (Royal Marines March) และทรงลงพระปรมาภิไธยบนแผ่นศิลาจารึกบนก้อนหินใหญ่

หลังจากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญาฯ (พระอิสริยยศขณะนั้น) เมื่อสำราญพระราชอิริยาบถตามพระราชอัธยาศัย จนเวลาเที่ยงคืนจึงเสด็จฯ ไปประทับเรือหลวงจันทร เรือพระที่นั่งข้ามอ่าวไทยกลับพระราชวังไกลกังวล 

อีก 1 ปีต่อมา วันครบรอบขวบปีที่พระองค์ทรงแล่นเรือใบข้ามอ่าวไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงนำพวงมาลัยพวงใหญ่มาคล้องประดับแผ่นศิลา ก่อนที่จะทรงเรือใบบริเวณอ่าวเตยงาม โดยมีข้าราชบริพารพายเรือออกไปห้อมล้อมเรือใบพระที่นั่ง ยังคงเป็นภาพความประทับใจติดตรึงใจเหล่าข้าราชการทหารนาวิกโยธิน และครอบครัวตราบจนทุกวันนี้



ปัจจุบัน "พระปรมาภิไธย" เหนือก้อนหินใหญ่กลายเป็น "อนุสรณ์สถาน" เพื่อรำลึกเหตุการณ์วันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปักธงราชนาวิกโยธิน โดยมีการจารึกข้อความพระราชสดุดีและเฉลิมพระเกียรติ ความว่า

"ณ ที่นี้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จอมทัพไทย ทรงนำเรือใบขนาด 13 ฟุต ด้วยพระองค์เองพระองค์เดียว จากหัวหินมาถึงสัตหีบ เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2509 เริ่มเวลา 04.28 น.ถึงเวลา 21.28 น. ทั้งนี้ เป็นพระปรีชาสามารถอย่างยอดเยี่ยม เป็นครั้งแรกในประวัติการณ์กองทัพเรือ ได้ขอพระราชทานพระมหากรุณาให้ทรงลงพระปรมาภิไธยไว้เป็นสิริมงคล และเพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่กองทัพเรือสืบไป" 



กาลต่อมา...พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานหางเสือเรือพระที่นั่ง "เวคา" แก่กองทัพเรือ และกองทัพเรือได้มอบหางเสือเรือพระราชทานให้สมาคมแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย เพื่อเป็นรางวัลนิรันดรในการจัดการแข่งขันแล่นเรือใบทางไกลชิงรางวัลหางเสือเรือพระที่นั่ง "เวคา" เป็นประจำทุกปี

แต่ทว่าการแข่งขันเรือใบทางไกลปัจจุบันไม่ข้ามอ่าวไทยแล้ว เพราะมีพระราชกระแสรับสั่งต่อข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เรื่องความปลอดภัยของนักกีฬา เช่น เรื่องไม่มีลม และสัตว์ร้าย เมื่อต้องลอยเรือใบอยู่กลางทะเล

"เมื่อ 10 ปีก่อน เคยจัดการแข่งขันเรือใบทางไกลข้ามอ่าวไทย ปล่อยเรือใบตั้งแต่เช้า จวบจน 2 ทุ่มแล้ว เรือใบยังลอยอยู่กลางทะเล ต้องเอาเรือออกตามหากัน และการแข่งขันก็ไม่ใช้เรือใบเล็กเหมือนพระองค์ท่าน เพราะเสี่ยงอันตราย" น.อ.สุธีพงศ์ แก้วทับ ประชาสัมพันธ์สมาคมแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เล่าให้ฟัง 

การแล่นเรือใบข้ามอ่าวไทยตลอด 17 ชั่วโมง ขณะที่ทรงเรือใบเล็กๆ ต่อสู้กับความแปรปรวนของสภาพอากาศและคลื่นลมกลางทะเลนั้น น.อ.สุธีพงศ์ สะท้อนว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่ใครจะทำได้อย่างพระองค์ท่าน พระวรกายต้องตากแดด ตากลม หากเจอสภาพลมอ่อนต้องใช้วิธีแล่นก้าว ซึ่งเป็นการแล่นเฉียงกับลม ปรับเรือใบในทิศที่รับลม ต้องใช้พละกำลังในการโหนเรือ และยังต้องใช้ความคิด ประมวลความรู้เรื่องอุทกศาสตร์และทิศทางลม เพื่อให้เรือใบแล่นไปถึงเป้าหมายโดยอาศัยแรงลม เพราะเรือใบไม่ได้ติดเครื่องยนต์ หากเรือล่มพระองค์ต้องทรงกู้เอง ต้องทำทุกอย่างด้วยพระองค์เอง

‘เตยงาม’ อ่าวศักดิ์สิทธิ์แห่งสยาม

น้ำทะเลสีมรกตซัดผืนทรายเม็ดละเอียดบริเวณชายหาดอ่าวนาวิกโยธินแห่งนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ยศึกษาแล้วเห็นว่า เป็นสถานที่ที่มีภูมิสถาปัตย์ที่ดีมาก เพราะมีภูเขาล้อมรอบ แถมมีเขาสูงอยู่ด้านหลังเหมือนขาสิงห์ยื่นออกมาทั้งซ้ายและขวา ที่เรียกกันว่า "หน้ามีน้ำหลังพิงเขา" และเมื่อมองจากที่สูงจะพบว่า บริเวณกลางอ่าวมีการไหลวนของน้ำ พัดจากแหลมปู่เจ้าวนเข้าสู่กลางอ่าว เข้าลักษณะที่เรียกว่า "สะดือมังกร" ถือเป็นพื้นที่ที่มีพลังธรรมชาติสูง หากใครมีโอกาสชุบตัวในทะเลบริเวณนี้ จะสามารถเพิ่มพลังธรรมชาติ ปกป้องรักษาตัวเองให้แคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง มีสุขภาพพลานามัยดี และมีบารมีกล้าแกร่ง

ร.ท.อนนท์ ตุลารักษ์ หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์และมัคคุเทศก์ กิจการศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาทรัพยากรบุคคลและการกีฬา หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เล่าขานตามความเชื่อเรื่องสะดือมังกรว่า คนจีนสมัยก่อนแล่นเรือสำเภามาค้าขายในเมืองไทย มักจะมาแช่น้ำบริเวณนี้ เพราะจะช่วยเพิ่มพลัง เสริมบารมีให้แก่กล้า และเพิ่มพลังธรรมชาติ แม้จะผ่านมานานหลายสิบปีแล้ว แต่ความเชื่อดังกล่าวยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้

กลิ่นทินเนอร์ น้ำยาแล็กเกอร์ ประสานกับเสียงเครื่องปัด สว่าน กบไฟฟ้า ดังก้องอู่ต่อเรือเล็ก กรมอู่ทหารเรือ นายช่างต่อเรือหลายสิบชีวิต กำลังขะมักเขม้นเร่งขึ้นรูปเรือซูเปอร์มดตามเป้าหมาย 36 ลำ เพื่อร่วมริ้วขบวนเรือซูเปอร์มดเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เฉกเช่นเหล่านักเรียนอาชีวะจากวิทยาลัยกว่า 40 แห่งทั่วประเทศไทย ต่างขมีขมันบรรจงต่อเรือซูเปอร์มดเฉลิมพระเกียรติ ให้ได้ครบ 81 ลำ เพื่อนำมาร่วมประกวด ซึ่งทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี จะเสด็จไปประทานรางวัลในวันที่ 16 ธันวาคมนี้

และวันนั้น...ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี จะทอดพระเนตรริ้วขบวนเรือใบซูเปอร์มดเฉลิมพระเกียรติทั้ง 81 ลำ ประชันขันแข่งโลดแล่นเด่นสง่ากลางอ่าวเตยงาม ซึ่งชายหาดเดียวกันนี้เมื่อ 41 ปีก่อน ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ก็ทรงเฝ้าคอยการมาถึงของเรือใบ "เวคา" ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงแล่นข้ามอ่าวไทยมาแล้วเช่นกัน

 


จาก                 :                คม ชัด ลึก  วันที่ 5 ธันวาคม 2550
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
Sri_Nuan.Ray
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1808



เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: ธันวาคม 05, 2007, 02:34:34 AM »

ขอพระองค์ จงทรงพระเจริญ
มีพระพลานามัย แข็งแรง สมบูรณ์

ด้วยเกล้า ด้วยกระหม่อมขอเดชะ


Sri_Nuan.Ray
บันทึกการเข้า

~~~ หากเราหยุดนิ่ง ทุกอย่างที่ผ่านมา คือ อดีต.... ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพื่อมันจะได้เป็นอดีตที่มีค่าแก่ ความทรงจำของเรา  ~~~
แม่หอย
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1404



« ตอบ #5 เมื่อ: ธันวาคม 05, 2007, 08:33:39 AM »

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญร่มโพธิ์ร่มไทรของปวงชนชาวไทยตลอดกาลนาน

.. ขอขอบพระคุณพี่สายน้ำเป็นอย่างมาก ที่ได้กรุณานำพระราชดำรัสมาลงไว้ให้อ่านอีกหลายๆ รอบ รวมทั้งเรื่องทรงเรือใบ ที่อ่านแล้วปิติตื้นตันใจจนน้ำตาไหลอีกแล้วค่ะ .. หลังจากนั้นก็ได้เฝ้าชมถ่ายทอดสดพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษาฯ ชมไปน้ำตาไหลไปตลอดรายการ.. เย็นวันนี้คิดว่าพวกเราทุกคนคงจะได้ไปร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพรกันนะคะ
บันทึกการเข้า
nalada
ได้2ดาวแล้วพยายามอีกหน่อยจะได้สอย3ดาว
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 57


« ตอบ #6 เมื่อ: ธันวาคม 05, 2007, 12:22:08 PM »

ขอพระองค์ จงทรงพระเจริญ
มีพระพลานามัย สมบูรณ์  แข็งแรง เป็นมิ่งขวัญแก่ปวงชนชาวไทย

ด้วยเกล้า ด้วยกระหม่อมขอเดชะ

วันนี้มีโอกาส เข้าไปอ่าวเตยงาม เข้าไปชื่นชมพระปรีชาสามารถของพระองค์ท่านในการทรงเรือใบด้วยค่ะ
บันทึกการเข้า
Sea Man
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2208


ท้องฟ้า/ภูเขา/ป่าไม้/ทะเล


« ตอบ #7 เมื่อ: ธันวาคม 05, 2007, 02:05:41 PM »

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญร่มโพธิ์ร่มไทรของปวงชนชาวไทยตลอดกาลนานด้วยเกล้า ด้วยกระหม่อมขอเดชะ
บันทึกการเข้า

.....รู้จักคิด....ฟังความคิดผู้อื่น....พร้อมเปลี่ยนแปลง....ไปสู่สิ่งใหม่และดีกว่า.....
mars
ตอบกระทู้เยอะ ๆ จะได้ 2 ดาว
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 26


My Life for Freedom.


เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: ธันวาคม 05, 2007, 02:34:13 PM »

บันทึกการเข้า
สายรุ้ง
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 838


« ตอบ #9 เมื่อ: ธันวาคม 05, 2007, 06:46:28 PM »

เมื่อวานนี้ ไปรอรับเสด็จ พระเจ้าอยู่หัว อยู่ตรงถนนราชดำเนินมา   เชื่อว่าแม้พสกนิกรชาวไทยและเทศที่อาศัยอยู่

ในเมืองไทย  จะได้เห็นพระองค์แค่ชั่วเวลา แว๊บเดียว ก็ถือว่า ชื่นอกชื่นใจ และซาบซึ้งตรึงใจกันทุกคน

ทรงเป็น  ราชาแห่งราชะ จริงๆ   

ภาพแสงเทียนที่ทุกคนจุด ขณะรอรับเสด็จ ช่างสวยงามตรึงตาตรึงใจ  เสียง ทรงพระเจริญ ดังกึกก้องผ่าน

โสตประสาทที่สัมผัสได้   แต่ในใจอยากร้องบอก  เรารักในหลวง  เรารักพระเจ้าอยู่หัวมากที่สุดในโลก เลย

......เมื่อสักครู่ เปิด ทีวี เห็น  SPOT ทางทีวี ที่ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล บอกว่า

....ทุกคนอยากเห็นในหลวง   อยากชื่นชมพระบารมี 

 
...แต่ทุกคนไม่ได้มองพระเจ้าอยู่หัว......ว่าท่านทำอะไรอยู่ และ

เราควรจะทำอะไร
 

.......ทุกคนอยากได้ยินในหลวงตรัส ว่าจะทรงตรัสว่าอะไร.......

แต่ทุกคน..ไม่ได้ฟังพระเจ้าอยู่หัว....ว่าท่านตรัสถึงเรื่องอะไรและทำไม


ชม SPOT  นี้แล้ว ได้คิดอะไรเยอะเลย   ใครมีโอกาส รอชมกันนะค่ะ

ท้ายสุด  ขอพระเจ้าแผ่นดิน ผู้ยิ่งใหญ่ในดวงใจไทยทั้งชาติ  ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม  ขอเดชะ



บันทึกการเข้า
แมลงปอ
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 681


« ตอบ #10 เมื่อ: ธันวาคม 05, 2007, 11:33:23 PM »

ขอพระองค์ จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ด้วยเกล้า ด้วยกระหม่อมขอเดชะ

ขอบพระคุณพี่สายน้ำเป็นอย่างสูงที่ถ่ายทอดพระราชดำรัสของพระองค์ท่านอย่างละเอียด
....กำลังหาอ่านอยู่เลยค่ะ.....
บันทึกการเข้า
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #11 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2007, 01:10:07 AM »


พระราชดำรัสในหลวง
"ให้คนไทยสมัครสมานปรองดอง ตั้งอยู่ในความสามัคคี"


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสในการเสด็จออกมหาสมาคม ในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ปีพุทธศักราช 2550 เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ความว่า

 "ข้าพเจ้ามีความปีติชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง ที่ท่านทั้งหลายพรั่งพร้อมกันมาให้พรวันเกิด ขอขอบพระทัยและขอบใจ ในคำอวยพรอันเปี่ยมไปด้วยไมตรีจิตและความหวังดี ขอทุกท่านจงได้รับพรและไมตรีของข้าพเจ้าเช่นเดียวกัน

 บ้านเมืองจะมีความมั่นคงเป็นปรกติสุขอยู่ได้ ก็ด้วยนานาสถาบันอันเป็นหลักของประเทศ และคนไทยทุกหมู่เหล่า มีความสมัครสมานปรองดองกันดี และรู้จักปฏิบัติหน้าที่ให้ประสานส่งเสริมกัน ความพร้อมเพรียงของทุกฝ่ายทุกคนที่มีความสำนึกแน่ชัดในหน้าที่ ความรับผิดชอบและตั้งใจปฏิบัติตนปฏิบัติงานให้ดีให้ประสานสอดคล้องกันนี้ จัดเป็นความสามัคคีอย่างหนึ่ง คือความสามัคคีในชาติ

 ถ้าทุกคนในชาติจะได้ตั้งตนตั้งใจให้อยู่ในความสามัคคีดังกล่าว ประโยชน์และความสุขก็จะบังเกิดขึ้นพร้อม ทั้งแก่ส่วนตัวและส่วนรวม ประเทศชาติของเราก็จะสามารถรักษาความเป็นปรกติมั่นคง พร้อมทั้งพัฒนาให้รุดหน้าไปได้ดังปรารถนาขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จงคุ้มครองรักษาท่านให้ปราศจากทุกข์ ปราศจากภัยและอำนวยสุขสิริสวัสดิ์ พิพัฒนมงคลให้สัมฤทธิ์แก่ท่านทุกเมื่อไป".



   
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
WayfarinG
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2388



« ตอบ #12 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2007, 01:28:05 AM »

 
บันทึกการเข้า

If you reject the food, ignore the customs, fear the religion and avoid the people, you might better stay home.  -- > James Michener
Plateen
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 522



« ตอบ #13 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2007, 05:00:33 AM »

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม  ขอเดชะ
บันทึกการเข้า

For God so loved the world, that he gave his only begotten Son, that whosever believeth in him should not perish, but have everlasting life[John3:16]
voldermort
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 564



เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2007, 05:20:04 AM »

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
มีพระพลานามัยสมบูรณ์ เป็นมิ่งขวัญแก่ประสกนิกรณ์ชาวไทยสืบไป

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.328 วินาที กับ 20 คำสั่ง