พฤศจิกายน 13, 2025, 04:39:41 PM
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว
: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ค้นหา
สมาชิก
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
กระดานข่าว Save Our Sea.net
>
หมวดหมู่ทั่วไป
>
สรรพชีวิตแห่งท้องทะเล
(ผู้ดูแล:
สายชล
,
สายน้ำ
) >
สรรพชีวิตบนลานทราย
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: สรรพชีวิตบนลานทราย (อ่าน 1888 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 4627
สรรพชีวิตบนลานทราย
«
เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 06, 2008, 12:25:48 AM »
สรรพชีวิตบนลานทราย
โดย วินิจ รังผึ้ง
จุดดำน้ำบางแห่งแทบจะดูเหมือนว่าไม่มีอะไรน่าสนใจ มีเพียงเศษปะการังแตกหักกระจายเกลื่อนอยู่บนพื้น หรือลานทรายโล่งกว้างที่แสนจะธรรมดา แต่ก็มีนักดำน้ำลงไปดำดูกันอย่างไม่รู้เบื่อ โดยเฉพาะบรรดาช่างภาพใต้น้ำที่หลายคนแทบจะคลานหาอะไรต่อมิอะไรถ่ายอยู่บนพื้นทราย หรือไม่ก็นอนหมอบนิ่งเฝ้าอยู่เช่นนั้นนานสองนาน ก็บริเวณพื้นทรายหรือลานปะการังแตกหักที่ดูเหมือนไม่น่ามีอะไรสวยงามนั้น มีชีวิตเล็กๆอาศัยอยู่มากมาย เริ่มตั้งแต่ปลาบู่ทะเลพันธุ์ต่างๆ ซึ่งปลาบู่ทะเลนั้นเป็นปลาที่มีจำนวนสายพันธุ์มากมายหลากหลายในระดับต้นๆของสมาชิกในท้องทะเลเลยทีเดียว
ปลาบู่ทะเล
จะมีนิสัยชอบขุดรูอยู่ตามพื้นทราย และปลาบู่ทะเลที่ขุดรูอยู่จำนวนมากมักอาศัยร่วมกับ
กุ้ง
ในรูเดียวกัน เป็นการอาศัยแบบพึ่งพากันของเพื่อนต่างสายพันธุ์ ซึ่งกุ้งมักจะสายตาไม่ดีมันจะคอยบริการเก็บกวาดเศษหินดินทรายจากในรูซึ่งเป็นเสมือนบ้านขนขึ้นมาทิ้ง ในขณะที่ปลาบู่ก็จะคอยเป็นยามระวังภัย โดยมันจะใช้หางสัมผัสบอกเตือนกุ้งให้หลบลงไปเมื่อสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ ปลาบู่ทะเลนั้นมีมากมายหลากสีหลายลาย ตั้งแต่สีเหลือง สีฟ้า สีดำ สีขาว สีแดง สีม่วง ซึ่งการถ่ายภาพเจ้าปลาบู่ทะเลนั้นช่างภาพจะต้องใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว ค่อยๆคืบคลานเข้าไปใกล้จนได้ระยะ และเฝ้ารอจนเจ้าปลาบู่ทะเลคุ้นเคยให้ความไว้วางใจ จึงจะได้ภาพที่ดีกลับมา
ผมยังจำความพิศวงงงงวยที่เกิดขึ้นครั้งหนึ่งที่ผมดำอยู่บนผืนทรายในระดับความลึกราว 60 ฟุต บริเวณจุดดำน้ำที่เรียกว่า
สวนปลาไหล
แถวๆเกาะห้า หมู่เกาะสิมิลัน สายตาผมเหลือบไปเห็นลูก
ปลาบลู เรเซอร์
ซึ่งเป็น
ปลานกขุนทอง
ชนิดหนึ่ง สีของมันเป็นสีเหลืองน้ำตาล มีอวัยวะที่คล้ายๆนอยาวขึ้นมาจากโหนกบนหัว ขนาดตัวมันยาวราวสัก 2 นิ้วเห็นจะได้ ลูกปลาขุนทองชนิดนี้ทั้งสีสันหน้าตาจะต่างไปจากพ่อแม่อย่างสิ้นเชิง เมื่อโตขึ้นมันจะเปลี่ยนสีและลวดลายบนลำตัวไปอีกอย่างหนึ่ง และออกว่ายน้ำหากินไปทั่วแนวปะการัง แต่ตอนช่วงวัยเด็กนั้น มันจะอาศัยอยู่บนพื้นทราย นับเป็นปลาที่หายากชนิดหนึ่ง
เมื่อผมพบเห็นเข้าก็เกิดอารามดีใจ รี่เข้าหาเพื่อจะเก็บภาพให้ทันก่อนที่มันจะว่ายหนีไปไหน ปรากฏว่าเจ้านกขุนทองตัวน้อยว่ายหนีไม่ยอมให้ถ่ายได้ง่ายๆ มันว่ายฉวัดเฉวียนไปกับพื้นทรายขาว ผมจึงมองเห็นมันได้อย่างชัดเจน และสลับฝีเท้าตามติดเล็งกล้องส่องตามไปจนได้ระยะ แต่ครั้นเมื่อผมจะกดชัตเตอร์ มันก็อันตรธานหายไปในพริบตา หายไปต่อหน้าต่อตาผมทั้งที่รอบข้างมีแต่พื้นทรายขาวบริสุทธิ์ ไม่มีกองหิน กอปะการัง หรืออะไรทั้งสิ้นที่จะให้มันหลบซ่อนพ้นสายตาผมไปได้ ผมมองพื้นทรายขาวรอบข้างอย่างมึนงง มันหายไปไหน มันล่องหนหายตัวได้หรืออย่างไร
ความงุนงงสงสัยติดค้างอยู่ในจิตใจผมมาเนิ่นนาน กระทั่งได้มีโอกาสกลับไปดำซ้ำที่เดิมอีกครั้ง และพบเจ้านกขุนทองตัวจิ๋วอีกคราว ครั้งนี้มันว่ายช้าลงและยอมให้ถ่าย เมื่อตามเก็บภาพได้หลายภาพจนผมอาจจะเข้าใกล้มันจนเกินไป และแล้วผมก็พบความลับ เมื่อเจ้าลูกปลานกขุนทองบลู เรเซอร์ ถูกประชิดตัวจนมันตื่นตกใจเหมือนกับมันประเมินว่าว่ายหนีไม่ทันแล้ว มันก็ใช้วิชานินจา ด้วยการมุดหายลงไปในพื้นทรายอย่างรวดเร็วจนแทบจะมองไม่ทันเลยทีเดียว ผมเฝ้ารออยู่นานเจ้านกขุนทองตัวจิ๋วก็ยังไม่ยอมโผล่ออกมา มันคงสัมผัสรู้ได้ว่าผมยังไม่จากไปไหน ภัยอันตรายยังมีอยู่จึงไม่ยอมโผล่ออกมา
หลังจากวันนั้นพื้นทรายที่ราบเรียบใต้ท้องทะเล จึงมิได้เป็นแดนที่ไร้ค่าสำหรับผม และเมื่อพยายามศึกษา สังเกตดูบ่อยครั้งเข้า ก็พบว่ามันมีชีวิตที่มากมายหลากหลาย เช่นที่บริเวณสวนปลาไหลนี้ จะมีปลาไหลทะเลชนิดหนึ่งอาศัยอยู่กับมากมายในรูบนพื้นทราย ตัวมันขนาดเท่านิ้วก้อย แต่อาจมีความยาวเป็นฟุตเลยทีเดียว สีขาวของลำตัวกับลายจุดคล้ำคล้ายเม็ดทรายเล็กๆทำให้มันดูกลมกลืนไปกับผืนทราย นอกจากปลาไหลสวนแล้ว บนพื้นทรายเรายังจะพบเจ้า
ปลาไหลหัวงู
(ไม่ใช่นักดำน้ำหัวงูนะครับ) ซึ่งเป็นปลาไหลที่มีส่วนหัวคล้ายงู ซึ่งชอบโผล่หัวและดวงตาขึ้นมาจากพื้นทราย
บนพื้นทรายที่มีสภาพแบนราบนั้น ยังมีปลาบางชนิดที่พยายามปรับตัวให้เข้ากับสภาพภูมิประเทศได้อย่างกลมกลืนยิ่ง นั่นก็คือเจ้า
ปลาลิ้นหมา
ที่มีลักษณะลำตัวแบนราบติดพื้นทราย และลำตัวแบ่งออกเป็นสองด้านคือด้านบนและด้านล่างของลำตัวอย่างชัดเจน โดยดวงตาทั้งสองข้างจะขึ้นไปอยู่ด้านบนใกล้ชิดกันที่ส่วนหัว ด้านบนของลำตัวจะมีสีสันและลวดลายเป็นสีกรวดทราย ยามปรกติ เจ้าปลาลิ้นหมาจะนอนหมอบนิ่งพรางตัวอยู่บนผืนทราย โดยมันอาจจะขยับตัวให้เม็ดทรายฟุ้งกลบตัว โผล่มาแต่ดวงตา แต่หากการพรางตัวของมันไม่ได้ผล หรือยามที่มันตกใจมันก็จะสะบัดลำตัวว่ายน้ำตามแนวราบกับพื้นทรายโผไปอีกที่หนึ่ง แล้วลงหมอบพรางตัวเหมือนกับนินจาตามพื้นทรายจนกว่าจะปลอดภัย
บนพื้นทรายนั้นไม่ใช่จะมีเฉพาะปลาหรือสัตว์ทะเลตัวเล็กๆจิ๋วๆที่ซุกซ่อนอยู่ตามพื้นทรายเท่านั้น แต่พบพื้นทรายยังมีเจ้ายักษ์ใหญ่อย่างกระเบนทั้งหลาย ซึ่งผมเคยดำลงน้ำบริเวณจุดที่เรียกว่า
ลานกระเบน
ใกล้ๆเกาะหนึ่ง อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน โดยส่วนใหญ่เรามักจะเลือกลงดำกันตอนเย็นๆ เพราะกระเบนขนาดใหญ่จะมาชุมนุมกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งกระเบนบางตัวมีขนาดความกว้างของลำตัวกว่า 1 เมตรเลยทีเดียว
กระเบนเป็นปลากระดูกอ่อนที่มีรูปทรงของลำตัวกลมๆ มีหางยาวๆ มีส่วนของปากอยู่ด้านล่าง โดยกระเบนจะหาอาหารตามพื้นทราย เมื่อพบเหยื่อก็จะใช้ปากที่อยู่ส่วนล่างจับกิน มันจึงเป็นสมาชิกหนึ่งของลานทราย กระเบนนั้นดูแล้วเหมือนปลาที่บอบบางไม่น่ามีพิษสงอะไร ประกอบกับอุปนิสัยที่รักสงบของมัน แต่ก็อย่าประมาทเข้าไปจับต้อง หรือเข้าไปใกล้ชิดจนมันตกใจ เพราะมันก็มีเครื่องป้องกันตัวเป็นเงี่ยงแหลมซ่อนอยู่ที่บริเวณโคนหาง สามารถจะตวัดขึ้นมาเสียบแทงผู้รุกรานได้ ซึ่งเคยมีนักดำน้ำโดนเจ้ากระเบนแทงอาการสาหัสหรือถึงตายมาแล้ว
นอกจากกระเบนขนาดใหญ่แล้ว เจ้าตัวโตที่ผมชอบเข้าไปเก็บภาพบนพื้นทรายอีกตัวหนึ่งก็คือเจ้า
ฉลามเสือดาว
ซึ่งเป็นฉลามที่ชอบนอนหมอบอยู่บนพื้นทราย มันมีลำตัวยาวสีเหลืองลายจุดน้ำตาลงดงาม ปลายหางยาวราวกับธงทิว เจ้าฉลามเสือดาวชอบนอนนิ่งๆ แต่ก็จะตื่นกลัวและว่ายหนีไป ฉะนั้นการเข้าไปใกล้ให้ได้ระยะเก็บภาพ จึงต้องค่อยๆเคลื่อนเข้าไปทีละน้อยๆ โดยสังเกตที่ช่องเหงือกหากช่องเหงือกเผยอขึ้นลงถี่กระชั้น ก็แสดงว่ามันกำลังเริ่มตื่นกลัว จึงต้องหยุดนิ่งให้มันเริ่มนอนสงบลงแล้วค่อยๆเคลื่อนเข้าไปทีละน้อยจนได้ระยะ แต่บางตัวอาจจะคุ้นเคยกับนักดำน้ำจนมาอย่างไรรูปแบบไหน ฉันก็จะนอนเสียอย่างก็มี เรื่องราวใต้ท้องทะเลนั้นหากฎเกณฑ์แน่นอนตายตัวอะไรไม่ได้
โลกสีครามอันยิ่งใหญ่ยังมีสรรพชีวิตอีกมากมาย ที่ดำเนินชีวิตไปตามท่วงทำนองและลีลาชีวิตของตนอย่างน่าอัศจรรย์ให้นักดำน้ำได้ค้นหาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพียงแต่เราจะมีวันเวลาลงไปเที่ยวชมโลกใต้ทะเลแห่งนี้สักเพียงใด ในขณะที่มนุษย์กำลังมุ่งหน้าเดินทางไกลออกไปค้นหาความมหัศจรรย์ที่อยู่ห่างไกลในห้วงอวกาศในห้วงจักรวาล แต่ก็ยังมีพื้นที่อีกมายในห้วงทะเลมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาลที่อยู่บนพื้นโลกใกล้ตัวเราแค่นี้ มนุษย์ยังมีโอกาสเดินทางลงไปสำรวจเพียงน้อยนิดเต็มที ผมหวังว่าในวันข้างหน้า เรื่องราวอันงดงามมหัศจรรย์ของท้องทะเล จะได้รับการเปิดเผยให้มากขึ้น เพื่อเราจะได้ให้ความรัก ความห่วงใยท้องทะเลมากยิ่งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในวันนี้.
จาก : ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2551
บันทึกการเข้า
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
หมวดหมู่ทั่วไป
-----------------------------
=> ห้องรับแขก
=> กิจกรรมและผลงาน
=> เรื่องเล่าชาวทะเล
=> ท่องเที่ยวทั่วแผ่นดิน
=> คุยเฟื่องเรื่องดำน้ำ
=> หลังเลนส์
=> สรรพชีวิตแห่งท้องทะเล
=> คลังกระทู้เก่า
กำลังโหลด...