View Full Version : รายงานผลการปฏิบัติงานโครงการปล่อยหอยมือเสือ..เก็บข ยะ..ตัดอวน ที่ชุมพร กรกฎาคม 2552
หลายปีที่ผ่านๆมา...อาสาสมัครจาก www.saveoursea.net ได้ร่วมกับ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งประจวบคีรีขันธ์ กรมประมง จัดโครงการปล่อยหอยมือเสือคืนสู่ธรรมชาติขึ้นในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรมาแล้วหลายครั้ง ทั้งนี้ เพื่อให้หอยมือเสือสามารถใช้ชีวิตแพร่พันธุ์ได้ตามธรรมชาติ และในปัจจุบัน การอยู่รอดของหอยมือเสือในบริเวณนี้มีอัตราที่น่าพอใ จ
นอกจากนี้....เรายังพบว่าใต้ทะเลบริเวณจุดดำน้ำหลายๆจุดในเขต จ.ชุมพร มีเศษอวนขนาดใหญ่ปกคลุมกองหินใต้น้ำ และบางส่วนลอยขึ้นสูงเกือบถึงผิวน้ำ นอจากนี้ ยังได้พบเศษอวนขนาดเล็กๆและชนิดที่เป็นเอ็นใสอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งเศษอวนทั้งหมดนี้ อาจจะเป็นอุปสรรคในการเดินเรือ เป็นอันตรายต่อชีวิตนักดำน้ำ และเป็นอันตรายต่อสัตว์ที่ผ่านไปมาในบริเวณนั้นได้
อาสาสมัครจาก www.saveoursea.net จำนวนหนึ่ง จึงได้จัดกิจกรรมตัดเก็บเศษอวนขึ้นหลายครั้งเช่นกัน
และในวันนี้ เป็นอีกครั้งหนึ่ง.........ที่เรามารวมกันเพื่อเริ่มต้นดำน้ำปฏิบัติการปล่อยหอยมือเสือ....เก็บขยะ....และตัดอวนในทะเลหน้าเมืองชุมพรกันอีกครั้ง
วันที่ 17 กรกฎาคม 2552 เวลา 6:30 น. เจ้าหน้าที่จาก ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่ง ประจวบคีรีขันธ์ ได้นำหอยเมือเสือจำนวน 200 ตัว.........ไปถึงที่ท่าเรือของศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ งที่ 2 ต.ท่ายาง จ.ชุมพร
หอยมือเสือถูกลำเลียงจากรถยนต์ของศูนย์ฯ ลงเรือยาง เพื่อขนขึ้น เรือโชคศุลี อีกทอดหนึ่ง
เรือโชคศุลีเริ่มเคลื่อนที่ออกจากท่าเรือ มุ่งหน้าสู่ปากแม่น้ำ.....
สมาชิก sos จำนวน 22 คน กับเจ้าหน้าที่ของศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่ง ประจวบคีรีขันธ์ (หรือที่เราชอบเรียกกันสั้นๆว่า ศูนย์ฯ คลองวาฬ) อีก 2 คน คือ น้องจี๊ด และน้องรัก พร้อมกันอยู่บนดาดฟ้าเรือ
คุณเสรี ถนัดสอนสาร.....เจ้าของเรือโชคศุลี ได้มากล่าวต้อนรับและแนะนำเกี่ยวกับเรือ สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำเมืออยู่บนเรือ
แน่นอน.....ที่เราจำได้ขึ้นใจ.....
"อย่าทิ้งกระดาษชำระหรือสิ่งของอื่นใดลงในโถส้วม เพราะจะทำให้ส้วมอุดตัน และกรุณาช่วยกันประหยัดน้ำ โดยรดน้ำล้างตัวเท่านั้นเมื่อขึ้นมาจากดำน้ำ อย่าเพิ่งอาบน้ำสระผม ผู้หญิงนั้นให้อาบน้ำวันละครั้งเดียว คือตอนเย็นหลังดำน้ำเสร็จแล้วในแต่ละวัน ส่วนผู้ชายให้อาบน้ำครั้งเดียว คือวันสุดท้ายหลังดำน้ำแล้ว"
เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่หลังจากคุณเสรีพูดแล้ว เราจะต้องมาพูดคุยกันเรื่องการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ แบ่งกลุ่มดำน้ำ จุดดำน้ำ และย้ำกันนักย้ำกันหนาเรื่องการดำน้ำ(ทำงาน)อย่างปลอดภัย.....
เช้าวันนี้....เราจะปล่อยหอยมือเสือกัน
น้องรัก....เจ้าหน้าที่จากศูนย์ฯ คลองวาฬ มาเล่าให้เราฟังถึงเรื่องหอยมือเสือ และการเพาะเลี้ยงหอยมือเสือของศูนย์ คลองวาฬ
ตามด้วยเรื่องการปล่อยหอยมือเสืออย่างถูกวิธี...
รุ่นพี่ๆอย่างน้องเหน่ง Sea Man ที่เคยปล่อยหอยฯ มาหลายครั้งแล้ว ช่วยพูดเสริมเพื่อให้รุ่นน้องที่ยังไม่เคยปล่อยหอยฯ ให้ปล่อยหอยฯอย่างถูกที่....ถูกทาง....และถูกวิธี....
เรือแล่นออกปากแม่น้ำ มุ่งหน้าสู่ทะเลลึก....
ท้องฟ้ามืดมัวด้วยเมฆหนา ไหนใครว่าทะเลจะมีคลื่นลมแรง....แต่ทะเลราบเรียบซะจนเราแปลกใจ......
พวกเราช่วยกันพับถุงก๊อบแก๊บ เตรียมไว้ใช้สำหรับยกอวนใหญ่ๆหนักๆที่มีอยู่มากมายตามจุดดำน้ำใต้ทะเลที่ชุมพร
ถึงแล้วค่ะ.....
หินหลักง่าม.....จุดดำน้ำแรกของเราในทริปนี้
หอยที่ถูกห่อไว้ด้วยผ้าสำลีสีขาวชุบน้ำทะเล ถูกแกะออกและนำไปใส่ไว้ในตะกร้าหูหิ้ว (บางคนเรียกวิธีการนี้ ว่า "แก้ผ้าหอยฯ")
ตะกร้าหอยฯถูกลำเลียงไปไว้ในเรือดิ๊งกี้ เตรียมพร้อมเพื่อนำลงสู่ใต้ท้องทะเล
สองสายกระโดดลงน้ำไปก่อนเป็นคู่แรก........เพื่อไปผูกทุ่นเป็นหมายให้พวกเราที่เหลือนำหอยลงไปปล่อย
น้ำใส....ไร้ตะกอน....ไร้กระแส.....และสภาพแวดล้อมเหมาะสำหรับการปล่อยน้องหอยมือเสือมาก
คุณสายน้ำเลือกได้ลานหิน ที่มีก้อนหินก้อนหนึ่งยื่นเป็นปุ่มออกมา ที่ปลายก้อนหินมีหอยมือหมีเกาะติดอยู่ตัวหนึ่ง.....
ดูแล้วเห็นว่าแข็งแรงดี จึงไปอาศัยผูกเชือกเส้นเล็กๆที่ปลายสายเป็น Safety Sausage ที่เป่าลมให้ลอยขึ้นไปเป็นสัญญานให้พวกเรานำน้องหอยลงสู่ก้นทะเลในบริเวณนี้
ทันทีที่ Safety Sausage พุ่งขึ้นสู่ผิวน้ำ...พวกเราที่เตรียมตัวพร้อมอยู่แล้วที่ท้ายเรือ ก็เริ่มทยอยกระโดดลงน้ำ ว่ายตรงไปรับตะกร้าใส่น้องหอยฯจากเรือดิ้งกี้ แล้วค่อยๆปล่อยตัวลงสู่ใต้น้ำ....
หอยมือเสืออายุราว 3 ปีครึ่ง ที่เกิดจากการเพาะเลี้ยงของน้องแม่หอยและน้าหอยจากศูนย์คลองวาฬ ถูกนำคืนสู่ธรรมชาติที่พ่อแม่พันธุ์เคยอยู่อาศัยมาก่อน
เราทุกคนหวังเพียงว่า.....ลูกหอยมือเสือเหล่านี้จะมีชีวิตอยู่ยืนยาวเพื่อออกลูกออกหลาน เพิ่มจำนวนหอยมือเสือให้มีเพิ่มขึ้นในท้องทะเลไทย
การปล่อยหอยไม่ยากอย่างที่คิด.....
แต่ก็ทำให้เราเหนื่อยได้ ที่จะต้องว่ายอยู่ใต้น้ำเพื่อหาที่วางหอยมือเสือให้เหมาะสม
สถานที่ที่เหมาะสมที่จะปล่อยหอย คือ
....ไม่ใช่พื้นทราย เพราะทรายจะคลุมหอยฯ หรือหอยฯจะจมทราย
....ไม่ใช่บนชะง่อนหิน หรือที่ลาดเอียง เพราะหอยฯจะกลิ้งตกลงมาหน้าคว่ำหรือตะแคง
....ไม่ใช่ใต้ชะง่อนหินหรือโพรงถ้ำ เพราะแสงแดดจะส่องไม่ถึงตัวหอย
....ไม่ใช่ที่ลึกมากหรือที่ที่น้ำขุ่นมัว เพราะแสงแดดส่องลงไปได้น้อย หรือไม่ถึงตัวหอย
....ไม่ใช่ที่มีดอกไม้ทะเลอยู่ใกล้ๆ หรือที่มีพรมทะเลขึ้นอยู่หนาแน่น เพราะหอยจะถูกสัตว์ทั้งสองชนิดรังแก
ถ้าน้องหอยฯได้อยู่ในที่ที่เหมาะสม....น้องหอยฯจะยิ้มแย้มแจ่มใสอย่างนี้....
หลังจากปล่อยหอยมือเสือเสร็จแล้ว....เราก็ปล่อยตะกร้าใส่หอยฯ ลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ เพื่อให้เรือดิ้งกี้เก็บขึ้นไปไว้บนเรือใหญ่
จากนั้น....พวกเราทั้งหมดก็มุ่งหน้าไปหาอวนและขยะเพื่อตัดและเก็บขึ้นเรือกันต่อ
ยกเว้นสองสาย.............ที่ยังคงวนเวียนอยู่ในบริเวณที่ปล่อยหอยมือเสือ เพื่อตรวจเช็คผลการปล่อยหอยของพวกเรา
เราต้องใช้เวลาไปกว่าชั่วโมงกว่าจะขึ้นสู่ผิวน้ำด้วยความพอใจในผลของการปล่อยหอยือเสือครั้งนี้
ในไดฟ์ที่สอง.....เราลงดำน้ำที่จุดเดิมเพื่อสำรวจผลการปล่อยหอยมือเสืออีกครั้ง
คราวนี้....เราได้เห็นน้องหอยฯทั้งหลายแย้มยิ้มเบิกบานกันเต็มที่....
เราได้พบหอยมือเสือหลายตัวที่เคยถูกนำมาปล่อยที่นี่เมื่อหลายปีก่อน....ซึ่งบัดนี้ตัวโตเกือบฟุต
ทุกตัวดูสวยงามและมีสุขภาพที่ดีมาก....
มีหลายตัวที่อยู่กันเป็นคู่ๆ....
ที่น่าดีใจก็คือ.........มีหอยมือเสือหลายตัวที่วางตะแคงอยู่อย่างหมิ่นเหม่ ดูเหมือนจะตกมิตกแหล่อยู่ตามยอดหิน ซึ่งดูแล้วไม่ใช่ลักษณะของการปล่อยหรือวางไว้โดยฝีมือมนุษย์
จากการสังเกตพวกหอยเหล่านี้มาหลายปี...สายชลสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นลูกของหอยมือเสือที่เรานำไปปล่อย แล้วโชคดีมีโอกาสได้เกิดขึ้นมาเองตามธรรมชาติ
เห็นแล้วก็ต้องยิ้มอย่างปลื้มใจ....
หอยมือเสือรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่ที่เพิ่งนำไปปล่อย....
น้องหอยมีเพื่อนมาคอยต้อนรับ และอยู่อาศัยร่วมกันมากมาย....
ทำไมเพื่อนตัวนี้จึงนอนแอ้งแม้ง.....ท่อนหางหายไป....
ที่ทำให้ตกใจและเศร้าใจคือ เปลือกหอยมือเสือสองตัวถูกขบกัดจนแหลก เนื้อหอยไม่เหลือเศษซากให้เห็น
เห็นแล้วก็สันนิษฐานว่าน้องหอยถูกศัตรูธรรมชาติตัวร้าย คือ "เต่า" ขบกินเป็นอาหาร
ต้องทำใจค่ะ....เพราะเป็นเรื่องของ "ห่วงโซ่อาหาร" ซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม....เราหวังว่าเจ้าเต่าซึ่งยังไม่เห็นตัว จะไม่กินน้องหอยเปลือกยังอ่อนทั้ง 200 ตัวที่เรานำไปปล่อยไว้จนหมด
ปล่อยให้มีหอยเหลือไว้แพร่พันธุ์ตามธรรมชาติบ้างเถอะนะคะ....คุณเต่า....
คุณเสรีบอกก่อนเราจะลงดำน้ำว่า ที่นี่มีเต่าตนุว่ายน้ำป้วนเปี้ยนอยู่ตัวหนึ่ง....
อยากเห็นเสียแล้วสิคะว่า.......เจ้าเต่าตัวนั้นที่มาขบกัดกร้วมๆกินเนื้อน้องหอยว่าตัวใหญ่สักแค่ไหน สองสายจึงเริ่มว่ายน้ำตามหารอบกองหิน....
ไม่พบเต่าค่ะ.....พบแต่พวกเราที่กำลังระดมกำลังตัดอวนกันอยู่อย่างเอาเป็นเอาตาย.....
ดูท่าทางเหมือนกำลังเล่นกายกรรมกันอยุ่นะคะ
ความสุขของพวกเรา ดูจะอยู่ที่การได้ช่วยกันทำงานตัดอวนใต้ทะเลให้หมดเกลี้ยง....
เราว่ายตามหาเต่าตนุตัวนั้นต่อไป.....
หินหลักง่ามด้านใต้น้ำใสแจ๋ว และสวยงามเช่นเคย....
ตามหน้าผายังดารดาษไปด้วยสรรพชีวิตที่หลากหลาย...........
ทั้งปะการังดำ ....แส้ทะเล...ปะการังถ้วยส้ม....ฟองน้ำ....กัลปังหา....และอื่นๆอีกมากมาย
ตามกองหิน....หนาแน่นไปด้วยปะการังดำหลากสีสัน....
ปลามากมายหลายพันธุ์ยังคงแหวกว่ายอยู่ที่หินหลักง่าม.....
ปลาและปะการังดำดูจะเป็นจุดเด่นที่สุดของหินหลักง่าม.....
ดูสิคะ.....ปลามากมายเพียงใด.....
ไม่น่าสงสัยเลยนะคะว่า........ทำไมที่นี่ถึงมีทั้งอวนทั้งลอบถูกทิ้งอยู่เกลื่อนกลาด....
หอยมุกที่นี่ตัวใหญ่ และอยู่กันเป็นพวงใหญ่ๆตามโคนกอปะการังดำ....
ความหนักของหอยมุก ทำให้กอปะการังล้มครืนลงมาเพราะทานน้ำหนักไม่ไหว....
มีอวนติดอยู่ตามกองหินเป็นหย่อมๆ....
ตากล้องเลยต้องแปลงร่างเป็นคนตัดอวน...
น้ำทะเลด้านตะวันออกขุ่นข้นและเย็นเยือกด้วยฤทธิ์ของ Thermocline
แต่พอเลยไปทางเหนือ น้ำก็ใสขึ้น
ที่นั่นเราได้เห็นดงดอกไม้ทะเลอยู่กันหนาแน่นละลานตาตามยอดหิน....
เราหาเต่าไม่พบ.....
แต่ที่นี่....เราทั้ง 24 คน ได้อวนและขยะกลับขึ้นมาบนเรือรวมกันราว 113 กิโลกรัม และได้เคลื่อนย้ายลอบเก่าขนาด 2x4 เมตร ที่อยู่บนกองหินที่ความลึก10 เมตร ไปอยู่ที่ความลึกราว 26 เมตร
ขอชื่นชมกับกิจกรรมดี และขอบคุณสำหรับภาพสวยครับ
ดีใจที่ทุกคนปลอดภัยจากคลื่นลม :)
ขอบคุณค่ะน้อง nudie.....:)
ว่างๆก็ไปร่วมกันดำน้ำทำงานกับเราบ้างนะคะ....
เกาะร้านเป็ด
จากหินหลักง่าม......เราตั้งใจจะไปดำน้ำตัดอวน และเชือกปากอวนที่ กองหินสามเหลี่ยมกัน
แต่ลมที่แรงขึ้น ทำให้เราไม่อยากเสี่ยงกับการทำงานในทะเลเปิด ซึ่งไม่มีที่กำบังคลื่นลมอย่างกองหินสามเหลี่ยม
สายชลแจ้งให้คุณเสรีแล่นเรือผ่านกองหินสามเหลี่ยม มุ่งตรงไปยัง "เกาะร้านเป็ด" ทันที
เราลงดำน้ำไดฟ์ที่ 3 ที่เกาะร้านเป็ดตอนบ่ายสามโมงของวันที่ 17 และไดฟ์ที่ 4 เมื่อแปดโมงเช้าของวันที่ 18 กรกฎาคม รวม 2 ไดฟ์
สภาพใต้น้ำที่เกาะร้านเป็ดนั้น ทั้งมืด ทั้งมัว ด้วยดวงอาทิตย์ถูกบดบังอยู่หลังเมฆฝน และด้วยตะกอนที่ลอยฟ่องอยู่ทั่วท้องน้ำ
อีกทั้งกระแสน้ำยังพัดฉิวๆ พาเราลอยละลิ่วไปตามแรงน้ำ (ทั้งที่มาตราน้ำเล่มเดียวของไทย บอกเราว่าวันนั้นน้ำขึ้นน้ำลงไม่มากนัก กระแสน้ำจึงไม่น่าจะแรง....:p)
น่าอัศจรรย์ใจ.....เกาะร้านเป็ดแทบจะไร้อวนผืนใหญ่ๆให้เราได้ตัด
ชาวประมงมีความคิด รู้ผิดรู้ชอบมากขึ้น จึงไม่มาลากอวนใกล้เกาะ
หรือว่า.....มีคนใจดีมาช่วยเราตัดอวนไปก่อนที่เราจะไปถึงกันแน่นะ...
chickykai
24-07-2009, 10:04
แว้บเข้ามาชมรูปสวยๆเหมือนเดิมค่ะ รูปยังไม่หมดใช่มั้ยคะพี่
งั้นหนูปูเสื่อรอดูต่อละกันนะคะ :d
ถึงน้ำจะขุ่นและมืดมัว.....เราก็ยังรู้ว่า เกาะร้านเป็ดยังสวยงามเหมือนเคย
ปลาใหญ่น้อยยังคงแหวกว่ายอยู่กลางสายน้ำ
แต่ไร้วี่แวว.....ฉลามวาฬ
เหตุเพราะไม่มีอวนมากวนใจ......ปะการังดำของเกาะร้านเป็ดดูสูงใหญ่และสวยงามมากขึ้น
ฟองน้ำกิ่งสีชมพูของเกาะร้านเป็ด สวยงามและสมบูรณ์มาก....
ทุ่งดอกไม้ทะเลยังสวยงามและสมบูรณ์เช่นเคย....
ที่บริเวณปากโพรงถ้ำที่ทะลุเชื่อมต่อเกาะร้านเป็ดด้านตะวันออกและตะวันตก และตามหน้าผาด้านเหนือและตะวันออก มีปะการังถ้วยส้มเบ่งบานแพรวพราวไปทั่ว
ไม่มีอวนผืนใหญ่ๆให้ตัด.....แต่ก็มีเศษอวน สายเอ็นเบ็ด และเชือกให้เราเก็บบ้างเล็กน้อย
สองไดฟ์รวมกันแล้วได้อวนและขยะมา 15 กิโลกรัมเองค่ะ
เมื่องานไม่หนักอย่างนี้......เราเลยมีเวลาดำน้ำชมความงามใต้ทะเลของเกาะร้านเป็ดกันได้นานหน่อย
moopupae
24-07-2009, 10:53
ว๊าวๆ เอารูปมาลงแล้ว
ว๊าวววว.....ว๊าววววว......มีคนรอชมภาพด้วย......:o
น้ำขุ่นๆ....สลัวมัวซัว ภาพไม่ค่อยสวยสดใสเท่าไรนะคะ ทนชมกันหน่อย....:p
Kungkings
24-07-2009, 13:57
ฝีมือถ่ายและบรรยายขั้นเทพ...รู้สึกอิ่มใจมากๆ เลยคะ :p:p
SOS Pinnacle I
เมื่อสองปีก่อน กัปตันชัยแห่งเรือโชคศุลี บังคับให้เราลงดำน้ำที่กองหินใต้น้ำซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่ไกลจากเกาะร้านเป็ดนัก ซึ่งเป็นจุดที่ยังไม่เคยมีใครยอมลงไปดำน้ำให้ ทั้งนี้เพราะกัปตันเพียงอยากจะรู้ว่า กองหินนี้ที่กัปตันชัยมองจากจอซาวเดอร์นั้นจะสวยงามแค่ไหน มีอะไรให้ชมบ้าง
เมื่อเราลงไปใต้น้ำก็ได้พบกองหินใต้น้ำ ที่มีรูปพรรณสัณฐานคล้ายๆกับภูเขาไฟลูกย่อมๆ ยอดกองหินรูปฝาชีอยู่ห่างจากผิวน้ำราว 12 เมตร ด้านตะวันตกของกองหินเป็นหน้าผาสูงชัน ในขณะที่ด้านอื่นๆเป็นแนวลาดจากยอดหินไปจนจรดพื้นทรายที่ความลึกราว 28 เมตร และทั้งสามด้านนี้มีดงปะการังขึ้นคลุมอยู่หนาแน่นและสวยงามมาก
ครั้งนั้นเราเก็บอวนที่นี่กันจนเหนื่อย แต่ก็ได้พบฉลามวาฬเพศเมีย ตัวยาวราว 7 เมตร ที่มาว่ายวนเวียนเล่นกับเราอยู่นานหลายนาทีเป็นรางวัลแห่งความเหนื่อยยากที่ทะเลได้มอบให้แก่เรา
ครั้งนั้น.........จึงเป็นการดำน้ำที่ประทับใจเรามากๆครั้งหนึ่งในชีวิต และแล้วเราก็โมเมตั้งชื่อกองหินนี้ว่า SOS Pinnacle เพื่อใช้เรียกขานกันในหมู่พวกเรา (อ่านรายละเอียดได้ที่ http://www.saveoursea.net/boardapr2007/index.php?topic=296.90)
เมื่อปีที่แล้ว....เราก็ลงดำน้ำที่นี่อีก แต่กลับหากองหินกันไม่พบ เลยต้องดำน้ำเหมือนท่องอวกาศกันทั้งไดฟ์ โดยไม่เห็นแม้แต่เงาของกองหิน
ไปดำน้ำทำงานครั้งนี้ เราได้มีโอกาสลงดำน้ำที่ SOS Pinnacle อีกครั้ง.....
เกิดเรื่องตลกที่หัวเราะไม่ค่อยจะออกอีก.....เมื่อ มีเพียงสองสายและกลุ่มของน้องเหน่ง ลงไปดำน้ำทำงานที่นี่ได้ ส่วนกลุ่มอื่นๆลงไปไม่ถึงกองหิน หลงไปท่องอวกาศกันอีกรอบ.....
ในสายตาของเรา.....SOS Pinnacle สวยงามและสมบูรณ์กว่าเมื่อสองปีที่แล้ว แต่ความที่น้ำขุ่นและแสงแดดส่องลงไปถึงได้น้อย ทำให้ที่นี่ดูอึมครึมและลึกลับน่าค้นหา.....
กัลปังหาสวยๆก็มีให้เห็นได้ทั่วไป....
เราลงไปได้ไม่นาน......เราก็พบเชือกเส้นขนาดนิ้วก้อยพันอยู่กับปะการังดำที่อยู่ใต้ยอดหินด้านเหนือ
เมื่อดำน้ำลงไปตามสายเชือกที่ทิ้งตัวลงสู่เบื้องล่าง เราก็พบลอบเก่าๆขนาด 2 x 4 เมตร ถูกทิ้งไว้ในดงปะการังดำ ที่ความลึก 28 เมตร
ในลอบมีปลาติดอยู่.....ส่วนมากเป็นปลากะพงเหลือง และปลาข้างเหลือง
แต่ที่ทำให้ตลึง คือปลาหูช้างขนาดกว้างเกือบฟุต ว่ายวนเวียนอบู่ในนั้นอยู่ตัวหนึ่ง
ไม่เคยเห็นปลาหูช้างใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลยค่ะ....
น้องเบิ้ดและน้องตุ๊กแกผา ที่หลงจากกลุ่มมาอยู่กับสองสาย ไม่พูดพล่ามทำเพลง คว้ากรรไกรคมกริบ ออกมาตัดตาข่ายลอบฉับๆ
ปลาทั้งหลายที่อยู่ในลอบว่ายกรูออกไปจากลอบทันที....
สาธุ.....ขอให้อยู่รอดปลอดภัยตลอดไปเถิด...
ปล่อยปลาไปแล้ว.....สองสาวก็ยิ้มอย่างมีความสุข...
มีเศษอวนเก่าๆอีกเพียงเล็กน้อยให้เราตัด (เพราะเราตัดไปซะเกือบหมดแล้วเมื่อสองปีก่อน)
ไม่ค่อยมีอะไรทำ.........เราจึงมีเวลาได้ชื่นชมความงามของที่นี่กันได้อย่างเต็มที่.....
หมายเหตู.....ในวันสุดท้ายของการดำน้ำทำงาน เราได้ลงดำน้ำสำรวจที่กองหินอีกแห่งหนึ่ง ใกล้ๆเกาะร้านไก่ เราเลยเพิ่มหมายเลข 1 ให้กับกองหิน SOS แห่งนี้ และเรียกกองหินที่พบใหม่ว่า SOS Pinnacle II
ว๊าวววว.....ว๊าววววว......มีคนรอชมภาพด้วย......:o
น้ำขุ่นๆ....สลัวมัวซัว ภาพไม่ค่อยสวยสดใสเท่าไรนะคะ ทนชมกันหน่อย....:p
แหะแหะ เข้ามาสารภาพว่ารอชมอยู่ทุกวันเหมือนกันค่ะพี่สายชล ถึงน้ำจะขุ่นแต่รูปออกมาสวยมากเลยค่ะ... :)
เกาะร้านไก่
จาก SOS Pinnacle I.....เรือมุ่งหน้าขึ้นเหนือไปที่เกาะร้านไก่ ที่อยู่ไม่ไกลจากเกาะร้านเป็ดนัก
น้ำทะเลด้านตะวันออกของตัวเกาะราบเรียบ ในขณะที่ด้านอื่นๆถูกแรงลมตะวันตกพัดจนเกิดคลื่นเป็นริ้วๆพริ้วไปทั่ว
เราตัดสินใจลงดำน้ำหน้าถ้ำหน้าตาเหมือนสุ่มไก่เปิดตะแคง ด้วยเหตุที่บริเวณนั้นคลื่นลมสงบเงียบ.....
ลงไปแล้วก็ดิ่งตรงไปยังถ้ำใต้น้ำที่เคยเหมือนสุ่มไก่ ที่บนเพดานถ้ำมีรูทะลุเป็นรูปหัวใจ แต่พอเข้าไปก็เห็นเพดานถ้ำถล่มลงมาจนไม่หลงเหลือความงามแล้ว
สายชลว่ายอย่างเศร้าๆออกมาทางโพรงด้านข้างที่เหมือนหน้าต่าง คอยน้องๆที่ทยอยว่ายตามกันออกมาเป็นแถว
แต่ละคนก็คงจะงงๆ ที่เพดานถ้ำมันหายไปไหน....
เราว่ายอ้อมไปทางด้านใต้ซึ่งน้ำไหลเอื่อยๆ และเรียบแนวหินไปจนถึงด้านตะวันตกที่สวยงามด้วยดงปะการังดำที่ขึ้นอยู่หนาแน่น
เช่นเดียวกับจุดดำน้ำอื่นๆในชุมพร....ฟองน้ำกิ่งและฟองน้ำครกของที่นี่ ช่างสวยเหลือเกิน....
น่าเสียดาย.....ฟองน้ำครกทรงสวยใบนี้ ถูกมือดีที่ไหนไม่ทราบ ทำร้ายซะแหว่งหมดงามไปเยอะเลยล่ะค่ะ....
แต่ฟองน้ำครกที่เหลือยังสวยๆทั้งนั้น เมื่อมาอยู่ใกล้ๆปะการังดำสีสันสดใสด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้สวยงามยิ่งขึ้น...
ปลาที่เกาะร้านไก่นั้น ช่างมีมากมายเหลือเกิน เมื่อเทียบกับที่เคยได้เห็นจากที่อื่นๆ...
ที่นี่.....มีทั้งปลานักล่า....
ดอกไม้ทะเลของที่นี่ก็เป็นดงใหญ่และสวยสมบูรณ์เหมือนกับที่ร้านเป็ด....
สองสายเห็นเศษอวน.......สายเบ็ด........และเชือกปากอวนเส้นสั้นๆอยู่เพียงเล็กน้อย ที่บริเวณเกาะร้านไก่ด้านตะวันตก
แต่กลุ่มอื่นๆเก็บขยะพวกนี้ได้รวมกันราว 18 กิโลกรัม
เมื่ออ้อมมาด้านตะวันออกของเกาะร้านไก่ เราได้เห็นกอปะการังหนังที่โพลิบบานสะพรั่งสวยงามอยู่บนเชิงหินหน้าปากถ้ำ
เป็นภาพที่สวยงาม ส่งท้ายการดำน้ำของเราที่เกาะร้านไก่ในทริปนี้....
SOS Pinnacle II
เช้าวันสุดท้ายของการดำน้ำ ....พระอาทิตย์เพิ่งเยี่ยมหน้าออกมาทักทายเราเป็นวันแรกในรอบหลายวันที่ผ่านมา
พอมีแสงแดดสาดส่อง บรรยากาศโดยรอบก็สดชื่นขึ้นทันตาเห็น
จากเกาะร้านไก่....เราตั้งใจจะไปดำน้ำตัดเชือกปากอวนกันที่กองหินสามเหลี่ยม
แต่ด้วยคำขอร้องของคุณเสรี เราจึงลงดำน้ำสำรวจกองหินใต้น้ำ ที่่อยู่ทางด้านเหนือของเกาะร้านเป็ด ซึ่งมัลักษณะเป็นกองหินสองยอดที่ใหญ่กว่า SOS Pinnacle I ที่เราเคยลงสำรวจมาแล้ว
เมื่อสองสายลงไปถึงกองหินใต้น้ำ ซึ่งมีลักษณะเหมือนภูเขาไฟสองยอดนั้น เราตื่นตาตื่นใจกับความหลากหลายของสรรพชีวิตบนยอดหินแห่งนี้มาก
ด้านบนของยอดหินเป็นดงปะการังแข็งที่มีทั้งปะการังโขดและปะการังกิ่งหลายชนิด รวมทั้งดอกไม้ทะเลเป็นกอๆอีกหลายกอ
ที่น่าประทับใจที่สุดก็คือ..... ปะการังโต๊ะสีเขียวเข้มปลายกิ่งสีขาวเหลือบฟ้าขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลางเกือบสองเมตร จำนวนสองสามกิ่ง ขึ้นอยู่บนยอดหินที่สูงที่สุด
ความสมบูรณ์ของปะการังโต๊ะและปริมาณปลากะรังจิ๋ว (Basslet)ที่มีอยู่มากมายรอบๆบริเวณนั้น ทำให้บริเวณนั้นสดใสขึ้นมากทีเดียว
ฟองน้ำที่กองหินนี้ก็มีหลายชนิดทั้งฟองน้ำกิ่งและฟองน้ำครก
ที่ทำให้ตะลึงจนอ้าปากค้าง ก็คือ ฟองน้ำครกสีชมพูขนาดใหญ่ยักษ์หลายคนโอบ
ลองเปรียบเทียบขนาดของคุณสายน้ำกับฟองน้ำครกใบนี้สิคะ....
ปะการังดำที่นี่ก็ต้นสูงใหญ่ อยู่กันเป็นดงรอบๆกองหินทุกด้าน....
น่าเสียดาย.....ที่ชาวประมงไม่ทราบว่า ใต้ท้องทะเลบริเวณนี้สวยงามเพี่ยงใด
ลอบขนาดใหญ่ยักษ์อย่างน้อยสองอันถูกทิ้งโครมลงบนกอปะการังดำ แล้วก็ถูกทิ้งร้างอยู่อย่างนั้น จนปลาที่ติดค้่งอยู่ล้นลอบตายไปบ้าง ที่เหลืออยู่ได้อาศัยเนื้อของเพื่อนที่ตายไปเป็นอาหารยังชีพ
พวกเราช่วยกันย้ายลอบอันหนึ่งให้พ้นจากดงปะการังที่สวยงามแห่งนี้....
ถ้ามีภาพ.....ช่วยนำมาลงให้ชมด้วยนะคะน้องเหน่ง....
อวนผืนมหึมาคลุมอยู่ทั่วไป.......
เราต้องลงดำน้ำที่นี่กันสองไดฟ์ และช่วยกันตัดอวนเท่าที่เวลาและอากาศจะมีให้ใช้....
เชือกเส้นเท่าปลายนิ้วก้อยที่ใช้โยงบอกหมายที่ตั้งลอบยักษ์ ถ้าสาวตามไปก็จะเจอลอบเสมอ
เราตัดเชือกเหล่านี้ที่พันอยู่กับกอปะการังดำได้มากมายหลายถุงตาข่าย.....
เสียดาย......ที่สองสายได้พบอวนผืนใหญ่มหึมา พาดผ่านอยู่หน้าถ้ำใหญ่ (ที่ลึก...กว้าง.....และดูลึกลับ) เมื่อเราอยู่กันเพียงสองคน และขณะนั้นใกล้หมดเวลาที่เราจะดำน้ำแล้ว
อวนผืนนี้จึงถูกทิ้งไว้.....รอเวลาให้เรากลับไปตัดอีกในอนาคต....
conundrum
24-07-2009, 17:48
ที่ทำให้ตะลึงจนอ้าปากค้าง ก็คือ ฟองน้ำครกสีชมพูขนาดใหญ่ยักษ์หลายคนโอบ
ลองเปรียบเทียบขนาดของคุณสายน้ำกับฟองน้ำครกใบนี้สิคะ....
เพิ่งจะเคยเห็นฟองน้ำครกใหญ่ขนาดนี้แหละครับ :eek:
เห็นอวนที่กอง SOS แล้ว คันมือเจง ๆ :mad:
การดำน้ำสองไดฟ์ที่จุดดำน้ำแห่งนี้น้อยเกินไปสำหรับพวกเราเสียแล้ว......
ที่นี่นอกจากจะสวยงามน่าหลงใหลแล้ว.....ยังเป็นจุดดำน้ำที่น่าค้นหามาก
เราพบโพรงถ้ำอย่างน้อย 3 โพรง .....สองโพรงอยู่ด้านบนเป็นเหมือนปากปล่องภูเขาไฟที่ลึกเท่าไรไม่อาจทราบได้ เพราะแสงไฟฉายของเราส่องไปไม่ถึง
ส่วนอีกโพรงหนึ่งอยู่ด้านข้าง (ที่อวนติดอยู่) ปากถ้ำนั้นสูงใหญ่ และลึกเท่าไรก็ไม่อาจคาดคะเนได้เช่นกัน
ทั้งสามถ้ำนั้น มีปลาตัวใหญ่ๆ ทั้งปลากะพงขาว กะพงแดง และ ปลาเก๋า ตัวเขื่องขนาดเกือบครึ่งเมตรว่าย เข้าว่ายออกมากมาย
ถ้าอากาศดีๆและน้ำใสๆไร้กระแส..... เราน่าจะหาโอกาสไปดำน้ำสำรวจที่นี่ให้ละเอียดกันอีกสักครั้งนะคะ
ก่อนจะขึ้นสู่ผิวน้ำ....เหลือบตาไปเห็น "ถ้วยทะเล" ที่เป็นผู้ยึดครองและแย่งพื้นที่จนปะการังขึ้นไม่ได้แล้วให้รู้สึกใจหาย เกรงว่าอีกหน่อยที่นี่จะหมดความงาม เหลือให้เห็นแต่ถ้วยทะเลพวกนี้
ที่จุดดำน้ำแห่งนี้....เราเก็บเศษอวน เชือก ฯลฯ ได้รวม 273 กิโลกรัม และเคลื่อนย้ายลอบขนาด 2x4 เมตร จากความลึก 10 เมตร ไปยังพื้นทรายที่ความลึก 20 เมตร
ploybabe
24-07-2009, 21:51
หู๊วววววววววว
รอดูอยู่ค่าป้าน้อย
ยู้ฮู.....หนูพลอย คิดถึงจัง
หนูอยู่ที่ไหน.....สวนปทุมฯ หรือตรังจ๊ะ
อ่านต่อนะจ๊ะ....
กองหินสามเหลี่ยม
จาก SOS Pinnacle II......เรือโชคศุลีมุ่งหน้าล่องใต้ไปยังกองหินสามเหลี่ยม ซึ่งเป็นกองหินใต้น้ำ ซี่งอยู่ระหว่างเกาะร้านเป็ดกับเกาะง่ามใหญ่
วัตถุประสงค์สำคัญ.....ในการลงดำน้ำทำงานที่กองหินสามเหลี่ยมก็คือ การนำเชือกปากอวนขนาดใหญ่เท่าข้อมือ ที่ทับถมกันอยู่มากมาย จนกลายเป็นอุจาดทัศน์ ที่ทำให้ความงามของกองหินสามเหลี่ยมลดน้อยลงไปมากมาย
ความคิดนี้มีน้องติ๊กเป็นผู้จุดประกาย และจัดการซื้อเลื่อยตัดเหล็กสองอันมาให้เราใช้ทำงานในครั้งนี้
เมื่อเรือโชคศุลีเดินทางไปถึง คุณเสรีก็กระโดดลงน้ำลงไปผูกทุ่นให้เรา พร้อมกับแขวนถังอากาศสำรองไว้ที่สายทุ่นด้วยสองถัง
เมื่อเรียบร้อยแล้ว เราก็เริ่มทยอยกระโดดลงน้ำตามๆกันลงไปเพื่อมองหากองเชือกปากอวนที่กระจายอยู่ทั่วไปตามยอดหินและตามซอกหินของกองหินสามเหลี่ยม
ปลายเชือกปากอวนถูกผูกด้วยถุงก๊อบแก๊บแล้วอัดลมให้ลอยขึ้นไป เพื่อให้สะดวกในการตัดอีกปลายหนึ่ง
ถ้าเชือกยาวมาก.....เราจะผูกถุงตรงกลางความยาวของเชือก โดยกะประมาณว่าควรจะใช้ถุงและใส่ลมเข้าไปเท่าไรจึงจะทำให้เชื่อกลอยขึ้นไปได้ โดยถุงไม่แตกเสียก่อน....
หน้าที่ผูกถุงลมเป็นของฝ่ายหญิงเป็นส่วนใหญ่....
ส่วนหน้าที่เลื่อยเชือกปากอวนที่มีสายสลิงอยู่ข้างในนั้น.....เป็นหน้าที่ของคนหนุ่มและคนแก่ที่ดูจะแข็งแรงกว่าหนุ่มๆ....
งานนี้คนหนุ่มบอกว่ายอมแพ้คนแก่อย่างพี่ milo 15 ของเราค่ะ...
เชือกปากอวนที่ถูกตัดปลายทั้งสองข้างแล้ว ลอยขึ้นไปที่ผิวน้ำอย่างช้าๆ.....
ระยะแรกต้องช่วยประคองให้ลอยขึ้นไป และคอยดูไม่ให้ถุงลมขาด จนเชือกตกลงมาฟาดคนที่อยู่ข้างล่าง....
เชือกปากอวนที่ถูกยิงขึ้นไปที่ผิวน้ำ เป็นภาพที่สวยงามสำหรับพวกเรา.....
เชือกเส้นสั้นๆจะถูกนำมามัดรวมกัน แล้วยิงขึ้นไปด้วยถุงลม (ก๊อบแก๊บ)
จุดที่เชือกปากอวนถูกกำจัดออกไปแล้ว ดูสวยงามขึ้นอีกมากมาย.....
ยังมีเชือกปากอวนอีกหลายเส้นให้ตัด.........แต่คนทำงานทั้งเหนื่อย ทั้งล้า อากาศใกล้จะหมด และหมดหรือใกล้จะหมดเวลาดำน้ำ จึงจำเป็นต้องขึ้นสู่ผิวน้ำ
เราตั้งใจจะลงดำน้ำทำงานที่นี่กันอีกไดฟ์ ซึ่งถือเป็นกรณีพิเศษที่จะดำน้ำทำงานกัน 4 ไดฟ์ต่อวัน
อืมมมม....จะไหวไหมคะนี่...
สำหรับกลุ่มที่ไม่ได้ดำน้ำตัดเชือกปากอวน ก็ไปหาอวนตัดกัน ซึ่งก็มีอวนให้ตัดกัน แต่ไม่มากมายเหมือนเมื่อปีที่แล้ว และเมื่อเดือนพฤษภาคมที่เราได้เคยมาตัดกันไปแล้ว....
หมดเวลาดำน้ำ.....เราต้องขึ้นสู่ผิวน้ำแล้วล่ะค่ะ.....
กองหินสามเหลี่ยมแทบไม่มีอวนให้เห็นแล้ว และเชือกปากอวนที่ลดความงามของกองหินสามเหลี่ยมนั้น บัดนี้ได้ถูกกำจัดออกไปบางส่วนแล้ว เดี๋ยวเราจะลงมาจัดการกำจัดให้หมดไป....
กองหินสามเหลี่ยม ณ. ขณะนั้นช่างดูสวยงามขึ้นมากมายจริงๆค่ะ....
เมื่อขึ้นมาถึงผิวน้ำ....คลื่นเหนือกองหินสามเหลี่ยมสูงเกือบเมตร ลมที่แรงขึ้นทำให้มีแนวโน้มว่าคลื่นจะสูงขึ้นไปอีก
เมื่อขึ้นมาบนเรือ .....เราเริ่มโหวตกันว่าจะลงดำน้ำที่นี่อีกไดฟ์หนึ่งดีหรือไม่.....
เสียงส่วนใหญ่เห็นว่าเราไม่ควรจะดำน้ำต่อ เพราะการใช้เลื่อยตัดเชือกอวนนั้นทำให้คนเลื่อยเหนื่อยกันมาก เกรงจะลงดำน้ำต่อไม่ไหว อีกทั้งคลื่นลมมีแนวโน้มจะแรงขึ้น ซึ่งจะทำให้การทำงานเสี่ยงเกินไป เราจึงต้องยกเลิกการดำน้ำ และขอให้กัปตันนำเรือกลับเข้าฝั่งทันที
น่าเสียดาย....ที่เราไม่สามารถกำจัดเชือกปากอวนที่กองหินสามเหลี่ยมได้ทั้งหมดในคราวนี้.....
แต่เราเชื่อแน่ว่า....การทำงานครั้งต่อไป เราจะสามารถกำจัดเชือกปากอวนที่อยู่ที่นี่ได้ทั้งหมด โดยเราจะต้องวางแผนการทำงานให้ดีและรัดกุมขึ้น อีกทั้งจะต้องใช้อุปกรณ์ตัดเชือกปากอวนที่มีประสิทธิภาพสูงและเบาแรงมากกว่านี้
นอกจากนี้.....................เรายังต้องให้เวลาในการทำงานที่จุดดำน้ำแห่งนี้มากขึ้นกว่าเดิม
แล้วพบกันใหม่นะจ๊ะ.....กองหินสามเหลี่ยม.....
ที่กองหินสามเหลี่ยม.....เราตัดเชือกปากอวนได้ราว 50 กิโลกรัม และตัดอวนได้อีกราว 50 กิโลกรัม
รวมสามวันกับการดำน้ำทำงาน 9 ไดฟ์.....เราเก็บขยะและตัดอวนได้น้ำหนักรวมทั้งสิ้นราว 520 กิโลกรัม
ดูสิคะ.....เศษขยะและอวนที่เราเก็บได้มากมายเพียงใด
งานของเราไม่ได้มีเพียงการดำน้ำทำงานใต้น้ำ.....แต่เรายังมีการทำงานบนเรือ คืองานแยกชนิดของขยะ แยกตะกั่วจากอวน และการแยกสิ่งมีชีวิตที่ติดมากับเชือกและอวนเพื่อส่งคืนสู่ทะเล
งานนี้เราได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากพนักงานประจำเรือ นับตั้งแต่กัปตันลงไปจนถึงเด็กขับดิ้งกี้
ท่าทางน่าสนุกดีนะคะ.....
แต่จริงๆแล้ว....ทั้งเหม็น.....ทั้งคัน.....ทั้งร้อน.....
ระหว่างเรือแล่นเข้าชายฝั่ง.........เราขึ้นไปกันบนดาดฟ้าเรือ
คุณเสรีได้กล่าวขอบคุณพวกเราที่มาใช้บริการเรือโชคศุลี และอวยพรให้เรามีความสุขความเจริญซึ่งเป็นผลจากการทำสิ่งดีๆให้กับทะเลไทยในครั้งนี้
พวกเรารับคำขอบคุณและคำอวยพรจากคุณเสรี....ผู้มีวัตรปฏิบัติที่น่าเลื่อมใสศรัทธา ด้วยความสงบและยินดี
สายชลในนามตัวแทนของชาว sos ได้กล่าวตอบ ขอบคุณคุณเสรีและลูกเรือทุกคนที่ให้บริการ และช่วยเหลือเราด้วยดีมาโดยตลอด...
และขอบคุณสมาชิกอาสาสมัคร SOS ทุกคนที่มาร่วมด้วยช่วยกันทำงานในครั้งนี้ และได้อวยพรให้ทุกคนมีความสุขความเจริญ
จากนั้นเป็นการถ่ายภาพหมู่ร่วมกัน....
ตามด้วยหัวหน้ากลุ่มทั้งห้าและคุณเสรี....
Angel Frog.....Sea Man....Tik.....Zmax....สายชล
กลุ่ม Safety......
Milo 15.....Udomlert....ไอนุ....Palm....
กลุ่มที่ 1
หัวหน้า....Angel Frog
ลูกทีม.....สายรุ้ง....Plam...Ploybabe....จี๊ด......Rak
กลุ่มที่ 2
หัวหน้า....Zmax
ลูกทีม.....Udomlert....M.Gorillas...kkg...Minie
กลุ่มที่ 3
หัวหน้า....Tik
ลูกทีม......Milo 15....น้อง J.....Reef....โลมาน้อย
กลุ่มที่ 4
หัวหน้า.....Sea Man
ลูกทีม.......เบิ้ด....ตุ๊กแกผา....Oo......ไอนุ.......Chickykai
พระอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้า......
ภาระกิจของพวกเราชาว sos ในครั้งนี้ก็ใกล้จะสิ้นสุดลงด้วย
เมื่อเรือถึงฝั่ง....ทุกคนก็จะแยกย้ายกันกลับบ้านช่องของตัวเอง (เหลือแต่สองสาย....น้องปาล์ม และน้องพลอย ที่จะนอนค้างบนเรืออีกหนึ่งคืน)
ความรัก....ความผูกพัน....ความสามัคคี เกิดขึ้นได้ด้วยความรักในสิ่งเดียวกัน
เหมือนเช่นพวกเราชาว sos ที่มีความรักในทะเลเหมือนๆกัน เมื่อมารวมตัวกันเพื่อทำสิ่งดีๆให้กับทะเลที่เรารัก ความรัก....ความผูกพัน และความสามัคคีระหว่างพวกเราจึงบังเกิดขึ้น โดยมีทะเลเป็นตัวเชื่อมต่อ
ความรัก...ความผูกพัน.....และความสามัคคีของชาว sos ดูจะมีมากเป็นพิเศษ
ถึงเหม็น....ก็ว่าหอม.....
ถึงหอม.....ก็ยิ่ง(เนื้อ)หอมไปใหญ่.....
(คิกๆ.....ทำกันไปได้นะน้องเรา........)
เรานับวันนับคืน เพื่อจะรอวันที่เราจะได้ทำกิจกรรมร่วมกันอีก.....
ขอขอบคุณ.....
.....น้องแม่หอยและน้าหอยจากศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่ง ประจวบคีรีขันธ์ หรือศูนย์คลองวาฬ ของกรมประมง ที่กรุณาเอื้อเฟื้อน้องหอยมือเสือจำนวน 200 ตัว ให้เราได้นำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ และยังให้น้องจี๊ดและน้องรักมาช่วยเราดำน้ำปฏิบัติภารกิจตั้งแต่ต้นจนจบ จนสำเร็จเรียบร้อยด้วยดี
....คุณเสรี ถนัดสอนสาร และลูกเรือโชคศุลีทุกคน ที่ได้ให้บริการและช่วยเหลือ ทำให้เรามีความสุขกับการทำงานและการรับประทาน และปลอดภัยในการทำงานมากขึ้น
.....น้อง Udomlert ที่จัดทำกรรไกรและซองใส่อย่างดีมาแจกพวกเราได้ใช้ฟรีๆ แถมมีบริการทำความสะอาดล้างสนิมกรรไกรให้อีกด้วย
.....พวกเราชาว SOS ทุกคน ที่ยอมสละทั้งกำลังใจ...กำลังกาย....และกำลังทรัพย์ ไปลงเรือทำงานที่ทั้งหนัก....เหนื่อย...และเสี่ยง รวมทั้งชาว SOS ที่ช่วยเป็นกำลังใจ เอาใจช่วยเราอยู่ที่บ้าน
ไม่มีพวกเราคนรักทะเล....................ภารกิจนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร..................แล้วทะเลไทยจะสวยได้หรือไฉน.....
พบกันใหม่......ในเวลาที่อีกไม่นานเกินรอ.....
ขอปิดท้ายด้วยสรุปผลงานสักนิดนะครับ .....
ในวันแรก เราได้ปล่อยหอยมือเสือไป 200 ตัว และตลอด 3 วันที่ฟ้าครึ้ม ลมแรง เราเก็บเศษอวน / เชือก / เอ็นเบ็ด ฯลฯ ขึ้นมาได้รวมทั้งสิ้นประมาณ 520 กิโลกรัม ซึ่งผมได้ส่งรายงานให้กับ ดร.ปิ่นสักก์ แห่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งไปเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ จากที่ได้เก็บเงินจากสมาชิกที่ร่วมทริปทั้ง 22 คน (ไม่ได้นับน้องเบาหวิวและน้อง Noom) หลังจากที่ได้หักค่าใช้จ่ายคือ ค่าเรือ + ค่าซื้ออุปกรณ์การเก็บอวนบางชนิด + ค่าทิปลูกเรือ รวมทั้งเงินบางส่วนที่ได้คืนให้กับสมาชิกไปแล้ว เรายังมีเงินเหลืออีก 4,100 บาท ซึ่งผมได้นำเข้าบัญชีเงินกองกลางของ SOS ไปแล้ว ซึ่งเมื่อรวมกับเงินที่เหลือจากการเช่ารถตู้ที่น้องไอนุได้โอนเข้าบัญชีไป 600 บาท จะรวมเป็นเงิน 4,700 บาท ครับผม
ขอขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่ได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมครั้งนี้อีกครั้งครับ ....
zmile.p สายรุ้ง
25-07-2009, 21:17
รูปสุดท้ายสวยโรแมนติกจริงค่ะๆ สีทองฟ้าแบบนี้ คนโบราณเรียกว่า สีท้องฟ้าแบบ
ผีตากผ้าอ้อมหรือเปล่าค่ะ พี่สายสอง หรือว่าเข้มกว่านี้
พี่เหน่งของชาวโดนัทโลมา รอบนี้ มีหลักฐานมัดตัวแน่นหนา นี่หล่ะน๊า หนุ่มเนื้อหอม จริงๆ
ท่านพี่เรา
อ้าววววว.....เปลี่ยนชื่อพี่สองสายเป็น "สายสอง" ไปซะแล้วหรือน้องรุ้งสาย เดี๋ยวก็ให้ไปวิ่งขึ้นรถเมล์สายสองซะหรอก.....;)
"ผีตากผ้าอ้อม" ต้องเป็นแสงที่มาตอนโพล้เพล้ เย็นย่ำสนธยา.....แต่ภาพสุดท้ายนี่เป็นตอนเช้า ซึ่งเรียกว่า "แสงเงินแสงทอง ผ่องอำไพ"
zmile.p สายรุ้ง
26-07-2009, 10:18
จ๊าก ข้าน้อยขออภัยค่ะ มือมันไวกว่าสายตาที่ จะไปถึงห้าแยกในเร็ววัน มิได้ตั้งใจจะเปลี่ยนชื่อให้เลยค่ะ แฮะ แฮะ
อ้าว เป็นแสงยามเช้าหรือค่ะ เหมือนยามเย็นจังเลยค่ะ แต่ สวยซึ้งจริงๆค่ะ
ขอบพระคุณมากคร๊าบบบบพี่น้อยพี่จ๋อม
สนุกและสวยสดจริงจริงคร๊าบบบบบบบ
...
มีความสุข!!!
angel frog
27-07-2009, 08:49
ขอบคุณพี่สองสาย...
ขอบคุณลูกหลานในทีมทุกคน.... ที่ช่วยกันทำงานเป็นอย่างดีมั๊กมาก
..หันหลังมาทีไร ก็จะเจอรักกะจี๊ด
ตัดอวน ไม่ว่าจะได้เชือกเพียงเสันเดียวหรือมากน้อยแค่ไหน ก็จะเจอไม่น้องพลอย ก็ สายรุ้ง มารับไป
ส่วนหนุ่มปาล์ม (ว่าที่ครูอนาคตไกล) ....บอกได้คำเดียวว่า ยอดเยี่ยมจ้า เก่งมากๆ ดูแลทุกๆคนเป็นอย่างดี
...เมื่อไหร่ที่ควักกรรไกรออกมา ..ก็จะมีกรรไกรอีก 5 อัน พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง
...เมื่อไหร่ที่หันมาขอบอลลูน ก็จะรีบแย่งกันหยิบมาส่งให้ทันที ...น่ารักจริงๆ
..ทุกคนเก่งมากๆ ขอปรบมือให้ดังงงงงง http://emoticon.siamha.com/pretty/5.gif
เข้ามาดูแล้วก็มีความสุขตามไปด้วยครับ
ขอบคุณทุกคน :d
arttaporn
27-07-2009, 10:20
โหย... ได้ขยะเยอะแยะมากมายจริงๆ
แต่ถึงจะได้ขยะมากขนาดนี้ แต่ก็ยังเหลืออีกพอสมควรนะครับ...เฮ้อ :(
ยินดีด้วยที่กลับบ้านโดยสวัสดิภาพกันทุกคน
ปล. ถึงแม้ว่าคราวนี้จะไม่ได้เจอเพื่อนลายจุด
แต่เหมือนกับว่า ผมเห็น "พะยูน" แอบขึ้นเรือมากับชาว sos ด้วยเยอะเลยนะครับ อิอิ
เดี๋ยวเถอะน้องอ้น......ขึ้นเรือด้วยกันอีกเมื่อไร ระวังจะถูกพะยูน(แกล้ง)ล้มทับ
ตัวบางๆอย่างนี้....มีหวังแบนแตร้ดแต้ดแต๋.....:p
ลืมไปค่ะ....
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านเรื่องและชมภาพการไปทำงานของเราครั้งนี้ค่ะ....
รางวัลของพวกเราชาว sos ที่อาสาไปทำงานกันนั้น ก็อยู่ที่ได้เห็นของสวยๆงามๆและสัตว์ทะเลทั้งเล็กและใหญ่ที่ผ่านเข้ามาในสายตาให้เราได้ชมชื่น
และ.....คำชื่นชมจากใจจริงของผู้ที่ได้เห็นได้รู้ถึงการเสียสละทำงานรับใช้ทะเลของพวกเราค่ะ
ท่านที่ไปร่วมทำงานท่านใดที่มีภาพถ่ายทั้งใต้น้ำและบนบก.....กรุณานำมาลงให้ชมด้วยนะคะ จะใส่ภาพในที่นี้ หรือไปตั้งกระทู้ใหม่ในห้องเรื่องเล่าชาวทะเลก็ได้
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ....:)
ตุ๊กแกผา
27-07-2009, 14:30
เดี๋ยวเถอะน้องอ้น......ขึ้นเรือด้วยกันอีกเมื่อไร ระวังจะถูกพะยูน(แกล้ง)ล้มทับ
ตัวบางๆอย่างนี้....มีหวังแบนแตร้ดแต้ดแต๋.....:p
55555 แบนแตร้ดแต้ดแต๋ หรือจะเป็นเขียด (ที่มันเหยียดขา...) ซ๊ะก็ไม่รู้แฮ๊ะ
มีรูปไม่มากเพราะ...หลายไดร์..ไม่ได้เอากล้องลงครับ...แต่ขอเวลานิดครับภาพที่มีจะเอามาลงครับ....กระผม...5555
มาต่อจากพี่สองสายนะครับ....ลอบที่ชาวประมงทิ้งเอาไว้อย่างไม่สนใจกับสิ่งแวดล้อมและไร้ซึ่งจิตสำนึกของการอยู่ร่วมกันได้อย่างเหมาะสม....ทำให้เกิดความเีสียหายกับปะการัง...ดังในภาพที่เห็นครับ..น่าเศร้านะ
นี่...ก็เป็นการสูญเสียในหลายๆด้าน....กับการขาดจิตสำนึกจริงๆ..โดยมีปลาหลายชนิดที่ไม่ต้องการในด้านเศษฐกิจ...ต้องมาสูญเสียไปด้วย...น่าเสียดาย..
สุดท้ายที่ดักเอาไว้ก็ไม่ไำด้เอาขึ้น...ไปใช้ประโยชน์อันใด...สุดท้ายปลาเหล่านั้นก็ต้องตายไปแบบไม่เกิดประโยชน์อันใด....
เราอาสา...SoS ....ก็ยังมีความตั้งใจที่จะสานต่อกับการรักษาทะเลให้สะอาดสวยงาม....และจัดการกับสิ่งที่ไม่ดีงามออกไป..ให้ทะเลไทยสวยงามต่อไป
เราจะรวมมือรวมใจกับเพื่อทะเลของเราต่อไป....
แม้นจะ...มีออวนเพียงเล็กน้องก็จะเก็บให้พ้นสายตา....และให้สะอาดตากับทุกคน
และท้องทะเลยจะได้สวยงามต่อไปนานๆ
สรรพสิ่ง...จะได้มีโอกาสได้เติบโตต่อไป....
ถึง..ลมจะแรง....คลื่นจะสูง....ฝนจะตก...แดดจะร้อน...น้ำจะขุ่น...แต่ใจยังสู้เพื่อทะเลบ้านเรา...
ถึง..ลมจะแรง....คลื่นจะสูง....ฝนจะตก...แดดจะร้อน.. .น้ำจะขุ่น...แต่ใจยังสู้เพื่อทะเลบ้านเรา...
ประทับใจกับคำพูดนี้จริงๆ.....
ยอดไปเลย.....ขอบคุณมากค่ะน้องเหน่ง
เห็นภาพลอบทับกอปะการัง และปลาที่ตายอยู่ในลอบแล้วเศร้าใจจริงๆค่ะ....:(
ploybabe
29-07-2009, 00:38
พี่กบบบ ขอกอดที มีพี่กบเป็นลีดส์นี่ สนุกจริงๆ หุหุ
ขอบคุณป้าน้อยลุงจ๋อม และทุกๆคนเลยนะคะ ทริปนี้สนุกมาก มีความสุขมากๆเลยค่ะ
ปล. แม่ฝากบอกขอบคุณป้าน้อยกับลุงจ๋อม ที่ช่วยดูแลพลอยกับพี่ปาล์มด้วยค่า (ตามด้วยจุ๊บๆสองที อิอิ)
zmile.p สายรุ้ง
29-07-2009, 10:13
พี่ป้ากบเจ้าขา พวกเราก็ต้องขอขอบคุณ หัวหน้าทีมมากๆเลย ที่ดูแลทุกคนอย่างดี พี่กบเป็นหัวหน้าทีมที่ safety มากๆ อีกหนึ่งคน ค่ะ เน้นความปลอดภัยของพวกเราเป็นหลักจริงๆ กับเป็นคนที่ให้กำลังใจ น้องๆ เป็นอย่างดี เลยหล่ะ และจะถามความเห็นน้องๆก่อนเสมอว่าเอาไง
แล้วก็คอยชี้ของแปลกให้น้องดูเวลาไม่มีอวนด้วย
ตัวจิ๋วๆที่ชี้ให้ดู ถ่ายมาแล้วมันไม่คมชัดเท่าไรเลยค่ะ พี่กบขา เสียดายจัง เฮียเหน่งบอกว่า ไอ้ตัวเนี่ย ต้อง close up ที่เขามันถึงจะชัด แม่เจ้า เขามันก็จิ๋วมากๆเลย ค่ะ
แล้วก็ ใครอย่าประมาท สายตาอันแหลมคมของพี่กบนะค่ะ ถึงแม้ว่าเลย ห้าแยกปากเกร็ดแล้ว แต่ขอรับรองว่า สายตาดีสุดๆ เพราะ ขนาดเอ็นเส้นเล็กๆ บางๆ ใสๆ ยังไม่รอดพ้นสายตาพี่กบเลย เรางี้ยังมองไม่ทันพี่กบเลยจริงๆ
เห็นด้วยกับพี่ป้ากบ ว่าน้องปาล์มเป็น สุดยอด safety อีก หนึ่งคน ที่เอาใจใส่ ลูกทีมมากกกกกก จริงๆ จะคอยถามตลอดว่า O.K หรือไม่ ในขณะ ดิ่งลงใต้ทะเล เรียกว่า ไม่ทิ้งกันจริงๆ ค่ะ และจะคอยสังเกตตลอดว่าเรา หาอะไร ไม่เจอ ในตัวเราเอง 5 5 เช่น ไฟฉาย (มันลอยไปอยู่ไหนหว่า) หรือ ว่ามีดที่ใช้แล้ววางไว้พื้นทราย พอจะหยิบแล้วหาไม่เจอ น้องจะเข้ามาถามเลยว่า หาอะไร พอบอกว่ามีด ก็มาช่วยหา แต่เราก็หาเจอ เพราะพอคนเยอะ ฝุ่นฟุ้งไปหมดเลย เรียกได้ว่า ทริปนี้ น้องปาล์ม ได้รับคำชมจาก 1 ป้า กับ 1 พี่ ในทีมไปตัวพองเลยค่ะ
น้องพลอยเองก็น่ารักมาก ว่าไงว่าตามกัน แต่สงสารหนูจัง ทริปนี้ คันคะเยอทั้งตัว ไปหาหมอฉีดยาหรือยังค่ะ หนูพลอย
ทริปนี้ได้ใช้วิชาที่ครูน้อยสอน หลายหนเลยค่ะ ประสบเหตุที่ไร นึกถึงเลยว่าครูน้อยสอนให้ทำยังไงบ้าง ตั้งสติก่อนแล้วทำไงอีก บวกประสบการณ์ที่ดำน้ำมาช่วยได้มากจริงๆค่ะ
ขอบพระคุณที่สุดเลยค่ะ พี่น้อย พี่จ๋อม
น้องพลอยจ๋า.....ดีใจที่หนูมีความสุขสนุกสนาน และชอบน้องป้ากบ...Leader ที่รักของเรา
คราวหน้า....พ่อกำนันกับแม่ผู้พิพากษาสมทบของหนู คงจะไฟเขียวให้ไปทำงานกับพวกเราชาว SOS บ่อยๆแล้วนะคะ
ฝาก Give our big hugs and sweetkisses ให้กับท่านทั้งสองด้วยค่ะ.....จุ๊บๆๆ....
..................................................
ส่วนคำชมของน้องสายรุ้ง.....ทำให้พวกเราหลายคนตัวพองฟูกันเป็นแถวๆ หรือว่าไงคะน้องป้ากบ....น้องปาล์ม....น้องพลอย....
ยิ้มปลื้มแทนผู้ได้รับคำชมทุกคนด้วยค่ะ....รักษาความดีงามนี้ไว้ตลอดไปนะจ๊ะ....
และพี่สองสายขอรับคำชมด้วยความขอบคุณค่ะ....แล้วพี่ก็หวังว่าน้องสายรุ้งจะมีความสุข....สนุกสนาน....และปลอดภัยจากการดำน้ำมากยิ่งๆขึ้นไปนะคะ
เพิ่งได้มีโอกาสเข้ามาดูรูป และอ่านเนื้อเรื่อง
ดูไปยิ้มไป
ขอบคุณพี่สองสาย บ้าน sos เพื่อนร่วมทริป และเรือโชคศุลี
....รวมทั้งแม่หอย ลุงหอย น้าหอย ทุกๆท่าน
ที่ทำให้ทริปนี้สมบูรณ์แบบ
drsumeth
30-07-2009, 23:30
ได้มาไล่ตามอ่าน ได้บรรยากาศเหมือนทริปที่แล้วเลยครับ
ชื่นชมผลงานของทุกๆ คนครับ
Super_Srinuanray
31-07-2009, 09:00
ขอชื่นชม มือโปรระดับกรรไกรทองทุกท่านค่ะ....
ขอบคุณแทนท้องทะเลไทยของพวกเราด้วยที่มีทีม sos มาช่วยกำจัดความรกหูรกตาออกไป
ขอบพระคุณพี่น้อย พี่จ๋อม พี่เสรี พี่จิน พี่ๆ ทุกคนที่เป็นกำลังอย่างดีสำหรับพวกเรา
ขอบพระคุณน้องๆๆ ทุกคนที่เป็นเสมือนเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงให้บ้านน้อยของเรามีแรงที่จะทำงานเพื่อชาติ เพื่อธรรมชาติ อีกต่อไป
จุ๊บๆๆๆๆๆๆๆนะจ๊ะ
ชาว sos รวมตัวทำงานกันเมื่อไหร่ก็มีแต่ความชื่นมื่นในหัวใจ ขอปรบมือให้ดังๆค่ะ
ขนาดไม่ได้ไปด้วยแค่อ่านสรุปรายงานยังสุขใจไปด้วยเลย นับวันรอไปทริปหน้าอย่างจดจ่อ
vBulletin® v3.8.10, Copyright ©2000-2024, vBulletin Solutions, Inc.