PDA

View Full Version : รายงานผลการปฎิบัติงานโครงการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ และปลูกไม้ชายเลน ที่ แหลมผักเบี้ย


สายน้ำ
08-10-2009, 10:11
รายงานผลการปฎิบัติงานโครงการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ และปลูกไม้ชายเลน ที่ แหลมผักเบี้ย เมื่อวันศุกร์ที่ 18 กันยายน 2552

สายน้ำ
09-10-2009, 14:19
ตามที่คุณธเนศ พุ่มทอง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและทดสอบพันธุ์สัตว์น้ำเพชรบุรี ได้เชิญชวนให้สมาชิก sos ไปร่วมกันปล่อยปูม้า 1 แสนตัว และหอยแครง 1 ล้านตัว ที่แหลมผักเบี้ย จ.เพชรบุรี ในวันศุกร์ที่ 18 กันยายน 2552

เรานัดพบกันประมาณ 9.00 น. ปรากฎว่าสองสายต้องขออภัยทุกท่านที่ไปช้ากว่าเวลานัด เนื่องจากมีเหตุขัดข้องบางประการทางบ้าน

แต่พอไปถึงพิธีก็เริ่มทันทีชนิดแทบตั้งตัวไม่ติด ..... โดยเริ่มจากตั้งแถวถ่ายภาพร่วมกันก่อน ดังในภาพแรก

สายน้ำ
09-10-2009, 14:25
..... แล้วก็ ปล่อยปูกันเลย

โดยคุณสายชล จาก sos และคุณสุภัทรา อุไรวรรณ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำ กรมประมง (หัวหน้าของคุณธเนศ) เป็นประธานในการปล่อย โดยที่คุณธเนศ (ใส่เสื้อสีฟ้า สวมหมวก SOS) ยืนให้กำลังใจอยู่ด้านข้าง

สายน้ำ
09-10-2009, 14:29
หลังจากนั้น ก็ได้เวลาที่สมาชิก sos เจ้าหน้าที่ประมง และผู้ร่วมงาน ร่วมกันปล่อยปูม้า โดยสามารถปล่อยได้ 2 วิธี

วิธีแรก คือ เทปูม้าลงในถังน้ำใบใหญ่ ซึ่งต่อท่อให้ปูม้าตัวจิ๋ว ไหลลงไปยังทะเล

สายน้ำ
09-10-2009, 14:32
ถ้าไม่ทันใจ ก็ใช้วิธีที่ 2 คือ ...

หิ้วถุงลงไปที่ทะเล และแกะถุงปล่อยลงไปกับสายคลื่นเลย

สายน้ำ
09-10-2009, 14:34
ลูกปูม้า เมื่อโดนน้ำทะเลและคลื่นซัด สัญชาติญาณก็สั่งให้ว่ายน้ำกระแด่วๆ บางตัวก็มุดทรายหายไปต่อหน้าต่อตาผู้ปล่อย

สายน้ำ
09-10-2009, 14:39
ส่วนลูกหอยแครงนั้น ต้องลงเรือออกไปปล่อยแถวปลายแหลมผักเบี้ย ซึ่งแต่ละกลุ่มส่งได้เพียงตัวแทนลงเรือสปีดโบ๊ตลำเล็กๆออกไปปล่อยเท่านั้น

คุณสายน้ำช่างได้รับเกียรติแบบหายใจหายคอไม่ทัน ให้เป็นตัวแทน SOS ลงเรือไปกับแม่หอยและ ผอ.สุภัทราด้วย โดยมีน้องแมลงปอ ที่ขี้เมาพอกัน กับน้อง Oo และ น้อง hs4opb ตามขึ้นเรือมาด้วยกัน โดยมีพี่ๆน้องๆยืนส่งด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

สายน้ำ
09-10-2009, 14:43
ขึ้นชื่อว่า หอย ไม่ว่าจะตัวใหญ่หรือตัวเล็ก หากจะเคลื่อนย้าย อย่างไรก็ต้องแช่น้ำ หรือไม่ก็ต้องห่อด้วยผ้าชุบน้ำ

แล้วก็ต้องมาก้มหน้าก้มตาแกะกันบนเรือ .... ถ้าไม่เมาก็ทำกันไปเถิดครับ พี่น้องครับ

สายน้ำ
09-10-2009, 14:44
ดูกันให้เต็มตาว่า นี่คือ ลูกหอยแครงที่ตัวใหญ่กว่าเม็ดทรายเพียงนิดเดียว ที่พวกเรากำลังจะปล่อยลงน้ำ

สายน้ำ
09-10-2009, 14:47
เราให้ ผอ.สุภัทรา เป็นผู้ประเดิมด้วยถาดแรก .... ท่านก็ยังไม่ทราบว่า จะให้สาดทั้งถาดหรือปล่อยแบบไหน

แม่หอยต้องเข้ามาประกบ พร้อมขยุ้มลูกหอยขึ้นมา 1 กำ แล้วสาดออกไป หลังจากนั้น ผอ.ก็สาดได้คล่องจนหมดถาดเลยครับ

สายน้ำ
09-10-2009, 14:49
น้องๆก็ช่วยกันปล่อยลูกหอยเช่นกัน .....

สายน้ำ
09-10-2009, 14:55
งานนี้ ผอ.สุภัทรา ท่านได้หว่านหอยกันสนุกมือ ลูกหอยทั้งพวกที่ห่อผ้ามา ได้ถูกแกะมารวมกันไว้ในกระบวย พร้อมให้ท่านได้หว่าน และพวกที่ยังอยู่ในห่อผ้า ก็ส่งให้ท่านแกะห่อและโปรยได้เลย

สายน้ำ
09-10-2009, 14:57
ส่วนน้องหอยบางส่วนที่ยังติดอยู่กับผ้าที่ห่อ .... ก็เป็นพวกน้องๆที่ช่วยกันเอาจุ่มน้ำให้หลุดไปให้หมด

สายน้ำ
09-10-2009, 15:01
ตอนปล่อยหอยแครง ใช้เวลาไม่นานหรอกครับ แต่ที่นานมากๆคือ ช่วงที่เรือพยายามแถกเลนเข้าคลองอีแอด เพื่อไปสมทบกับคนอื่นๆที่ธนาคารปูม้านั่นแหล่ะครับ ใช้เวลาเป็นชั่วโมง ..... แต่ก็ดีครับ ได้ชมวิว

นี่คือ ปลายแหลมผักเบี้ย .... สมชื่อเลยครับ แหลมจริงๆ แหลมเชี๊ยะเลย

สายน้ำ
09-10-2009, 15:06
ที่ปากคลอง มีชาวบ้านมาเดินลุยเลนเก็บหอยกันด้วยครับ ....

สายน้ำ
09-10-2009, 15:07
..... แต่ขอประทานโทษ หอยคงเยอะมาก เพราะไม่ต้องใช้คราดเลย พวกเขาเดินเก็บกันด้วยมือเปล่าๆ

สายน้ำ
09-10-2009, 15:08
ปูก้ามดาบเยอะมาก ..... น้องปลาตีนตัวเป้งๆก็ว่ายน้ำโชว์ตัวให้เห็นตลอดทาง

สายน้ำ
09-10-2009, 15:10
ส่วนนี่ ต้นอะไรก็ไม่ทราบ ขึ้นมาโด่เด่อยู่เพียงต้นเดียวกลางทุ่งเลน

สายน้ำ
09-10-2009, 15:13
เป็นเพราะน้ำลงมากช่วงเช้า ทำให้กำหนดการเปลี่ยนไปหลายอย่าง ...

.... อย่าง Walkway ที่ลัดเลาะตามริมคลองและชายป่าชายเลนมาเรื่อยๆจนถีงแหลม ก็อยู่ในแผนที่พวกเราจะได้มาเดินชมกัน แต่ก็ต้องเปลี่ยนแผนไป เพราะเราไม่สามารถออกเรือมาปล่อยหอยที่ปากคลองด้วยกันทั้งหมดได้

สายน้ำ
09-10-2009, 15:18
เรือพาเราแถกเลนเข้ามาจนถึงบริเวณท่าเรือประมง ที่กลุ่มคุณธเนศรอรับอยู่ด้วยความเป็นห่วง

.... ได้ทราบว่า ตามที่คุยกันไว้ เมื่อพวกเราปล่อยหอยแครงเสร็จ เรือจะตีกลับมาที่ชายหาด ให้พวกเรากลับมาสมทบกัน แล้วไปชมธนาคารปู

ปรากฎว่า ผิดแผน .... คนขับเรือกลับพาเราฝ่าดงเลนเข้าคลองหน้าตาเฉย พรรคพวกที่รอกันอยู่ที่ชายหาด ก็รอกันเงก ผลสุดท้าย คุณธเนศจึงตัดสินใจให้พวกที่รอไปปลูกป่าชายเลนกันเลย

สายน้ำ
09-10-2009, 15:21
การปลูกป่าชายเลน .... ไม่ได้ไปปลูกกันไกลที่ไหน เป็นพื้นที่ว่างด้านหลังบ้านพักเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯนั่นเอง

มีการถ่ายภาพร่วมกันก่อนลงไปปลูกกล้าไม้ ...... เปรียบเทียบให้ดูกับภาพที่ถ่ายร่วมกันอีกครั้งหลังจากปลูกเสร็จ

สายน้ำ
10-10-2009, 16:19
ช่วงเริ่มลงไปปลูกกัน ก็ดูง่าย เพราะเจ้าหน้าที่ได้ขุดหลุมไว้ให้แล้ว พวกเราเพียงแค่วางกล้าไม้ลงไปในหลุม แล้วเอาดินกลบ ก็เป็นอันเสร็จ

สายน้ำ
10-10-2009, 16:21
ปลูกกันง่ายๆ เนื้อตัวไม่เลอะเทอะอย่างนี้ จึงได้ยิ้มร่ากันทุกคน

แล้วไอ้ที่กำลังปลูกกันอยู่น่ะ ต้นโกงกางนะครับ ไม่ใช่ต้นรัก .... ไม่ต้องหวานกันมากนัก

สายน้ำ
10-10-2009, 16:23
ปลูกกันแห้งๆแบบนี้ เดี๋ยวเดียวก็เสร็จ ....

สายน้ำ
10-10-2009, 16:24
โกงกางรุ่นก่อนๆที่เจ้าหน้าที่ปลูกไว้ก่อนหน้านี้ กำลังเติบโต

สายน้ำ
10-10-2009, 16:25
ยังไม่หมดครับ ยังเหลือกล้าอีกกองหนึ่ง ที่เขาเตรียมไว้ให้ลงไปปลูกในเลน

สายน้ำ
10-10-2009, 16:27
ได้เละกันอย่างนี้ ดูจะถึงใจพระเดชพระคุณมากกว่านะครับ

สายน้ำ
10-10-2009, 16:29
sos ถนัดแบบเละๆ รู้สึกเฮฮาปาร์ตี้กันมาก

สายน้ำ
10-10-2009, 16:31
เก็บภาพคู่กับดาราประจำ sos ก่อนที่จะไปล้างเนื้อล้างตัว เปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อไปรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน

สายน้ำ
10-10-2009, 17:30
คงจะเป็นเพราะหิวจัด ช่วงรับประทานอาหารกลางวันจึงไม่ได้เก็บภาพกันเอาไว้เลย ....

หลังอาหารกลางวัน เป็นรายการพิเศษที่คุณธเนศแถมมาให้ คือ แวะชม โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

เริ่มการฟังการบรรยายเกี่ยวกับโครงการฯเพื่อให้พวกเราได้รู้จักก่อนที่จะเข้าชมพื้นที่

พอเจอที่ร่มๆ ลมพัดเย็นๆ ก็เริ่มสะลึมสะลือกันหลายคน ....

สายน้ำ
10-10-2009, 17:33
จบแล้ว .... ออกไปขึ้นรถ เพื่อเข้าชมพื้นที่ต่างๆของโครงการ โดยมีมัคคุเทศก์ที่ชื่อ น้องเอ เป็นผู้บรรยายตลอดรายการ

สายน้ำ
10-10-2009, 17:43
การบำบัดน้ำเสียจากเมืองเพชรบุรีของโครงการฯ จะผ่านกรรมวิธีทางธรรมชาติแบบเป็นขั้นเป็นตอน

เริ่มจากบ่อพักหลายบ่อ เพื่อให้ตกตะกอน ... น้ำที่ผ่านขั้นตอนนี้ไปจะเป็นน้ำที่กรองตะกอนไปแล้วหลายชั้น และจะส่งผ่านไปยังขั้นตอนทำความสะอาดตามธรรมชาติขั้นต่อไป

สายน้ำ
10-10-2009, 17:46
ผ่านจากบ่อตกตะกอน น้ำจะผ่านมาถึงแปลงหญ้านานาชนิด ด้วยกรรมวิธีที่ระบุไว้บนป้ายในภาพแรก

สายน้ำ
10-10-2009, 17:49
มาถึงขั้นตอนนี้ น้ำน่าจะลดมลพิษไปได้หมดแล้ว เพราะพี่เสือ ที่วิ่งตามรถเรามาตั้งแต่อาคารด้านหน้า ดื่มน้ำในแปลงหญ้าโชว์ อั้กๆๆๆ ด้วยความกระหาย โดยไม่ได้รับอันตรายใดๆ

สายน้ำ
10-10-2009, 20:01
ก่อนจะปล่อยลงทะเล ก็จะมีป่าไม้ชายเลนเป็นตัวกรองอีกชั้น

สัตว์ที่อยู่คู่กับป่าชายเลนของที่นี่คือ ปลาตีนตัวใหญ่ๆๆๆ .....

สายน้ำ
10-10-2009, 20:04
นอกจากนี้ พวกเศษผักเศษหญ้าที่ต้องทิ้ง ก็ไม่ให้สูญเปล่า ยังสามารถนำมาลงบ่อหมัก เพื่อให้ได้ปุ๋ยน้ำชีวภาพไว้ใช้ในการเกษตรต่อไปอีก

สายน้ำ
10-10-2009, 20:06
บริเวณข้างทางระหว่างที่เดินทางกลับ สองข้างบึงน้ำมีนกมากมายหลายชนิดบินโฉบไปมา หรือเกาะอยู่บนคอน รอจังหวะโฉบปลาไปกิน

สายน้ำ
10-10-2009, 20:08
คุณวรนุส ก็มีให้เห็นตามรายทาง ....

ส่วนเจ้าตัวนี้ แหกตาข่ายกรองตะกอนเข้ามาฉกปลากิน แล้วทำท่าเหมือนหาทางออกไม่เจอ

สายน้ำ
10-10-2009, 20:12
ส่วนเจ้านกตัวนี้ เราเห็นมันชูคอกระดึ๊กๆอยู่เป็นนาน ที่แท้มันพยายามที่จะส่งปลาเข้าไปในลำคอ แต่ไม่สำเร็จเสียที

ก็ดูเอาสิครับ ปลาตัวใหญ่กว่าลำคอนกสัก 3 เท่าได้ แถมยังกางครีบอีกด้วย .... จะกลืนลงไปได้สำเร็จหรือไม่ พวกเราไม่มีเวลาพอที่จะมานั่งเฝ้าดูเสียด้วย

สายน้ำ
10-10-2009, 20:17
แล้วก็หมดเวลาทัวร์ ....

แต่ในช่วงเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงนี้ ทำให้พวกเราต้องทึ่ง ในพระปรีชาสามารถของในหลวงเป็นอย่างยิ่ง ที่ทรงนำเอาธรรมชาติที่มีอยู่รอบตัว มาใช้เป็นเครื่องมือบำบัดน้ำเสีย ซึ่งเรื่องง่ายๆแค่นี้ พวกนักการเมืองที่เราเลือกเข้าไปเป็นรัฐบาลบริหารประเทศคิดกันไม่ออ ก ทำให้เลือกตั้งคราวหน้าต้องคิดกันหนักสักหน่อยแล้วครับ

สายน้ำ
10-10-2009, 20:19
ออกจากโครงการตามพระราชดำริ เราย้อนกลับไปที่ธนาคารปู เพื่อเยี่ยมชมการดำเนินการของโครงการนี้

สายน้ำ
10-10-2009, 20:24
ถึงตรงนี้ ผมขอนำสกู๊ปข่าวจาก นสพ.ข่าวสด วันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 ที่ได้ลงเกี่ยวกับธนาคารปูของชาวประมงที่นี่ มานำเสนอให้ได้รู้จักครับ


ชาวประมงแหลมผักเบี้ย รวมกลุ่มตั้งธนาคารปูม้า

ในแต่ละวันสมาชิกกลุ่มชาวประมงพื้นบ้าน ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี มีนายไพฑูรย์ รื่นรวย อายุ 46 ปี เป็นประธานกลุ่ม จะต้องนำเรือออกไปที่สถานเลี้ยงอนุบาลปูม้า ที่สร้างไว้ในทะเล ห่างจากฝั่งประมาณ 2,000 เมตร เพื่อนำปูม้าที่มีไข่ติดอยู่ที่หน้าท้องปริมาณหลายแสนชีวิต ออกไปปล่อยลงในกระชังที่สร้างไว้ เพื่อให้ลูกปูม้าเจริญเติบโต และออกจากบริเวณใต้ท้องจนหมด ซึ่งจะใช้เวลาไม่เกิน 10 วัน และหลังจากไข่ปูม้าเจริญเติบโตกลายเป็นลูกปูม้าวิ่งออกสู่ทะเลเรียบร้อยแล้ว ก็จะนำปูม้ากลับมาคืนสมาชิกที่นำมาให้ เพื่อขายหรือบริโภคเป็นอาหาร ส่วนปูม้าที่ทางสมาชิกให้กับกลุ่มโดยไม่เอาคืน ทางกลุ่มก็จะเอาไปขายนำรายได้มาซื้อปลาทะเล มาเป็นอาหารใช้เลี้ยงปูที่อยู่ในกระชัง และเป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของกลุ่ม แม้ว่าแต่ละครั้งที่ขับเรือออกไป จะต้องใช้น้ำมันที่มีราคาแพงมากก็ต้องยอม

นายไพฑูรย์ รื่นรวย อยู่บ้านเลขที่ 77/2 หมู่ 1 ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม ประธานกลุ่มชาวประมงแหลมผักเบี้ย เปิดเผยว่า หลังจากตั้งกลุ่มได้ไม่นาน โดยการสนับสนุนงบประมาณก่อสร้างแพและกระชังเลี้ยงอนุบาลปูม้ากลางทะเล ในจำนวนเงิน 5,000 บาท จากกลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

สมาคมรักทะเลไทย มีชาวประมงพื้นบ้านใน ต.แหลมผักเบี้ย เข้าร่วมเป็นสมาชิกแล้วกว่า 40 ราย จากจำนวนชาวประมงทั้งหมดที่มีอยู่ประมาณ 80 ราย ลักษณะของธนาคารปูม้าที่ตั้งขึ้น เพื่อต้องการเพิ่มปริมาณปูม้าให้กับท้องทะเล เพราะปัจจุบันชาวประมงพื้นบ้านนอกจากจะต้องต่อสู้กับปัญหาน้ำมันแพงแล้ว ยังพบว่าปริมาณสัตว์น้ำที่จับขายเลี้ยงครอบครัวกันอยู่ก็มีปริมาณลดลงอย่าง น่าใจหาย โดยเฉพาะปูม้าที่ในอดีตชุกชุมมาก เคยจับได้หลายสิบกิโลกรัมต่อการออกทะเลแต่ละครั้ง แต่ปัจจุบันเหลือเพียงไม่ถึง 5 กิโลกรัมต่อครั้ง เมื่อหักค่าน้ำมันแล้ว ชาวประมงแทบไม่เหลืออะไร แต่ก็ยังดีที่ราคาปูม้าค่อนข้างดี ขายส่งอยู่ที่กิโลกรัมละ 50-60 บาท แต่ถ้าชาวประมงที่ไม่เป็นหนี้พ่อค้า หยิบยืมเงินมาใช้ลงทุนก่อน ก็จะนำไปขายเองจะได้ราคาสูงอยู่ที่กิโลกรัมละ 100-150 บาท ทำให้ชาวประมงย่านนี้ ยังสามารถออกเรือทำมาหากินในทะเลอยู่ได้ ท่ามกลางสภาวะที่ราคาน้ำมันแพง แต่ถ้าปริมาณสัตว์น้ำที่จับกันอยู่ลดลงหรือหมดไป คราวนี้แหละชาวประมงต้องเดือดร้อนแน่ จึงเป็นสาเหตุของการรวมตัวกันตั้งธนาคารปูม้าขึ้น

ลักษณะการทำงาน จะมี 2 วิธี เมื่อชาวประมงได้ปูม้าที่มีไข่อยู่ใต้ท้องจำนวนมาก ก็จะนำมาให้ทางกลุ่ม ซึ่งมีที่ทำการอยู่บนฝั่ง เมื่อได้ปริมาณพอสมควร ชาวประมงนำไปใส่ไว้ในกระชังที่สร้างไว้กลางทะเลเอง หากต้องการนำปูม้ากลับคืนหลังไข่ฟักเป็นตัวหมดแล้ว ชาวประมงจะใช้สีเขียนชื่อติดไว้ที่กระดองปูม้า

นายสมควร น้อยแสง อายุ 45 ปี ชาวประมงที่เข้าร่วมโครงการ เปิดเผยว่า ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีของชาวประมง เพราะถ้าไม่ทำแบบนี้อีกไม่นานปูม้าคงจะค่อยๆ หมดไปจากท้องทะเลแน่นอน เนื่องจากจับกันอย่างเดียว แถมปูไข่ก็ไม่เว้น ก็จะทำให้ปริมาณลดลงไปเรื่อยๆ นอกจากนั้นปัญหาที่ส่งผลกระทบอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ปูม้าลดลง คือการลักลอบเข้ามาคราดหอยของเรือขนาดใหญ่ในพื้นที่อนุรักษ์ชายฝั่ง ผลของตะแกรงเหล็กที่ใช้คราดหอย นอกจากหอยตัวเล็กจะติดไปด้วยแล้ว ยังทำให้หน้าดินเน่าเสีย ลูกปูไม่มีอาหารกิน เสียชีวิตไปด้วย จึงขอวิงวอน ขอร้องเรือคราดหอยขนาดใหญ่ อย่ามาบุกรุกพื้นที่ทำกินของเรือประมงพื้นบ้านในพื้นที่ 3,000 เมตรอีกเลย

สายน้ำ
10-10-2009, 20:41
ปรากฎว่า เที่ยวนี้ เราไม่มีโอกาสได้เยี่ยมชมแพอนุบาลปูม้าในทะเล เนื่องจากได้ถูกลากเข้ามาเก็บที่ท่าเรือเสียแล้ว เพื่อหลบคลื่นลมที่จะเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆของทะเลฝั่งอ่าวไทย

เราจึงแวะชมธนาคารปูม้า ของวิสาหกิจชุมชนที่ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือคลองอีแอดแทน โดยมีกรรมการของวิสาหกิจชุมชนเป็นผู้บรรยายความเป็นมาและวิธีดำเนินงานของธนาคารปูม้าแห่งนี้ให้พวกเราได้เข้าใจ

สายน้ำ
10-10-2009, 20:44
ชมกันอย่างใกล้ชิด ....

ดูในถังไม่ถนัด จึงใช้แก้วตักขึ้นมาส่อง จึงได้เห็นลูกปูม้าที่เพิ่งออกจากไข่ว่ายน้ำกันยั๊วเยี๊ย ก่อนที่จะถูกปล่อยไปตามท่อที่ต่อมายังถัง ลงไปยังคลองอีแอด

สายน้ำ
10-10-2009, 20:46
ลักษณะของไข่ที่ยังออกสีเหลืองๆอย่างนี้ คงต้องอยู่ในถังอีกสัก 2 วัน

สายน้ำ
10-10-2009, 20:47
แต่ถ้าไข่ออกสีดำๆอย่างนี้ อยู่ในถังอีกสักวันเดียว แม่ปูก็จะดีดไข่ให้ออกมาเป็นตัวแล้ว

สายน้ำ
10-10-2009, 20:49
ไม่ได้มีเพียงแค่ปูม้านะครับ .... ปูทะเลก็มีด้วย แต่นานๆมีมาฝากเสียที

ชาวบ้านแถวนี้ ถนัดหาเลี้ยงชีพด้วยการจับปูม้ามากกว่าปูทะเลครับ

สายน้ำ
10-10-2009, 20:51
บนกระดานนี้ เป็นการบันทึกรายชื่อเรือประมงและจำนวนแม่ปูม้าที่นำมามอบให้ธนาคาร

สายน้ำ
10-10-2009, 20:55
เห็นความเสียสละและความสามัคคีของชาวบ้านแล้ว sos จึงได้ช่วยสนับสนุนเงินก้อนหนึ่งสมทบทุนสนับสนุนโครงการธนาคารปูม้าของชาวประมงแหลมผักเบี้ยด้วย

หลังจากนี้ สมาชิก sos ที่มาร่วมกิจกรรมได้แยกย้ายกันกลับภูมิลำเนาด้วยความสุข สดชื่น ที่ได้มาร่วมกันทำกิจกรรมเพื่อทะเลไทยและสภาพแวดล้อมในวันนี้

สายน้ำ
10-10-2009, 21:07
กิจกรรมตามโครงการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ และปลูกไม้ชายเลน ที่ แหลมผักเบี้ย ครั้งนี้ บรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ได้ ต้องขอขอบคุณบุคคลและหน่วยงานดังต่อไปนี้

1. คุณธเนศ พุ่มทอง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและทดสอบพันธุ์สัตว์น้ำเพชรบุรี และเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯทุกท่าน ที่ได้นำพันธุ์ปูม้า จำนวน 2 แสนตัว ให้สมาชิก sos ร่วมปล่อย และได้จัดเตียมพื้นที่พร้อมกล้าไม้ไว้ให้พวกเราร่วมปลูก

2. คุณจินตนา นักระนาด ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งประจวบคีรีขันธ์ และเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ ที่ได้เตรียมพันธุ์หอยแครง จำนวน 1 ล้านตัว มาให้ปล่อย

3. เจ้าหน้าที่โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่ได้พาสมาชิก sos เข้าชมพื้นที่ของโครงการ พร้อมการบรรยายอันมีสาระประโยชน์ให้พวกเราได้รับทราบ

4. กรรมการวิสาหกิจชุมชนของแหลมผักเบี้ย ที่ได้ให้การต้อนรับ พร้อมนำชมโครงการธนาคารปูม้า

5. สมาชิก sos ทุกท่าน ที่ได้เสียสละเวลาอันมีค่า เดินทางมาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ จนบรรลุผลตามวัตถุประสงค์ที่ได้วางไว้


สำหรับกิจกรรมครั้งนี้ ได้นำเงินกองกลางชำระเป็นค่าใช้จ่ายรวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 8,100 บาท ครับ

..... หวังว่าคงจะได้ร่วมกันทำกิจกรรมเพื่อทะเลไทยครั้งต่อๆไปนะครับ ... สวัสดี

แม่หอย
11-10-2009, 08:50
ขอบพระคุณพี่สองสาย ที่นอกจากจะเป็นหัวแรงจัดการให้เราได้ร่วมทำกิจกรรมดีๆ กันแล้ว ยังกรุณามาบอกเล่าเรื่องราวที่ทั้งมีสาระและที่ได้อ่านแล้วทำให้ยิ้มมีความสุข..

ขอบคุณ ผอ.ธเนศ ที่จัดกิจกรรมนี้ขึ้น และทำให้พวกเราได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมงานโครงการตามพระราชดำริฯ ที่ให้เราได้มีจิตสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงมีต่อปวงชน เราจะได้มีเรี่ยวแรงทำคุณงามความดีเพื่อประเทศชาติกันให้มากๆ ขึ้น เพื่อถวายความกตัญญูต่อพระเจ้าอยู่หัวฯ และต่อประเทศชาติของเรานะคะ

สายชล
11-10-2009, 11:36
แม้จะมีการผิดเวลา..ผิดคิวไปบ้าง แต่งานนี้ก็ผ่านไปด้วยความสุขสนุกสนานและเปรอะเปื้อนเลอะเทอะกันพอหอมปากหอมคอนะคะ

Super_Srinuanray
11-10-2009, 19:11
หากปล่อยแล้วอยากกิน จะผิดไหมหนอ.....อิอิื

อยากกินปูม้่า

Pern
11-10-2009, 19:23
WOW..Nice Pix. and Report ka
Cheers cheers!

ดอกปีบ
16-08-2011, 12:46
โครงการนี้สองปีมาแล้ว เวลาผ่านไปไวจริงๆ ..

รายงานและภาพถ่ายเหล่านี้เป็นเสมือนบันทึกเรื่องราวที่ย้อนกลับมาอ่านทีไร ก็อดที่จะอมยิ้มไม่ได้ทุกครั้ง ถึงแม้จะไม่ได้ไปร่วมกิจกรรมด้วยก็ตาม

ที่รู้สึกอีกอย่างก็คือหากเปรียบกิจกรรมที่ sos จัดมาตั้งแต่ต้นเป็นบันทึกแต่ละบท
สมุดบันทึกเล่มนี้คงหนาและเล่มใหญ่น่าดู
น่าภาคภูมิใจจริงๆครับ

สายชล
16-08-2011, 19:03
จ้ะ...น้องดอกปีบ...งานที่เราทำไปแล้วกว่า 80 โครงการ ถ้ารวบรวมไว้ด้วยกันหมด คงเป็นบันทึกเล่มใหญ่ทีเดียวค่ะ...


และ งานเพื่อทะเลและสิ่งแวดล้อมยังมีอีกมากมายที่เราทำได้...และอยากจะทำ...แต่อยู่ที่ว่า เราพร้อมกันหรือเปล่าเท่านั้นนะคะ..