View Full Version : รายงานผลโครงการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ/เยี่ยมหอยมือเสือ/เก็บขยะ อันดามันเหนือ ม.ค.53
รายงานผลโครงการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ/ตรวจเยี่ยมหอยมือเสือ/เก็บขยะ/ตัดอวน อันดามันเหนือ ม.ค.2553
เพื่อความรวดเร็ว และไม่ได้มอบหมายหน้าที่ให้กับใคร ผมจึงต้องกลับมารับหน้าที่สรุปผลการทำกิจกรรมครั้งนี้ด้วยสำนวนแบบคันทรี่เหมือนเดิม ทนอ่านกันหน่อยนะครับ .....
เรือโชคศุลีเจ้าเก่าพาพวกเราวิ่งฝ่าคลื่นโขยกหน้าโขยกหลังมาทั้งคืน พอฟ้าสางมองเห็นเกาะสี่อยู่ข้างหน้า เรือกลับลดความเร็วเอาเฉยๆ ปรากฎว่าท่อส่งน้ำมันเจ้ากรรมดันมาแตกเสียได้ เรือจึงต้องวิ่งเพียงเครื่องยนต์เดียวเท่านั้น
ด้วยสปีดที่ลดลงกว่าครึ่ง ทำให้ประมาณได้ว่า เราคงถึงเกาะ 5 เอาราวๆสิบโมงกว่า แต่ช่างเครื่องที่ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมง ก็หาท่อพลาสติคมาใส่แทนชั่วคราว พวกเราจึงถึงเกาะ 5 เอาตอน 9 โมง
เมื่อทุกคนตื่นนอนและทำธุระกันเสร็จสิ้นแล้ว คุณแม่สายชลก็เริ่มบรรยายสรุปถึงภารกิจหลักของพวกเราในทริปนี้ คือ
1. ตรวจเยี่ยมหอยมือเสือที่เกาะ 5
2. ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ที่ Mr.Can จัดมาให้เพียงอย่างเดียวในครั้งนี้ คือ ม้าน้ำ
3. ตรวจเยี่ยมหอยมือเสือที่เกาะสุรินทร์ และ
4. เก็บขยะ / ตัดเศษอวน ในทุกจุดที่พบเห็น
ผมก็จะขอสรุปและโพสต์เฉพาะภาพที่เกี่ยวข้องกับภารกิจหลักของเราเท่านั้น สำหรับภาพการดำน้ำในจุดอื่นๆ ผมขอยกไปโพสต์ในห้องเรื่องเล่าชาวทะเลในโอกาสต่อไปครับ
ด้านตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะ 5 นี้ ไม่ได้มีเฉพาะปะการังแหลกๆบนพื้นทรายเหมือนกับจุดที่เราได้ปล่อยหอยมือเสือไว้เท่านั้น
มุุมที่สวยๆงามๆหลากสีสันจากปะการังอ่อนก็มีให้เห็นได้เช่นกัน เพียงแต่อยู่ในระดับที่ลึกกว่าบริเวณที่ปล่อยหอยมือเสือลงไปอีกเล็กน้อย
ปลาที่แหวกว่ายทำมาหารับประทานอยู่แถวนั้น ก็มีอยู่มากมายหลายชนิดเช่นกัน
เมื่อเริ่มเข้าไปในบริเวณที่เราเคยปล่อยหอยมือเสือไว้ .... ช็อคซีเนม่าก็เริ่มขึ้น
เท่าที่สายตามองเห็น .... เปลือกเปล่าๆของหอยมือเสือกระจัดกระจายไปทั่ว เรี่ยวแรงของพวกเราเริ่มน้อยลงจนแทบไม่อยากเคลื่อนที่
อะไรกัน หอยตั้ง 400 ตัว ทำไมเหลือแต่เปลือกแค่ไม่กี่สิบชิ้นเอง ....
หอยมือเสือที่มีพ่อแม่อุปถัมภ์ และมีการตอกเหล็กติด Tag ไว้คู่กับตัวหอย ...
บ้างก็เหลือแต่เพียงหลัก ที่ดีหน่อยก็ยังมี Tag ที่อ่านอะไรไม่ออกแล้วติดอยู่ด้วย
.... แล้วตัวหอยหายไปไหน !!!!!!!!!
พอว่ายเลยขึ้นทิศเหนือไปอีกหน่อย ผมเริ่มเห็นหอยมือเสือเป็นๆที่ยังมีเนื้อเต็มฝาด้านในสักตัวสองตัว จึงทำให้ใจชื้นน้ำตาริ้นขึ้นมาบ้างด้วยความดีใจ
BlackSea
25-01-2010, 21:49
ติดตามอ่านอยู่ครับ พี่จ๋อม ... แล้วเจ้าหอยหายไปไหน ?
แต่กลุ่มที่มีน้องป้ากบเป็นลีดเดอร์ ว่ายเลยขึ้นเหนือไปอีก พบชุมชนหอยมือเสือที่ยังมีชีวิต อยู่ดีมีสุข จำนวนมาก นับคร่าวๆได้ประมาณ 40 - 50 ตัว คิดเป็นประมาณ 10% ขึ้นไป ของหอยมือเสือที่เราได้ปล่อยทั้งหมด
ที่น่าตื่นเต้นไปกว่านั้นคือ หอยกลุ่มนี้หลายตัวเป็นหอยที่มีพ่อแม่อุปถัมภ์ ทราบได้จาก Tag ที่มาเคลือบติดอยู่ที่เปลือกของหอยพวกนี้
ทราบจากแม่หอยว่า หอยมือเสือก็เป็นสัตว์สังคม สามารถเคลื่อนย้ายตัวเองเข้ามารวมกลุ่มกับเพื่อนได้ .... นี่พวกเธอเล่นวิ่งหนีจากหลัก เพื่อมารวมกลุ่มกับเพื่อนพ้องน้องพี่ แต่ยังดีที่เอา Tag ติดมากับตัวตลอดเวลา อย่างน้อยก็แสดงตัวได้ว่าไม่ใช่หอยเถื่อน
ที่น่าตื่นเต้นหนักขึ้นไปอีก เมื่อได้พบหอยมือเสือตัวเล็กจิ๋ว ดูจากในภาพ ขนาดความยาวประมาณ 8 ซม. ที่ไม่แน่ใจว่า เกิดตามธรรมชาติ หรือ เป็นหลานหอยของพวกเรา
อากาศเริ่มใกล้จะหมดกัน พวกเราจึงทะยอยกันขึ้นสู่ผิวน้ำด้วยการเกาะเชือกทุ่นที่บัดนี้ไม่มีทุ่นผูกอยู่ด้านบนแล้ว
ข้างเชือกทุ่นเส้นนี้ มีปะการังโต๊ะที่พิเรนทร์ไปงอกอยู่บนปลายด้านบนของยอดหิน .... ก็ได้แต่ภาวนาว่า ขออย่าให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯเอาทุ่นมาผูกที่ด้านบนอีกเลย ไม่อย่างนั้น ปะการังโต๊ะกอนี้คงอายุสั้นเป็นแน่
หลังจากนั้น พวกเราก็ขึ้นเรือเพื่อรับประทานอาหารเช้า และรีบยกพลขึ้นบกที่เกาะ 4 เพื่อไปพบคุณไสว เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เนื่องจากเลยเวลาที่นัดไว้มาพอสมควรแล้ว
จากการที่พบหอยมือเสือที่ยังมีชีวิตอยู่ถึง 40 - 50 ตัว นับว่ามีปริมาณที่น่าพอใจพอสมควรครับ ส่วนหอยที่เหลืออีก 300 กว่าตัวนั้น คงไปแล้วไปลับไม่กลับมา ซึ่งคาดว่า บางส่วนคงไปเฝ้าพระอินทร์ เนื่องจากอ่อนแอ ตายเองบ้าง ถูกเต่ากินบ้าง คนกินบ้าง เดินไปอยู่ในตู้ปลาบ้าง ฯลฯ อะไรทำนองนี้ครับ
marine_wi
26-01-2010, 02:08
ติดตามรับชมอยู่ค่า สวยงามจริงๆค่ะ
ตุ๊กแกผา
26-01-2010, 09:19
มาผูกเปลรอชมคร๊าบบบบบบ
เมื่อไหร่น๊าาาาาา......จะถึงตอนให้อาหารปลา.......shotพิเศษ อิอิ
t_t
หอยไปเฝ้าพระอินทร์เยอะจัง แต่ก็ยังดีที่เหลือรอดบ้าง
ภาวนาให้อยู่กันต่อไปเรื่อยๆ ออกลูกหลาน อย่าต้องโดนอะไรๆ จากมนุษย์นะจ๊ะ
ลืมบอกไปครับ ว่าเที่ยวนี้ ต้องอาศัยรูปของสมาชิกท่านอื่นด้วย เพราะสองสายต้องอยู่ประจำกลุ่ม จึงไม่มีโอกาสไปเก็บภาพกลุ่มอื่นๆได้ทั่วถึง
ภาพของใคร จะมีชื่อบอกไว้ใต้ภาพด้านล่างด้วยครับ ... ขอขอบคุณ
ภารกิจที่สอง คือ การปล่อยม้าน้ำ .....
ต้องขอขอบคุณน้องตั้ว แห่งคลองวาฬ ที่คุมลูกทีมไปขนม้าน้ำจากกระบี่ มาส่งให้ที่ท่าเรือ
พอม้าน้ำขึ้นเรือ ก็เข้าที่พักเช่นเดียวกับพวกเรา
หลังอาหารเช้า พวกเรารีบขึ้นเกาะ 4 เพื่อไปพบคุณไสว ที่คอยเราอยู่ตั้งแต่ 10 โมง
แล้วพิธีส่งมอบม้าน้ำก็มีขึ้นอย่างรวบรัด ไม่เสียเวลามากตามสไตล์ของ sos (เดี๋ยวนี้ ใช้คำ sos ไม่ค่อยสนิทใจเลย หลังจากที่มีหน่วยงานอื่นเอาไปใช้ซ้ำอย่างไม่ละอายใจ แต่ก็คงจะใช้เรียกแทนกลุ่มสมาชิกของเราต่อไป เพราะเราใช้กันมาก่อน และใช้กันมานานแสนนานแล้วด้วย)
น้องจี๊ดเป็นตัวแทนกรมประมง มอบพันธุ์ม้าน้ำให้แก่ คุณไสว ตัวแทนกรมอุทยานฯ และคุณไสว ส่งมอบม้าน้ำต่อให้กับคุณสายชล ตัวแทนสมาชิก sos เพื่อนำไปปล่อยลงสู่ทะเล
ใกล้เที่ยงเข้าไปทุกที กลัวม้าน้ำจะเดี้ยงเสียก่อนลงน้ำ พิธีของเราจึงรวบรัด กล่าวกันแบบสั้นๆ แล้วรีบลงเรือ ไปจัดสรรม้าน้ำลงแก้วพลาสติค ให้พร้อมสำหรับการนำลงสู้ใต้ทะเล เพื่อปล่อยให้ใช้ชีวิตตามธรรมชาติต่อไป
การนำลงน้ำก็ไม่ได้ยากอะไร บรรจุน้ำให้เต็มแก้ว วางเรียงใส่กะละมัง แล้วก็ยกทั้งกะละมังลงใส่กระเป๋าตะข่าย อุ้มลงน้ำไป (ความคิดใครนะนี่)
บรรยายกาศตอนลำเลียงและตอนแจกจ่าย ดูชุลมุนใช้ได้เลยนะครับ
น้องหนุ่มบันทึกภาพนี้ไว้ ก่อนปล่อยม้าน้ำออกสู่ทะเล ...
ภาพนี้ให้อารมณ์และความรู้สึกดีจังครับ ....
ที่ West of Eden มีกัลปังหา และปะการังอ่อนหลายชนิด สมาชิกของเราก็แยกย้ายกันไปปล่อยม้าน้ำตามมุมที่ชอบของแต่ละคน
มัวแต่เก๊กสวย .... รู้มั๊ยจ๊ะ ว่า ม้าน้ำบินหนีไปแล้ววววว
ยังคงหามุมสวยกันต่อไป ....
ปล่อย และปล่อย และปล่อย และปล่อย จนหมด 140 ตัว
สมาชิกที่เคยไปตรังด้วยกัน จะพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า ม้าน้ำชุดนี้ไม่ว่านอนสอนง่ายเหมือนชุดที่ปล่อยที่ตรัง ...
ที่ตรัง .... ปล่อยไว้ตรงไหน ก็จะม้วนหางเกาะแน่นอยู่กับที่ แต่ชุดสิมิลันนี่ นอกจากจะไม่ค่อยยอมม้วนหางเกาะแล้ว ยังพยายามจะว่ายหนีขึ้นผิวน้ำกันมากมายหลายตัว จึงทำให้ต้องใช้เวลานานสำหรับการปล่อยม้าน้ำครั้งนี้
กัลปังหาพันธุ์ไหนก็ได้ ถ้าเธอพอใจ ก็จะม้วนหางเกาะ
เกาะกัลปังหาสีเหลืองไปบ้างแล้ว ลองนำมาให้เกาะกับกัลปังหาสีแดงบ้าง เพื่อสมานฉันท์
หลายตัว ชอบว่ายน้ำออกนอกกอกัลปังหา ทำให้หลายคนเกรงจะกลายเป็นอาหารปลาไปเสีย จึงต้องใช้นิ้วคีบ เพื่อนำกลับมายังกอกัลปังหา
ผลสุดท้ายก็สร้างความคุ้นเคยและยอมเกาะอยู่อย่างมีความสุข
หากมีโอกาสได้กลับไปดำน้ำที่ West of Eden กันอีก ลองสอดส่องตามกอกัลปังหากันดู อาจจะได้พบกับม้าน้ำที่ตัวโตขึ้น และเปลี่ยนสีเป็นน้ำตาล หรือเหลืองกันบ้าง และอาจจะกลายเป็นจุดชมม้าน้ำที่พบได้ง่ายกว่าที่ริเชลิวก็ได้ ใครจะไปรู้ ....
ในที่สุด ภารกิจที่สอง ก็สำเร็จเสร็จสิ้นไปในไดฟ์ที่ 2 ของวันแรก ....
แค่เริ่มก็สนุกสนานแล้ว เข้ามาติดตามรับชมด้วยครับผม ..
ตุ๊กแกผา
26-01-2010, 12:54
อิอิ....แต่ยังไงๆที่นี่ก็มีสถานที่ให้น้องม้าน้ำที่พวกเราเพียรพยายามหาให้สุดๆมากมาย
ประเภทว่าไม่พอใจกิ่งนี้ก็ย้ายไปลองกิ่งโน้นๆๆๆๆได้มากมาย
อย่างพี่Octopus ของพวกเรา.....ที่คราวนี้นอกจากจะเป็นsafetyให้กลุ่ม1แล้ว ยังเป็นพี่เลี้ยงหาที่อยู่ให้น้องม้าน้ำตัวใหญ๊ใหญ่....แต่เลื๊อกเลือกที่อยู่......พี่เขาต้องว่ายๆวนๆไปวนๆมาไม่ต่ำกว่า 20 ที่กว่าน้องม้าน้ำตัวดำจะยอมม้วนหางซ๊ะที...จนbuddy เกือบจะหลงกันซ๊ะแล้ว อิอิ
น้องม้าล๊อตนี้พยศจริง ๆ เลยค่ะ.. ไม่ยอมเกาะจริง ๆ ดื้อสุด สุด.. แต่พอเกาะเป็นแถว ๆ แล้วดูเป็นระเบียบเชียวค่ะ
Scubalism
26-01-2010, 17:53
:):):) yeah...yeah
สนุกมากครับทริปนี้ กับ SOS
น้องหนุ่ยผู้ค้นพบม้าน้ำสีเหลืองให้กลุ่มหนึ่งดูกัน(ความจริงจะหาจิ้มฟันกันแต่ได้ม้าน้ำ)
Scubalism
26-01-2010, 21:47
น้องหนุ่ยผู้ค้นพบม้าน้ำสีเหลืองให้กลุ่มหนึ่งดูกัน(ความจริงจะหาจิ้มฟันกันแต่ได้ม้าน้ำ)
ฟลุ๊ค หน่ะครับพี่ tik อิอิ อีกนานเลยครับกว่าจะได้ดำน้ำด้วยกันอีก ไว้เจอกันทริปชุมพรนะครับ จะตั้งหน้าตั้งตารอเลยครับ:)
ploybabe
26-01-2010, 23:51
ม้วนหางสิลูกกกกกกกก
โอ๊ย อยากไปสิมิลันจังเลยค่ะ
มารออ่านต่อ = อ่านว่า มา-รอ-อ่านต่อ
มิฉะนั้นอ่านไวๆ อาจพลาดเป็นอย่างอื่น
มารออ่านต่อ
อย่ากดดันกันสิครับ .... จริงๆ เหลืออีกนิดเดียวก็จะจบการสรุปแล้ว แต่ต้องบิ๊ลท์อารมณ์กันสักเล็กน้อย
ภารกิจลำดับที่ 3 คือ การตรวจเช็คหอยมือเสือที่อ่าวช่องขาด อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์
ปล่อยไว้ตั้งแต่ปี 49 และกลับมาตรวจทุกปีๆละครั้ง .... ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงทุกครั้ง
โดยในครั้งสุดท้ายที่มา .... หาหอยมือเสือที่เราปล่อยไม่พบเลย ส่วนหอยดั้งเติมตัวใหญ่ๆที่อยู่ตามธรรมชาติเป็นสิบๆตัว ก็หนีไปเฝ้าพระอินทร์กันหลายตัวจนน่าตกใจ สภาพน้ำขุ่น ตะกอนลอยคลุ้งไปทั่วจนน่าเป็นห่วงว่าแดดจะลงมาไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตของหอยมือเสือ น้ำ Surge โยนไปมาค่อนข้างแรง แนวปะการังมีสภาพเป็น Sandslide เลื่อนไหลลงไปยังร่องด้านล่าง
มาปีนี้ สภาพน้ำดูดีขึ้น ไม่มี Surge ตะกอนน้อยลง แต่ .... เปลือกหอยที่ไร้เนื้อหอยเยอะมาก ทั้งตัวใหญ่และตัวเล็ก
หมายเหตุ : หอยมือเสือที่กล่าวถึง และที่เราตั้งเป้ามาตรวจคือ หอยมือเสือพันธุ์ Tridacna Squamosa นะครับ ไม่ใช่ Tridacna Maxima หรือพวกหอยฝังหิน
ขนาดน้องหนุ่ม ชายหนุ่มผู้เข้มแข็ง ยังอดสลดใจไม่ได้ไปกับภาพของหอยมือเสือเยาว์วัยที่เหลือเพียงเปลือกที่อยู่เบื้องหน้า
นอกจากสภาพน้ำจะต่างไปอย่างสิ้นเชิงกับช่วงที่เรามาเมื่อปีที่แล้ว หอยมือเสือตัวยักษ์ที่เคยหาแทบไม่พบเลย มาปีนี้ กลับออกมายืนเด่นเป็นสง่ากันมากมายหลายตัว
จะเพราะเหตุอะไรก็ตาม ก็เป็นที่น่ายินดีอยู่ดี ที่ยังมีปริมาณหอยตามธรรมชาติอยู่รอดได้มากพอสมควร
นี่ก็ใช่ ..... นี่ก็ใช่ ..... และนี่ก็ใช่ .....
พวก Maxima เอง ก็ออกมาอวดโฉมกันมากมาย ทั้งตัวใหญ๋ ตัวเล็ก
ตามวิสัยของนักวิชาการ ข้อมูล ตัวเลข สถิติ เป็นเรื่องจำเป็น .... จึงต้องมีการวัดขนาดไว้เป็นข้อมูลด้วย
บริเวณที่เคยพบว่าเป็น Sandslide ลงไปเป็นหลุมลึกเมื่อปีก่อน มาครั้งนี้ บริเวณนั้น ได้กลายเป็นลานทรายโล่งๆไปแล้ว
แต่พวกเราไปพบ น้องหอยตัวใหญ่ ยืนโดดเดี่ยวอยู่กลางลานทราย (มาได้ยังไงไม่ทราบ ปีที่แล้วไม่มี) ด้วยเกรงว่าน้องจะไหลเลื่อนลงร่องน้ำไปพร้อมกับทราย พวกเราจึงช่วยกันหอบหิ้ว ย้ายเธอมาจัดวางไว้กับแนวหินและแนวปะการังให้เธอได้มีความมั่นคงในชีวิตเพิ่มขึ้น
ส่วนน้องหอยตัวนี้ ขนาดพอๆกับหอยที่เรานำมาปล่อย เธอถูกวางอยู่บนพื้นทรายเช่นกัน จึงต้องมีการย้ายที่เพื่อความปลอดภัยกันเล็กน้อย
สังเกตจาก Skirts ที่บานและคมรอบเปลือกของเธอ จึงทำให้คิดว่า เป็นหอยธรรมชาติ ไม่ใช่หอยจากบ่อเพาะเลี้ยง ที่น่าแปลกใจกว่านั้นคือ เปลือกและ Skirts ของเธอค่อนข้างจะขาวสะอาดเหมือนเพิ่งผ่านการขัดขี้ไคลมาไม่นานนัก
หอยมือเสือตัวนี้ เป็น Tridacna squamosa ขนาดเท่าๆกับกลุ่มที่เรานำมาปล่อยและเป็นเพียงตัวเดียวที่พบ ถ้าตัวนี้เป็นหอยตามธรรมชาติ ก็น่าจะพอสรุปได้ว่า หอยมือเสือที่เรานำมาปล่อยในปี 49 ได้ไปเฝ้าพระอินทร์ทั้งหมดแล้ว หรือ อาจจะมีบางส่วนหลบหนีไปเที่ยวสวนจตุจักรบ้างก็ได้
นอกจากหอยมือเสือแล้ว ยังได้พบปลาการ์ตูนส้มขาวจำนวนพอสมควร
น้องหนุ่มชี้เป้าให้ สำหรับสองภาพนี้ เป็น Pipefish ที่มีไข่ในท้อง และ Razorfish อีก 1 คู่
หอยนางรมหนาม ที่มีฟองน้ำสีส้มเคลือบเปลือกด้านนอกไว้
ปลาบู่ครับ แต่คงไม่ใช่ปลาบู่ทรายที่อยู่ร่วมรูกับกุ้งดีดขัน ...
ตัวนี้จะมีขนาดใหญ่พอๆกับปลาตีนที่คลองวาฬ และทำรูอยู่กับซากปะการัง ส่วนชื่ออย่างเป็นทางการคืออะไร รอไว้ว่างๆจะค้นมาบอกให้ครับ
แต่ภาพที่ผมชอบดูและอยากเห็นมากที่สุดคือ ภาพแบบนี้ครับ
กำเนิดใหม่ของยุวชนปะการัง ซึ่งก็ได้แต่หวังว่า ในวันข้างหน้า จะกลายเป็นแนวปะการังที่สมบูรณ์แข็งแรงเหมือนในอดีต และหวังว่าคงจะไม่มีอะไรไปทำลายให้พวกเขาต้องเสียอนาคตไปเสียก่อน
เช่นเดียวกับหอยมือเสือ Tridacna squamosa จิ๋วขนาดประมาณ 5 ซม.ตัวเดียวที่พบนี้ ก็หวังว่าคงจะอยู่รอดจนกลายเป็นหอยยักษ์ เหมือนบรรดาพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่มีให้เห็นอยู่ในบริเวณนี้
หลังเสร็จภารกิจดำน้ำตรวจหอยมือเสือ มีเรือของอุทยานฯจะมาเก็บเงิน แต่เราได้ยื่นหนังสืออนุญาตและยกเว้นค่าธรรมเนียมให้ดู จึงไม่ต้องเสียเงิน แต่ก็ต้องขึ้นเกาะ เพราะ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานฯ เขาอยากพบ
เมื่อได้พบผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานฯ สองสายจึงได้รายงานผลการสำรวจให้รับทราบไปด้วยวาจา และจับมาถ่ายรูปร่วมกันไว้เป็นหลักฐานกันลืม
ภารกิจสุดท้าย ที่สามารถปฏิบัติได้โดยไม่ต้องเลือกสถานที่คือ การเก็บขยะ และเศษซากอวน
แต่ .... ภาพที่มี คือ ที่เกาะบอน ครับ
ยอบรับจากใจจริงเลยว่า ขยันกันทุกคน เห็นขยะ เศษอวน เศษเชือกที่ไหนเป็นไม่ได้ พุ่งปรี่เข้าใส่แบบไม่ยั้ง จนบางชิ้นต้องยกมือผสมส่ายหัวเพื่อแตะเบรค เพราะมีอะไรหลายอย่างเกาะติดอยู่แล้ว
ภารกิจนี้ ไม่ทราบจะบรรยายอะไรมากมาย ขอสรุปเลยดีกว่า
ในการดำน้ำทำงานจำนวน 11 ไดฟ์ เราได้พบเศษขยะ และเศษอวน ในบริเวณเขตอุทยานทั้งสองแห่งเพียงเล็กน้อย ซึ่งมีรายละเอียดประเภทและน้ำหนักของขยะและเศษอวนดังนี้
1. เครื่องมือประมง : อวน, ตาข่าย, เอ็น, เม็ดตะกั่วถ่วงอวน ............... 33.5 กก.
2. แก้วและกระเบื้อง ประเภทขวดแก้ว ......................................... 4.0 กก.
3. พลาสติคและโฟม ...........................................................1.0 กก.
4. อื่นๆ ... กระป๋อง, ปี๊บ, Mask, ท่อ Snorkel, ฝาชักโครก, เข็มขัด ...... 5.0 กก.
จะผิดจะถูกประการใด ขอยกความดีความชอบและคำตำหนิติเตียนให้น้องตุ๊กแกผา หัวหน้าหน่วยก่อวินาศภัย ซึ่งเป็นผู้ติดตามและบันทึกข้อมูลการเก็บขยะครับ
ภารกิจทั้ง 4 วันสำเร็จลงได้อย่างราบรื่น ... SOS ต้องขอขอบคุณผู้มีอุปการคุณทั้งหลาย อันได้แก่ ....
1. ผอ. ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่ง กระบี่ , คุณสามารถ และทีมงานทุกท่าน ที่ได้มีส่วนร่วมในการจัดเตรียมม้าน้ำ และ ผอ. ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่ง ประจวบคีรีขันธ์ (แม่หอย) ที่ได้มอบหมายให้น้องรักษ์ และน้องจี๊ด มาร่วมปฏิบัติงานกับ SOS
2. กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช, หัวหน้าสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 5 (นครศรีธรรมราช), หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน และ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ที่อนุญาตให้พวกเราเข้าไปปฏิบัติงานในเขตอุทยานและอำนวยความสะดวกให้อย่างดี ตลอด 4 วัน
3. คุณเสรี ที่สนับสนุน โดยคิดค่าบริการในราคาพิเศษ และสต๊าฟเรือโชคศุลีที่ขยันขันแข็งทุกคน
4. สมาชิก SOS ทั้ง 25 ท่าน ที่ร่วมแรงร่วมใจ เสียสละแรงงาน และทรัพย์สิน ไปร่วมกันปฏิบัติงานจนบรรลุผลสำเร็จ ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ตอนที่ขออนุญาตเข้าไปทำกิจกรรมครั้งนี้ในเขตอุทยาน สองสายได้ทำหนังสือขออนุญาตทางกรมอุทยานฯ ผ่านทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 5 (นครศรีธรรมราช) ตามขั้นตอนของทางราชการ โดยได้จัดทำรายงานการปฏิบัติงานของ SOS ในเขตพื้นที่ของอุทยานทั้ง 2 แห่ง ตั้งแต่ปี 2549 - 2552 พร้อมภาพประกอบแนบไปด้วย และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สองสายได้สรุปรายงานผลการปฏิบัติงานครั้งนี้ พร้อมภาพประกอบ และส่งไปยังหัวหน้าสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 5 (นครศรีธรรมราช) และหัวหน้าอุทยานทั้ง 2 แห่ง เพื่อรับทราบแล้วเช่นกัน
ภาพที่น้องๆหลายท่านได้มอบไฟล์มาให้สองสายไว้นั้น สองสายได้ใช้ประกอบรายงานฯให้กับกรมอุทยานฯไปบางส่วน โดยได้ทำ Watermark ระบุชื่อ www.saveoursea.net ไว้บนภาพทุกภาพ และบางส่วน นำมาใช้ประกอบการสรุปในกระทู้นี้ และนอกจากนี้ จะ Copy ภาพทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยม้าน้ำ ส่งให้ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่ง กระบี่ เป็นลำดับต่อไปด้วย
สรุปค่าใช้จ่ายนิดนึง......ครั้งนี้ หลังจากที่มีการคืนเงินสมาชิกผู้ร่วมทริปไปบางส่วนแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆเพิ่มเติมจากที่กะไว้คือ ค่าขนม ของกิน ที่เพื่อนบางคนซื้อหามาให้เรากินกันทั้งลำ และค่าอาหาร + ค่าทิปเพิ่มเติม จากการที่คนของเราเกิน 25 คน และได้ใช้งานกัปตันพร้อมลูกเรืออย่างหนัก (เฉพาะทริปนี้) จึงทำให้เงินส่วนเกินที่เหลืออยู่ ไม่มีเหลืออยู่อีกต่อไป .... แปลง่ายๆคือ หมดครับ ไม่มีเหลือกลับเข้าบัญชี
จบแล้วครับ .... พบกันในกิจกรรมต่อไป
Scubalism
27-01-2010, 12:19
ชื่นชมการทำงานของ sos ครับ อยากไปช่วยอีก บ่อยๆ
ตุ๊กแกผา
27-01-2010, 12:27
แล้วปลากบทั้ง8 และ ตอนให้อาหารปลาอยู่ตรงไหนแล้วอ๊ะค่ะพี่จ๋อมขา.....อยากดูๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เด็กๆๆๆๆๆ มาช่วยกันbuild อารมณ์ท่านผู้นำต่ออีกหน่อยเร๊วววววววว 5555555555
ก็รอไปดูในห้องเรื่องเล่าชาวทะเลซีครับ ...
*Cookies*
27-01-2010, 12:51
ขอบคุณค่ะ....
เบลูก้าน้อย
27-01-2010, 13:16
ขอบคุณ sos และพี่สองสาย ที่ทำให้พวกเราได้ทำอะไรดีๆแบบนี้อยู่เสมอๆค่ะ :)
chickykai
27-01-2010, 14:36
ขอบคุณพี่สองสายและสมาชิกทุกคนด้วยค่ะ สนุกสนาน อิ่ม อร่อย เหมือนเดิม :D
ป.ล. กลับมาได้เห็นรูปจากกองหินริเชลิวจากเวบ SSD ปรากฎว่ามีทีมเก็บอวนคลุมกองริเชลิวไปก่อนเราไปถึงในวันสุดท้ายค่ะ ภาพจากกระทู้นี้ค่ะ เครดิตภาพ จากคุณอีกาคาบข่าวค่ะ
จากภาพเห็นแล้วตกตะลึงตึ่งตึ๊ง ผืนโต คลุมสองยอด สามยอดกันเลยทีเดียว ถ้าคลื่นไม่แรงจนเราสามารถไปริเชลิวได้ตามกำหนด น่าจะเก็บกันสนุกเลยค่ะ
http://www.siamscubadiving.com/board/view.php?tid=3610
อู้วววววววว ชอบชอบ.. เมื่อไหร่จะมีโอกาสหนีจากเซี่ยงไฮ้ไปทำงานกับ sos อีกน้าาาา ขอบคุณพี่สองสายที่เป็นธุระจัดทริปรักษ์ทะเลอย่างนี้ตลอดมาค่ะ... _ /||\ _ ขอบคุณค่ะ
เบอร์ดี้เห็นลอบขนาดใหญ่กับลุงไมโล หลังจากปล่อยม้าน้ำได้ไม่นาน ซึ่งอยู่ลึกพอสมควร และดูเหมือนมีปลาติดอยู่ แต่ลุงไมโลขยับเข้าไปจะสำรวจ ซึ่งเบอร์ดี้ก็พร้อมตามลงไปช่วย (ยุ่ง) แต่ปรากฎว่ามีคนจัดการเลาะทางเข้าออกให้เข้าปลาน้อยเรียบร้อยแล้ว.. ลอบดังกล่าวก็เลยกลายเป็นสวนสนุกของเจ้าสัตว์น้ำไป.. ลอดเข้าลอดออกอย่างเมามันส์
แต่ก็มาบ่นกันอีกแหละค่ะว่า ในเขตอุทยานแท้ ๆ น้อ.. ทำไม๊ ยังมีมาได้เนี่ย.. เฮ้อ
เห็นภาพที่เจ้ากุ๊กไก่นำมาอัพเดทเรื่องอวนคลุมยอดกองริเชลิวจาก SSD แล้ว เฮ้อ.... เกิดความเซ็งในอารมณ์อย่างแรง.. น้องกุ้งตัวตลกบนยอดกองคงรอดมาได้อย่างหวุดหวิด...เนอะ..
blue day
28-01-2010, 12:01
http://image.ohozaa.com/ix/emoticon_014_soldier.gif (http://image.ohozaa.com/show.php?id=d7715d38b4501fa664aaa3e68b7a2912)
รักทะเล....รักษ์ทะเล....แค่นี้ก็พอ...
เปรียบเทียบ ภาพสองภาพ แบบ Photo Hunt
http://www.saveoursea.net/forums/attachment.php?attachmentid=5627&stc=1&thumb=1&d=1264564336
http://www.saveoursea.net/forums/attachment.php?attachmentid=5636&stc=1&thumb=1&d=1264568389
เปรียบเทียบกันดูแล้ว....ที่สุรินทร์มีธงชาติไทยมากกว่า แถมมีธงเหลืองอีกด้วย แต่ที่สิมิลันชาว SOS มากกว่า และดูมีชีวิตชีวามากกว่า (เพราะเพิ่งเป็นวันแรกที่เพิ่งไปถึง)
แต่ทั้งสองที่....คุณสายน้ำยิ้มได้กว้างขวาง เห็นฟันขาวพอๆกัน (ทั้งๆที่ได้ให้อาหารปลามาหลายรอบแล้ว กว่าจะถึงเกาะสุรินทร์)....:p
พี่น้องขา
มีใครเห็นตัวอะไรที่อยู่ในภาพ #11 ภาพล่างไหมคะ ปลาอะไรน่ะ
http://www.saveoursea.net/forums/attachment.php?attachmentid=5550&d=1264431108
ถอนใจเล็กน้อยกับเรื่องหอยมือเสือที่เหลือแต่หลักผูกป้าย..
แต่สำหรับบรรดาหอยที่มีป้ายติดที่เปลือกนั้น น่าจะเป็นอีกชุดหนึ่งค่ะ เป็นวิธีผูกป้ายสไตล์ ดร.ก้องเกียรติและทีมงานศูนย์ชีวฯ ภูเก็ต ซึ่งเราได้ทดลองติดป้ายแบบนี้ด้วยเช่นกันค่ะ เพื่อแก้ปัญหาหอยเดินหนีป้ายไงคะ แต่แบบนี้ต้องปฏิบัติการเจาะเปลือกหอยและผูกป้ายให้เรียบร้อยก่อนนำลงทะเล ซึ่งต้องมีพื้นที่ปฏิบัติงานค่อนข้างกว้าง และมีถังไว้พักหอยระหว่างทำการติดเบอร์
เป็นลูกปลา Rock Mover Wrass ค่ะ น้องแม่หอย ภาพนี้น้องหมอเมธจับภาพไว้ได้ แต่พี่สองสายไม่ได้เห็น เพราะมัวแต่วนเวียนหาอีกด้านหนึ่งอยู่
หอยที่น้องก้องติด Tag ไว้นั้น แสดงว่าเป็นหอยที่เราไม่ได้นำไปปล่อยน่ะสิคะ................:confused:
น้องแม่หอยพอจะทราบไหมคะว่าน้องก้องนำไปปล่อยไว้เมื่อไรคะ จะได้รายงานทางกรมอุทยานฯ ไปใหม่ว่าเป็นหอยที่เราไม่ได้ปล่อย ส่วนของเราที่ปล่อย น่าจะเหลือสองสามตัวเท่านั้นค่ะ
angel frog
30-01-2010, 12:12
รายงานเพิ่มเติมว่า หอยที่มีtagติดอยู่ที่ตัวนั้น เป็นการติดอย่างที่แม่หอยว่าไว้จริงๆ เพราะติดแนวขวางกับเปลือกหอย และ ยึดติดแน่นมาก ไม่มีทางหลุดเลย พยายามขูดดู เพื่ออ่านตัวอะไรก็ตามที่จะสามารถอ่านได้ ก็ไม่สามารถค่ะ เพราะเหมือนมันเก่านานมากแล้ว มีบางรูปที่ใช้เหล็กตะขอ (ที่หายไปแล้ว) วางคู่ เพื่อวัดขนาด ให้หมอเมธถ่ายไว้ด้วยค่ะ
บริเวณที่พบหอยมาก คือ บริเวณที่เราเคยเอาไปปล่อยเมื่อปีโน้นจริงๆ ห่างจากทุ่น ในรัศมี 20 เมตร ความลึกอยู่ที่ 30-40 ฟุต หอยของพวกเรานั้น บางทีเจอแต่เหล็กติดtag แต่หอยเดินไป ที่ตายมักจะตายตอนปล่อยใหม่นะค่ะ เพราะขนาดของซากเปลือกเท่าเดิม ส่วนที่เจริญเติบโตขึ้น ก็พบมากๆ ถ้าจะให้นับกันจริงๆ คงต้องดำหน้ากระดาน คะเนจากสายตาแล้ว น่าจะ เกือบ 100 ตัวละมังค่ะ (ไม่ได้โม้) ส่วนที่เจอ"หอยติดtagที่ตัว"นั้น จะอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน แต่ถัดมาอีกหน่อย .....รึหอยเขาจะเดินมาอยู่ด้วยกัน บางทีเขาก็มารวมกันเป็นกลุ่ม 4 ตัว ก็มี (ขนาดตัวละ ฟุตกว่าๆ) เหตุที่มีรูปหอยติดtagเยอะ เพราะ แปลกใจว่า ไม่ใช่ที่เราปล่อยไว้นี่นา ...แล้วของใครละเนี๊ยะ หนูก็เลยให้น้องๆถ่ายไว้เยอะหน่อยค่ะ
หลังจากแจกยารักษาอัลไซเมอร์ให้บริโภคกันถ้วนทั่วแล้ว สติก็กลับคืนมาค่ะ..
สรุปข้อมูลดังนี้คือ หอยที่ผูกป้ายติดแนบตัวนั้น เป็นชุดที่เราชาว SOS SaveOurSea.net (ต้องย้ำๆๆๆหน่อยว่าเป็นพวกเรากลุ่มนี้ ไม่ใช่พวก SOS หน่วยพิทักษ์ทะเลอะไรนั่น) ได้นำไปปล่อยกันเมื่อเดือนมกราคม 2552 คือในปีที่แล้ว จำนวน 100 ตัวค่ะ
แหะ แหะ.. จริงๆ แล้วโทรศัพท์ถามน้องก้องฯ น้องมาร์ค ศูนย์ชีวฯ และร่วมด้วยช่วยตั้งสติคิดกับแม่เล็กน้อยกัญจนี
การปล่อยหอยมือเสือคราวนั้น เราทำการติดป้ายหอยทุกตัวเตรียมไว้ก่อนนำไปปล่อย โดยปฏิบัติการเจาะเปลือกผูกป้ายแล้วพักไว้ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งพังงา .. ถึงเวลาก็ลำเลียงลงเรือตรวจประมงทะเลลำน้อยๆ บึ่งเอาไปให้พี่น้องปล่อยกันที่สิมิลัน ใครไปร่วมปล่อยมั่งก็จำไม่ค่อยได้เสียแล้วค่ะ ที่แน่ๆ มีแม่หอยไปด้วย แต่ทีแรกมึน คิดไม่ออกซะนี่.. อิอิ
ตุ๊กแกผา
22-02-2010, 15:51
เหอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆอัลไซเมอร์??????????
vBulletin® v3.8.10, Copyright ©2000-2024, vBulletin Solutions, Inc.