เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 21-03-2025
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก สำนักข่าวไทย


ปลาแห่งปีของนิวซีแลนด์ที่น่าเกลียดที่สุดในโลก



เวลลิงตัน 20 มี.ค. ? ปลาบล็อบฟิช (Blobfish) ที่ถูกขนานนามว่าเป็นสัตว์ที่มีหน้าตาน่าเกลียดที่สุดในโลก สร้างเซอร์ไพรส์คว้ารางวัล ?ปลาแห่งปี 2025? จากองค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของนิวซีแลนด์

การแข่งขันค้นหาปลาแห่งปีของนิวซีแลนด์ประจำปีนี้ จัดโดยมูลนิธิ เมาเทน ทู ซี คอนเซอร์เวชั่น ทรัสต์ (Mountain to Sea Conservation Trust) มีเป้าหมายเพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับสัตว์น้ำจืดและสัตว์ทะเลของนิวซีแลนด์ ซึ่งปีนี้ ปลาบล็อบฟิช (Blobfish) สามารถคว้าตำแหน่งอันทรงเกียรติไปได้ ด้วยคะแนนโหวตกว่า 1,300 คะแนนจากทั้งหมดกว่า 5,500 คะแนน เป็นชัยชนะเหนือความคาดหมาย เพราะก่อนหน้านี้ ปลาบล็อบฟิชเคยโด่งดังในฐานะสัตว์ที่มีหน้าตาน่าเกลียดที่สุดในโลก จนถึงกับได้เป็นมาสคอตของสมาคมอนุรักษ์สัตว์น่าเกลียด (Ugly Animal Preservation Society) เมื่อปี 2013

ปลาบล็อบฟิชอาศัยอยู่ในมหาสมุทรที่ระดับความลึก 600-1,200 เมตร สามารถเติบโตได้ยาวประมาณ 30 เซนติเมตร กินหอย ปู กุ้ง กุ้งมังกร และเม่นทะเลเป็นอาหาร พบมากบริเวณชายฝั่งของ ออสเตรเลียและเกาะแทสมาเนีย มีลักษณะพิเศษคือไม่มีก้างแข็งและไม่มีเกล็ด แต่มีลำตัวที่นิ่มและหนังที่หย่อนคล้อย

ถึงแม้รูปร่างภายนอกของมันจะดูแปลกตา แต่ในสภาพแวดล้อมใต้น้ำลึก ปลาบล็อบฟิชจะมีรูปร่างปกติคล้ายปลาทั่วไป เนื่องจากแรงดันน้ำสูงช่วยคงรูปทรงของมันเอาไว้ แต่เมื่อถูกจับขึ้นมาเหนือผิวน้ำ แรงดันที่ลดลงทำให้ร่างของมันเปลี่ยนรูป กลายเป็นเนื้อเยลลี่หยุ่นๆ หยึยๆ เป็นภาพลักษณ์ติดตาที่ทำให้มันได้รับฉายาว่าเป็นสัตว์ที่น่าเกลียดที่สุดในโลก

อย่างไรก็ดี ทุกวันนี้ ปลาบล็อบฟิช ถือเป็นสัตว์ที่มีความเปราะบาง เนื่องจากถูกคุกคามจากการทำประมงลากอวนใต้ทะเลลึก


https://tna.mcot.net/world-1504048

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 21-03-2025
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก SpringNews


WMO เผยอุณหภูมิโลกร้อนทุบสถิติในปี 2024 เร่งการละลายของน้ำแข็ง

WMO เผยว่า อุณหภูมิโลกที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2024 จากระดับก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มขึ้น ทำให้ธารน้ำแข็งและน้ำแข็งทะเลละลายเร็วขึ้น ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูง



องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) หน่วยงานอุตุนิยมวิทยาขององค์การสหประชาชาติ เปิดเผยว่า ระดับก๊าซเรือนกระจกที่สูงเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้อุณหภูมิโลกพุ่งทุบสถิติในปี 2024 รวมถึง เป็นปัจจัยที่ทำให้ธารน้ำแข็งและน้ำแข็งทะเลทั่วโลกละลายเร็วขึ้น ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นและอุณหภูมิโลกจ่อทะลุระดับ 1.5 องศาเซลเซียส เกณฑ์อุณหภูมิโลกที่สำคัญมากขึ้น

รายงานสภาพภูมิอากาศประจำปีของ WMO ระบุว่า อุณหภูมิเฉลี่ยต่อปีในปี 2024 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 1.55 องศาเซลเซียส (2.79 องศาฟาเรนไฮต์) สูงกว่าระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้นจากสถิติเดิมในปี 2023 ถึง 0.1 องศาเซลเซียส แม้ประเทศต่าง ๆ จะลงนามในข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ปี 2015 ว่าจะพยายามจำกัดอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกไม่ให้สูงเกินกว่า 1.5 องศาเซลเซียส เหนือระดับเฉลี่ยของอุณหภูมิในช่วงก่อนการพัฒนาอุตสาหกรรม ในช่วงปี 1850 ? 1900 ก็ตาม

ขณะที่ WMO ระบุว่า จากการประมาณการเบื้องต้นพบว่า ค่าเฉลี่ยการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิระยะยาวในปัจจุบันอยู่ที่ระหว่าง 1.34 องศาเซลเซียสถึง 1.41 องศาเซลเซียส ซึ่งใกล้เคียงกับเกณฑ์ที่กำหนดในข้อตกลงปารีส แต่ยังไม่เกินเกณฑ์ดังกล่าว

"จอห์น เคนเนดี" (John Kennedy) ผู้ประสานงานด้านวิทยาศาสตร์ของ WMO และผู้เขียนหลักของรายงาน ระบุว่า สิ่งหนึ่งที่ต้องชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนก็คือการที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มสูงกว่า 1.5 องศาเซลเซียสเพียงปีเดียว ไม่ได้หมายความว่าระดับอุณหภูมิที่กำหนดในข้อตกลงปารีสถูกละเมิดอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด

รายงานยังระบุด้วยว่า ปัจจัยอื่น ๆ อาจมีส่วนทำให้อุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา รวมถึง การเปลี่ยนแปลงของวัฏจักรสุริยะ การปะทุของภูเขาไฟขนาดใหญ่และการลดลงของ "แอโรซอล" อนุภาคหรือละอองของเหลวขนาดเล็กที่แขวนลอยอยู่ในอากาศ ซึ่งช่วยลดความร้อนและทำให้โลกเย็นลง

แม้ว่าอุณหภูมิในบางภูมิภาคจะลดลง แต่สภาพอากาศที่รุนแรงสุดขั้วได้สร้างความหายนะไปทั่วโลก โดยภัยแล้งได้ก่อให้เกิดปัญหาการขาดแคลนอาหาร น้ำท่วม และเหตุไฟป่าที่ส่งผลทำให้ผู้คนกว่า 800,000 คน ต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัย ซึ่งถือเป็นตัวเลขสูงสุด นับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกข้อมูลในปี 2008 ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ อุณหภูมิผิวน้ำของมหาสมุทรยังสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และอัตราการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิในมหาสมุทรก็พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึง ปัจจัยความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในมหาสมุทรที่เพิ่มขึ้น ยังทำให้ระดับความเป็นกรดของมหาสมุทรเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย

ขณะเดียวกัน ธารน้ำแข็งและน้ำแข็งทะเลยังคงละลายอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ โดยข้อมูลจาก WMO ระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2015 ถึงปี 2024 ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นเฉลี่ย 4.7 มิลลิเมตรต่อปี เมื่ออเทียบกับ 2.1 มิลลิเมตรในปี 1993 ถึงปี 2022

"เคนเนดี" ยังเตือนถึงผลกระทบระยะยาวจากการละลายของน้ำแข็งในภูมิภาคอาร์กติกและแอนตาร์กติก โดยระบุว่า การเปลี่ยนแปลงในภูมิภาคเหล่านั้นอาจส่งผลกระทบต่อระบบหมุนเวียนของมหาสมุทร ซึ่งส่งผลต่อสภาพอากาศทั่วโลก และสิ่งที่เกิดขึ้นในขั้วโลกไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่ที่ขั้วโลกเท่านั้น

ที่มา: Reuters


https://www.springnews.co.th/keep-th...-change/856694
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 00:02


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger