เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

 
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
Prev คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป Next
  #30  
เก่า 04-11-2011
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default


20 บทเรียนรู้ทัน "ภัยพิบัติ" ในญี่ปุ่น สู้ "น้ำท่วม" ในประเทศไทย


นับแต่มหันภัยสึนามิ และแผ่นดินไหวถาโถมประเทศญี่ปุ่นเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก็มีข้อมูล และรูปแบบการเรียนการสอนเกี่ยวกับภัยพิบัติดังกล่าวออกมานับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นในรูปบทความ บทเรียนมีชีวิตที่สามารถโต้ตอบได้ รวมถึง การรู้บทเรียนจากอดีต และชุดประมวลวิดีโอ และรูปภาพ

บทเรียนเหล่านี้ต่างมีคุณค่า ทั้งในแง่การเฝ้าระวังเพื่อตระเตรียมความพร้อมในการอยู่ร่วมทั้งก่อน และหลังภัยพิบัติ สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการถ่ายทอด 20 บทเรียนน่ารู้ ที่ได้รับประมวลผ่านเว็บไซต์นิวยอร์กไทม์ ซึ่งมีเครือข่ายการศึกษา "The Learning Network" เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน โดยการประมวลของ SARAH KAVANAGH และ HOLLY EPSTEIN OJALVO ที่ได้รวบรวมเทคนิค และแนวคิดการสอนจากครูทั่วโลก ที่ต่างคิดกระบวนการเรียนการสอนเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ภัยพิบัติไว้ทั้ง 20 รูปแบบ ดังนี้


1.รู้ทันภัยพิบัติ

เพื่อที่จะปูพื้นฐานความเข้าใจให้นักเรียน จึงจำเป็นต้องเรียนรู้ว่า เกิดอะไรขึ้นบ้างในญี่ปุ่น ผ่านเรื่องเล่าด้วยคลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นภาพเหตุการณ์ตอนเกิดแผ่นดินไหว และสึนามิในญี่ปุ่น โดยเฉพาะภาพก่อน และหลังการเกิดเหตุการณ์ เพื่อสร้างความเข้าใจพื้นฐานให้นักเรียนถึงความสูญเสีย ซึ่งการเรียนในชั้นเรียนสามารถเชื่อมไปสู่มหันตภัยธรรมชาติในรูปแบบอื่นๆ ด้วยได้


2.เกาะติดสถานการณ์

การติดตามข่าวสารเป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ โดยเฉพาะการสร้างบทเรียนในห้องเรียนให้เชื่อมโยงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยการกระตุ้นให้นักเรียนค้นหาข้อมูลข่าวสารจากนอกห้อง เข้ามาร่วมแลกเปลี่ยนในห้องเรียน


3.ตามติดรูปแบบภัยพิบัติอย่างใกล้ชิด

เริ่มตั้งแต่การเรียนรู้ว่าศูนย์กลางของการเกิดแผนดินไหวอยู่ที่ใด และญี่ปุ่นมีพื้นที่ใดที่ได้รับผลกระทบจากสึนามิ กระทั่งหมู่บ้าน และเมืองใดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ด้วยการสำรวจที่สามารถโต้ตอบได้ (Interactive map) เพื่อที่จะได้วิเคราะห์ และประเมินความเสียหายได้หลายหลากมุมมอง รวมไปถึงการเสียหายทางโครงสร้าง และยอดผู้เสียชีวิต ด้วยการใส่ข้อมูลต่างๆเหล่านี้ไว้เชื่อมโยงกับแผนที่ทวีปเอเชีย และแผนที่โลก


4.สวมบทบาทเป็นหนึ่งในผู้ประสบภัยพิบัติ

หนึ่งในวิธีทำให้นักเรียนเข้าใจสถานการณ์ภัยพิบัติมากขึ้นก็คือ การแลกเปลี่ยนจากประสบการณ์ส่วนตัว โดยอาจจะให้นักเรียนเขียนจดหมาย หรือโปสการ์ด โดยสวมบทบาทเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิต ให้เล่าเรื่องภัยพิบัติที่นักเรียนแต่ละคนได้อ่าน หรือได้ค้นคว้าข้อมูล ก็จะทำให้เกิดความเข้าใจยิ่งขึ้น


5.ใช้รูปภาพเป็นสื่อการเรียนรู้

ใช้รูปภาพก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการในการถ่ายทอดการเรียนรู้ เพื่อที่จะให้เกิดความเข้าใจในภัยพิบัติดียิ่งขึ้น ด้วยการให้นักเรียนเล่าเรื่องผ่านภาพถ่าย


6.คิดวิเคราะห์ผ่านข้อมูลที่ถูกบอกเล่า

ความท้าทาย และความอันตรายที่นักข่าวต้องเผชิญในการประมวลผล เพื่อรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นคืออะไรบ้าง และประชาชนทั่วไปจะสามารถร่วมแลกเปลี่ยนสถานการณ์ และร่วมเล่าเรื่องได้อย่างไร นักเรียนสามารถร่วมแลกเปลี่ยน และวิเคราะห์เนื้อหาข้อเท็จจริง ผ่านการรายงาน และรูปถ่ายได้ โดยนักเรียนสามารถเปรียบเทียบข้อมูลที่เหมือน และต่าง ผ่านการรายงานของนักข่าวแต่ละที่ได้รายงานในมุมมองของผู้อ่าน ซึ่งส่งเสริมให้นักเรียนสามารถเปลี่ยนสถานะเป็น "ผู้สื่อข่าวจิ๋ว" เพื่อรายงานสถานการณ์ในพื้นที่ให้กับผู้อ่านในโรงเรียนได้อีกด้วย


7.ผนวกไว้เป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น

นักเรียนสามารถผนวกเหตุการณ์สึนามิ และแผ่นดินไหวในปี 2011 ไว้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ซึ่งสามารถจะรวบรวมไว้ในเหตุการณ์สำคัญๆ อื่น เช่น เหตุการณ์ระเบิดในฮิโรชิม่า และนางาซากิ หรือผลกระทบในปัจจุบันที่มีผลพวงจากเหตุการณ์ในอดีต ไปพร้อมๆ กับการสอดแทรกสาเหตุของภัยพิบัติที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ และธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหวที่่โกเบ ในปี 1995 ซึ่งประโยชน์ของการเรียงลำดับเหตุการณ์ตามช่วงเวลานั้น นอกจากจะทำให้สามารถจัดลำดับบทความ รูปภาพ รูปถ่ายได้แล้ว ยังสามารถทำให้เราเรียนรู้รูปแบบการฟื้้นฟูประเทศของญี่ปุ่นได้อย่างไรด้วย


8.หวนรำลึกถึงวิกฤตปฏิกรณ์นิวเคลียร์

เปรียบเทียบการรั่วไหลของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ในปัจจุบันและอดีต ด้วยการวิเคราะห์ถึงผลกระทบที่เกิดจากการรั่วไหลของเตาปฏิมากรณ์ที่ฟุคุชิมากับที่อื่นๆ ว่ามีความเหมือน และแตกต่างกันอย่างไร แล้วนักเรียนจะสามารถเรียนรู้อะไรจากอุบัติเหตุดังกล่าวร่วมกันได้บ้าง


9.จำลองรูปแบบชีวิตหลังประสบภัยพิบัติ

ลองจินตนาการถึงชีวิตหลังจากเกิดภัยพิบัติว่า จะเอาชีวิตรอดได้อย่างไร ในห้องเรียนอาจร่วมกันแลกเปลี่ยน และให้กำลังใจ ร่วมกันคิดว่าจะต้องทำตัวอย่างไรเพื่อที่จะกลับไปยังพื้นที่อยู่อาศัยบ้านเรือนหลังจากภัยพิบัติ


10.วางแผนรูปแบบการช่วยเหลือเยียวยา

ให้นักเรียนร่วมกันคิดว่า เราจะช่วยเหลือกันและกันได้อย่างไร และอะไรเป็นความช่วยเหลือเร่งด่วน การร่วมกันค้นหาหน่วยงานช่วยเหลือฉุกเฉิน เพื่อเข้าถึงบริการท่ามกลางภาวะภัยพิบัติเหมือนที่เกิดในญี่ปุ่น และทั่วโลก โดยนักเรียนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งได้ ด้วยการเลือกองค์กรช่วยเหลือสักหนึ่งแห่ง และเป็นตัวตั้งตัวตีในการระดมทุนช่วยเหลือ หรือการสร้างโปรเจ็กต์เรียนรู้ด้านการบริการงานเพื่อบรรเทาภัยพิบัติในญี่ปุ่น เป็นต้น


ส่วนอีก 10 บทเรียนที่เหลือนั้น ก็ประกอบด้วย

11.การถกเถียงกันถึงเรื่องคุณประโยชน์และโทษในพลังงานนิวเคลียร์ เรียนรู้การหลอมละลายของพลังงานนิวเคลียร์

12.เรียนรู้การเกิดแผ่นดินไหว

13.เรียนรู้มหันตภัยสึนามิ

14.เรียนรู้ประวัติศาสตร์การเกิดแผ่นดินไหว และสึนามิ

15.ผลสะท้อนจากการเตรียมความพร้อมท่ามกลางภัยพิบัติ

16.วิเคราะห์ถึงผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ

17.สำรวจคำศัพท์ใหม่จากภัยพิบัติ

18.เชื่อมโยงการใช้ชีวิตกับวรรณกรรมที่ถ่ายทอดเรื่องราวภัยพิบัติ

19.ศิลปะ..หนึ่งพลังในการเยียวยาจิตใจหลังภัยพิบัติ

และ 20.การเยียวยาจิตใจหลังภัยพิบัติ


บทเรียนจากตำราที่ถูกประมวลจากเครือข่ายการศึกษา สะท้อนให้เห็นการเรียนรู้ร่วมกันของสังคมทั่วทุกมุมโลกเพื่อจะก้าวผ่านพ้นวิกฤตไปด้วยกัน สร้างให้เกิดพลังแรงกระตุ้นให้เกิด "การเรียนรู้ตลอดชีวิต" ได้อย่างแท้จริง




จาก ...................... มติชน วันที่ 3 พฤศจิกายน 2554
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
 


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 16:33


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger