![]() |
|
|
|
#1
|
||||
|
||||
|
เช้าวันนั้น....ท้องฟ้าแจ่มใสและไร้ฝน ช่างผิดกับการสำรวจในหลายๆวันที่ผ่านมา ที่เจอทั้งฝนทั้งลมอย่างหนัก... จึงนับเป็นโชคดีของทีมงาน และสองสายจริงๆค่ะ อย่างไรก็ตาม...แม้ลมจะอ่อน แต่ในยามน้ำลงต่ำมากเช่นขณะนั้น คลื่นหรือเดิ่งก็สูงเอาเรื่อง น้องแป๊ะ (ที่เคยทำงานอยู่ที่ศูนย์วิจัยฯ สมุทรสาคร และสองสายเคยพบมาแล้วหลายครั้ง เมื่อครั้งได้มาปลูกป่าชายเลนในเขตมหาชัย) บังคับเรือเร็วของศูนย์อนุรักษ์ฯ ฟันคลื่นปังๆ ผ่านออกไปทางบริเวณหน้าที่ทำการศูนย์อนุรักษ์ฯ ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากปากคลองนัก พลันก็เห็นเรืออวนรุนเล็กๆ กำลังลงรุนอวนอยู่ โดยไม่รู้ว่า บริเวณนี้ห้ามทำประมงอวนรุน สิ่งที่เราได้เห็น จึงเป็นการทำประมงผิดกฎหมาย ต่อหน้าต่อตาเจ้าหน้าที่แบบเต็มเปา... ![]() เรือเร็วโฉบเข้าไปหาเรืออวนรุน น้องแป๊ะ และ เจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ฯ ได้แจ้งให้ชาววประมงเรืออวนรุนที่มีอยู่ในเรือเพียงคนเดียว หยุดปฏิบัติการอันผ่าฝืนกฎหมาย และให้เคลื่อนย้ายเรือออกไปจากพื้นที่นี้โดยเร็ว เราเห็นชาวประมงพลัดถิ่นคนนั้น หน้าเหลือสองนิ้ว และเริ่มยกอวนรุนขึ้นมาอย่างเร็วรี่...ไม่ถูกจับปรับและขังคุกนี่ก็ถือเป็นบุญแล้วนะคะ
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 16-07-2012 เมื่อ 12:45 |
|
#2
|
||||
|
||||
|
เรือเร็วเริ่มแล่นไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของโคกขาม เป้าหมายคือ แท่นสกุณา หรือ บางทีก็เรียกว่า Pilot ซึ่งเป็นแท่นที่ตั้งอยู่กลางทะเล ห่างจากปากแม่น้ำเจ้าพระยาไปทางใต้ราว 18 กม. ![]() แต่เรือแล่นฟันคลื่นตูมๆออกไป ไม่ทันจะถึงเขตบางขุนเทียนดี ก็มีเสียงตะโกนบอกมาจากหัวเรือว่า "วาฬกำลังแทงปลา...ที่ 12 นาฬิกา"...พวกเราเริ่มขยับตัว เตรียมกล้องที่เก็บไว้ในกล่องกันน้ำ บางกล้องก็ติดเสนส์กระบอกยาวๆ บางกล้องก็เป็นกล้องเล็กๆ ชนิดพกพาได้ พอเตรียมกล้องพร้อมแล้ว ต่างคนต่างก็แยกย้ายไปยืนตามมุมต่างๆของเรือ แล้วแต่ถนัดและมีที่ว่างพอ เมื่อแล่นไปใกล้จุดที่เห็นวาฬโผล่ขึ้นมา เรือก็เริ่มลดความเร็ว เสียงเรือที่ดังแสบแก้วหูพลันเเบาลง จนพอจะพูดคุยกันได้โดยไม่ต้องระโกน ไม่นานนัก วาฬตัวเขี่องก็โผล่ขึ้นมาหายใจเหนือผิวน้ำ เรือที่โคลงเคลงไปมา ตามแรงคลื่นที่สูงราวครึ่งเมตร ทำให้ยากจะถ่ายภาพด้วยกล้องที่ติดเลนส์กระบอกยาวๆได้ ![]() วาฬไม่ได้มีตัวเดียว แต่มีถึงสองสามตัว ว่ายวนเเวียนไปมา เหมือนกำลังว่ายไล่เล่น หรือออกกำลังกายยามเข้า เสียงกล้องรั่วลั่น อย่างกับปืนกล แข่งกับเสียงของน้องตึก น้องหนึ่ง น้องขาว และน้องตอง ต่างเริ่มต้นพูดคุยกันว่าวาฬที่เห็นนั่น เป็นตัวไหน ชื่ออะไรกันแน่ โดยใช้ลักษณะของครีบหลังเป็นตัวบอก ![]() น้องตึกบอกว่า หนึ่งในวาฬสองสามตัวที่เห็นนั้น เป็น "เจ้าบันเทิง"...วาฬขี้เล่น ที่สองสายเคยพบมาแล้วแถวๆบางตะบูน ![]()
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 11-01-2014 เมื่อ 20:42 |
|
#3
|
||||
|
||||
|
วาฬที่เราได้เห็น เป็นวาฬพันธุ์บรูด้าล้วนๆ วาฬมารวมตัวกันไกลจากบางตะบูนที่เราเคยได้เห็น เป็นเพราะแถวนี้มีปลากะตัก ซึ่งเป็นอาหารโปรดของวาฬ มารวมตัวกันมากมาย บางวันที่คณะทำงานได้ออกสำรวจ สามารถพบวาฬสูงสุด 16-17 ตัวในวันเดียว
ว่านพ่นน้ำฟู่ๆ ได้ยินเสียงดังถนัดหู ตัวหนึ่งเฉียดเข้ามาใกล้หัวเรือ และพ่นน้ำกระเด็นเป็นฝอย เล่นเอาพวกเราที่ยืนอยู่หัวเรือเร็วหลบกันไม่ทัน พากันเปียกปอนไปทั้งคนและกล้อง ตามปกติถ้าวาฬกินอาหารเต็มท้อง เวลาพ่นน้ำใกล้ๆเราอย่างนี้ จะมีกลิ่นเหมือนปลาเน่าโชยออกมาฉุยๆ แต่นี่ไม่มีกลิ่น แสดงว่าวันนี้ วาฬยังไม่ได้กลิ่นอาหารเช้า.... ![]() วาฬอีกคู่หนึ่ง ว่ายวนเวียนไปมารอบๆเรือ เหมือนไล่จีบกัน.... ![]() เรือแล่นเข้าไปอยู่ใกล้ๆเขตบางขุนเทียน เราเห็นกนางนวลสองสามตัว บินวนเวียนอยู่บนท้องฟ้า นั่นแสดงว่ามีวาฬกำลังหากินอยู่แถวๆนั้น และแล้ว...วาฬตัวหนึ่งก็โผล่หัวสูงขึ้นมางับปลากะตัก ซึ่งเราเรียกอาการนี้ของวาฬอีกอย่างหนึ่งว่า "แทงปลา" ![]() แต่ความที่น้ำตื้นเพียง 5 เมคร...วาฬตั้งตัวกินอาหารอยู่ได้เพียงแปร๊บเดียว ก็ลงไปนอนตะแคงงับปลากะตักกิน... ![]()
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 15-07-2012 เมื่อ 22:58 |
![]() |
|
|