สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคม 2564

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด


หนุ่มออสซี่ดำน้ำล่าสมบัตินาน 15 ปี เผยงมได้ตั้งแต่เหรียญ ยัน รถมอไซค์!

หนุ่มออสซี่ดำน้ำล่าสมบัติมานานกว่า 15 ปี ไปมาแล้วทั่วโลก เผยได้ของมีค่ามาแล้วมากมาย ตั้งแต่เหรียญเล็ก ๆ ไปจนถึงมอเตอร์ไซค์ยี่ห้อหรู!



"ลีห์ เวบเบอร์" ชายวัย 40 ปี จากซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ผู้หลงใหลในการล่าขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ใต้น้ำ ที่ผ่านมาเขาได้สมบัติมาแล้วมากมาย มีตั้งแต่ของชิ้นเล็ก ๆ ไปจนถึงรถจักรยานยนต์!

ลีห์เล่าถึงที่มาของการล่าขุมทรัพย์ว่า เขาเติบโตมากับการเล่นโต้คลื่น ในวันที่ทะเลสงบ เขามักจะไปดำนำดูปะการังเสมอ จนวันหนึ่งเขาสังเกตเห็นเหรียญอยู่บริเวณก้นทะเล เมื่อปัดทรายรอบ ๆ ออก เขาก็พบเหรียญมากขึ้น ตั้งแต่นั้นมาเขาชื่นชอบการล่าขุมทรัพย์ และมักจะนำเครื่องตรวจจับโลหะไปด้วยเสมอ

"ผมเป็นนักโต้คลื่นและโตมากับมัน ในวันที่คลื่นลมสงบ ผมชอบไปดำน้ำในจุดที่ผู้คนชอบกระโดดน้ำเล่น ตรงนั้นผมเจอเหรียญซ่อนอยู่ใต้ท้องทะเลมากมาย ตอนนั้นคนรอบ ๆ ตัวผมเอาแต่มองหาปลา ผมเลยคิดในใจว่า พวกเขานี่ไม่รู้อะไรเสียแล้ว ว่ากำลังจะพลาดของดี ๆ ไป"

ลีห์กล่าวว่า มันค่อนข้างยากที่จะพบคนที่ชอบล่าขุมทรัพย์เหมือนกัน บ่อยครั้งที่เขาอีเมลหานักล่าขุมทรัพย์คนอื่น ๆ ให้มาร่วมล่าด้วยกัน แต่พวกเขาเหล่านั้นก็ไม่ได้สนใจคำเชิญมากนัก ดังนั้นเขาจึงเปิดช่องยูทูบ เผื่อใครสนใจอยากมาร่วมล่าขุมทรัพย์ด้วยกัน

หลังจากลีห์ตระเวณล่าขุมทรัพย์ไปทั่วท้องทะเลในออสเตรเลียแล้ว เขาก็ยกระดับไปล่าขุมทรัพย์ที่ต่างประเทศ เขาเดินทางไปแล้วหลายประเทศทั่วโลก ตั้งแต่สเปน ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เนเธอร์แลนด์ และไทย

ลีห์เล่าว่า ครั้งที่เขาไปยังอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการหาสมบัติในคลองเก่าแก่ของเมือง ที่นั่นเขาพบกับตู้เซฟนิรภัยเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีปืนพก จักรยาน รวมไปถึงรถจักรยานยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู

"ผมเจอตู้เซฟ แล้วก็เจอตู้เซฟอีกอัน ตอนนั้นผมได้แต่คิดว่า เกิดอะไรขึ้นกับคลองที่นี่ เห็นได้ชัดว่า มันเป็นจุดยอดนิยมของเหล่าหัวขโมย ที่แอบนำตู้เซฟมาทิ้งหลังจากปล้นเสร็จแล้ว ที่คลองแห่งนี้ผมพบตู้เซฟมากกว่า 50 ตู้"

หลังจากล่าขุมทรัพย์มามากมายทั่วโลก ลีห์เลือกที่จะเก็บสิ่งของบางชิ้นไว้ ส่วนที่เหลือเขาจะนำไปขายและมันก็ได้เงินดีพอสมควร

ขอบคุณที่มา dailymail


https://www.khaosod.co.th/lifestyle/news_6583472


*********************************************************************************************************************************************************


โลมาช่วยชีวิต หนุ่มว่ายน้ำกลางทะเลลึก นานกว่า 12 ชม. เกือบไม่รอด



โลมาช่วยชีวิต ? ชายคนหนึ่งอายุประมาณ 30 ต้น ๆ รอดตายอย่างปาฏิหาริย์ หลังจากว่ายน้ำนานกว่า 12 ชั่วโมงในทะเลลึกที่เย็นยะเยือกบริเวณอ่าวทราลี ประเทศไอร์แลนด์

อินดีเพนเดนต?์ รายงานเหตุการณ์ช่วยชีวิตชายหนุ่มที่ว่ายน้ำไปยังทะเลลึก ห่างจากชายหาดแคสเซิลเกรกอรี 4 ก.ม. หลังจากเจ้าหน้าที่ประจำชายฝั่งพบเสื้อผ้าบริเวณชายหาด ช่วงเวลา 20.15 น. เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 ส.ค.

เจ้าหน้าที่จึงเริ่มระดมกำลังออกค้นหาอย่างเร่งด่วน ไม่ว่าจะทางเรือชูชีพหรือทางเฮลิคอปเตอร์ กระทั่งเจ้าหน้าที่สังเกตเห็นฝูงปลาโลมาว่ายน้ำอยู่

เมื่อรุดไปยังบริเวณนั้น เจ้าหน้าที่พบชายคนดังกล่าวในสภาพอุณหภูมิร่างกายต่ำและหมดแรงขณะลอยคออยู่กลางทะเล สวมใส่เพียงกางเกงว่ายน้ำตัวเล็ก ๆ และล้อมรอบด้วยปลาโลมาหลายตัว

จากนั้นเจ้าหน้าที่ RNLI จึงนำตัวพาขึ้นเรือชูชีพสู่ชายฝั่งและนำส่งโรงพยาบาลทันที

เมื่ออาการดีขึ้นแล้ว ชายคนดังกล่าวบอกกับหน่วยกู้ภัยว่าเขาพยายามจะว่ายน้ำออกจากฝั่งชายหาดแคสเซิลเกรกอรี ไปยังมักลักห์มอร์ ร็อก ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 9 ก.ม. แต่ไม่ได้เตรียมความพร้อมมาก่อน

ฟินบาร์ โอคอนเนล เจ้าหน้าที่กู้ภัยกล่าวว่า "หลังจากการค้นหาที่ยาวนาน สมาชิกของเรารู้สึกอิ่มเอมใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้พบชายที่หายไป"

พร้อมกล่าวเสริมว่า "ผมไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน ปลาโลมาว่ายน้ำเป็นวงกลม แต่ไม่ได้แสดงท่าทางก้าวร้าว บางทีอาจจะพยายามสร้างจุดสนใจหรือปกป้องเขาอยู่"

แจ็กกี้ เมอร์ฟี่ หนึ่งในอาสาสมัครกู้ภัยกล่าวว่า "มันเป็นปาฏิหาริย์ที่ชายผู้รอดชีวิตจากทะเลนานกว่า 12 ชั่วโมง ต้องขอบคุณโอคอนเนลที่คำนวณตำแหน่งที่น่าจะเป็นไปได้ของชายคนนั้น"

แต่โอคอนเนลปฏิเสธความดีความชอบทั้งหมดจากเหตุการณ์ครั้งนี้ พร้องทั้งให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า "ทีมงานของเราทุกคนนั้นเก่งมากจึงทำให้งานของเราครั้งนี้สำเร็จลุลวงไปได้ด้วยดี"

นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังออกมาเตือนถึงอันตรายจากการว่ายน้ำในทะเล โดยควรลงเล่นน้ำทะเลในบริเวณที่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลและมีทุ่นห่วงยางที่สามารถช่วยเหลือในยามจำเป็น

ขอบคุณที่มาจาก The Sun Independent


https://www.khaosod.co.th/around-the...s/news_6583503