![]() |
|
|
|
#1
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
พบฝูงวาฬเกยตื้นที่ออสเตรเลีย ยื้อชีวิตไม่ทัน ดับ 51 ตัว วาฬนำร่องกว่า 50 ตัว เกยตื้นตายที่ชายหาดในรัฐเวสเทิร์น ออสเตรเลีย เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบสาเหตุ ![]() ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่า และอาสาสมัครในเมืองเพิร์ท เมืองหลวงของรัฐเวสต์เทิร์น ออสเตรเลีย เร่งเข้าช่วยเหลือฝูงวาฬนำร่องเกือบ 100 ตัวที่มาเกยตื้นที่ชายหาดเชนีส ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็น โดยเจ้าหน้าที่สามารถช่วยวาฬกลับสู่ทะเลได้บางส่วน และยังพยายามช่วยวาฬที่ยังมีชีวิตรอด แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตวาฬอีก 51 ตัวไว้ได้ ทั้งนี้ โฆษกของศูนย์อนุรักษ์ป่าไม้และสัตว์ป่า ระบุว่า มีผู้ที่เสนอความช่วยเหลือหลั่งไหลมาไม่ขาดสาย แต่ในขณะนี้มีเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครเพียงพอแล้ว โดยขอความร่วมมือให้ประชาชนทั่วไป อย่าเข้ามาในพื้นที่ชายหาดดังกล่าว เพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัย ทั้งความปลอดภัยของทีมเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ รวมทั้งความปลอดภัยของวาฬด้วย เนื่องจากมีทั้งวาฬที่ป่วย ฉลาม คลื่นทะเล เครื่องจักรหนักและเรือที่นำมาช่วยนำวาฬกลับสู่ทะเล เหตุวาฬขึ้นมาเกยตื้น เกิดขึ้นบ่อยครั้งในออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว มีวาฬนำร่องราว 500 ตัวเกยตื้นตายที่หมู่เกาะชาแตม หมู่เกาะห่างไกลของนิวซีแลนด์ โดยจนถึงเวลานี้ นักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่เข้าใจว่าเหตุใดวาฬจึงมักขึ้นมาเกยตื้นเป็นฝูง แต่มีข้อสันนิษฐานว่าวาฬนำร่องเป็นสัตว์สังคม ที่ใช้ชีวิตแบบครอบครัวใหญ่ จึงทำให้พวกมันว่ายตามกันเข้ามา เพื่อจะช่วยพวกของมันที่กำลังได้รับอันตราย. https://www.thairath.co.th/news/foreign/2712560
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
#2
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก Nation TV
ผอ.ศูนย์วิจัยฯ เผย ครั้งแรกที่เคยพบ เต่ามะเฟืองวางไข่นอกฤดูที่ภูเก็ต ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน (ภูเก็ต) เผย พบเต่ามะเฟืองขึ้นวางไข่ครั้งแรกนอกฤดูกาลล่วงหน้าถึง 4 เดือน ที่หาดกะรน จ.ภูเก็ต คาดผลพวงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ![]() นายสุเทพ เจือละออง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน เผยว่าเมื่อคืนวันที่ 25 กรกฎาคม 2566 ชาวบ้านในพื้นที่หาดกะรน จ.ภูเก็ต ได้รายงานให้กับเจ้าหน้าที่ว่า ได้มีแม่เต่ามะเฟืองขนาดใหญ่ ขึ้นมาจากทะเลเพื่อขึ้นมาวางไข่ บริเวณชายหาดหน้าโรงแรมเซนทาราแกรนด์ โดยจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า แม่เต่ามะเฟือง ขึ้นมาจากทะเลราวเวลา 21.00 น. และได้ขึ้นมาขุดหลุมบนหาดทรายเพื่อเตรียมวางไข่เป็นเวลาราว 35 นาที ก่อนที่จะเดินกลับลงทะเลไป ต่อมาจากการขุดตรวจสอบหาดทรายบริเวณดังกล่าว ไม่พบว่าแม่เต่ามะเฟืองวางไข่ คาดว่าอาจเป็นเพราะว่ามีคนเข้ามามุงดู รบกวน จนแม่เต่าไม่กล้าวางไข่ นายสุเทพ เผยว่า การขึ้นมาของแม่เต่ามะเฟืองดังกล่าว ถือเป็นครั้งแรกที่มีรายงานพบแม่เต่ามะเฟืองวางไข่นอกฤดู เนื่องจากโดยปกติแล้ว เต่ามะเฟืองจะขึ้นมาวางไข่บนชายหาด ฝั่งแผ่นดินของ จ.พังงา และ จ.ภูเก็ต ในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน จนถึงเดือนมีนาคม ของทุกปี นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี ที่พบว่ามีเต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่ที่หาดกะรน "เป็นเรื่องน่าแปลกใจมากที่พบเต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่ในช่วงเวลานี้ของปี เพราะจากการสอบถามคนท้องถิ่นก็ไม่เคยมีใครเห็นเต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่ในช่วงเวลานี้มาก่อน เบื้องต้นคาดว่า อาจเป็นเพราะสถานการณ์สิ่งแวดล้อมในทะเล และสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป จนทำให้แม่เต่าเกิดความสับสน และขึ้นมาวางไข่นอกฤดู" นายสุเทพ กล่าว "หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานขอความร่วมมือสถานประกอบการ และชุมชนในพื้นที่ ให้ช่วยตรวจตราสอดส่องชายหาดในช่วงเวลากลางคืน เผื่อแม่เต่ามะเฟืองจะกลับขึ้นมาวางไข่อีกครั้ง และขอความร่วมมือไม่ให้ทำกิจกรรมที่อึกทึก และเปิดไฟในบริเวณชายหาด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนแม่เต่ามะเฟือง" นอกจากนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ยังได้วางกำลังเพิ่มเติมบริเวณชายหาด เพื่อสอดส่องดูแลพื้นที่ในช่วง 2 ? 3 วันต่อจากนี้ หากแม่เต่ามะเฟืองกลับขึ้นมาวางไข่อีกครั้ง เพื่อที่จะได้ขนย้ายไข่เต่ามะเฟืองไปฟักอย่างเหมาะสมต่อไป เนื่องจากในฤดูกาลนี้มักจะมีน้ำทะเลขึ้นสูง จนอาจท่วมรังไข่เต่ามะเฟืองจนเสียหายได้ เต่ามะเฟือง (Leatherback sea turtle, Dermochelys coriacea) จัดเป็นสัตว์ทะเลหายากและใกล้สูญพันธุ์ที่ได้รับความสำคัญจากนานาประเทศ เนื่องจากการอพยพย้ายถิ่นระยะไกล จึงมีแหล่งอาศัยในพื้นที่ทางทะเลระหว่างประเทศ จัดเป็นทรัพยากรร่วมของภูมิภาคและระดับโลก เต่ามะเฟืองเป็นเต่าทะเลที่มีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์สูงสุดเมื่อเปรียบเทียบกับเต่าทะเลที่มีอยู่ 7 ชนิดทั่วโลก เต่ามะเฟือง มีลักษณะภายนอกที่แตกต่างจากเต่าทะเลชนิดอื่นโดยเฉพาะเอกลักษณ์ที่ไม่มีเกล็ดให้เห็นเหมือนเต่าชนิดอื่น มีจุดประสีขาวบนลำตัว และมีสันเป็นแนวยาวจากหน้าถึงหลัง จากข้อมูลของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จำนวนประชากรพ่อแม่พันธุ์เต่ามะเฟืองที่มาผสมพันธุ์และวางไข่ในประเทศไทยได้ลดลงอย่างต่อเนื่องเหลือเพียงปีละไม่ถึง 10 ตัวในปัจจุบัน ในอดีตประเทศไทยมีประชากรเต่าทะเลเป็นจำนวนมาก เต่าทะเลวางไข่ตลอดแนวชายหาดของประเทศ มีการใช้ประโยชน์จากเต่าทะเลในหลายๆ ด้าน เช่น ใช้เนื้อและไข่เป็นอาหาร กระดองนำไปเป็นเครื่องประดับและเครื่องตบแต่ง ส่งผลให้จำนวนรังไข่เต่าทะเลลดลงจากประมาณ 2,000 รัง ในปี พ.ศ. 2500 เหลือเพียงไม่เกิน 500 รัง หรือประมาณ 20% เมื่อเทียบกับสถิติการวางไข่ในปี พ.ศ. 2535 และจากผลกระทบการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งเพื่อการท่องเที่ยว ยิ่งส่งผลให้จำนวนเต่ามะเฟืองลดจำนวนลงไปอีก จนเหลือเพียงราว 10 รังต่อปี ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา https://www.nationtv.tv/gogreen/378924826
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
![]() |
|
|