เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 09-10-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก BBCThai


รูโหว่ชั้นโอโซนเกิดใหม่ ใหญ่กว่าทวีปแอนตาร์กติกาสองเท่า


ภาพจำลองรูโหว่ชั้นโอโซนขนาดยักษ์ ที่ค้นพบล่าสุดเหนือทวีปแอนตาร์กติกา
ที่มาของภาพ,ESA / CS / DLR


ข้อมูลล่าสุดจากดาวเทียมคอเปอร์นิคัส เซนทิเนล (Copernicus Sentinel) ขององค์การอวกาศยุโรป (ESA) พบว่าเกิดรูโหว่ใหม่ขนาดยักษ์ในชั้นโอโซนของบรรยากาศโลก โดยรูโหว่นี้อยู่เหนือขั้วโลกใต้ ทั้งมีขนาดใหญ่กว่าทวีปแอนตาร์กติกาถึงสองเท่า

นี่คือหนึ่งในรูโหว่ของชั้นบรรยากาศโลก ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยเหล่านักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่า น่าจะเกิดจากเหตุภูเขาไฟใต้น้ำระเบิดที่ประเทศตองกา เมื่อช่วงต้นปี 2022

บรรยากาศชั้นโอโซนอยู่ที่ระดับความสูง 15-30 กิโลเมตรเหนือพื้นโลก ประกอบไปด้วยโมเลกุลของก๊าซที่มีอะตอมของธาตุออกซิเจน 3 ตัว (O3) ซึ่งช่วยปกป้องสิ่งมีชีวิตบนโลกจากอันตรายของรังสีอัลตราไวโอเล็ต (ยูวี) จากดวงอาทิตย์

ในช่วงกลางทศวรรษ 1980 มีการค้นพบรูโหว่ขนาดยักษ์ในชั้นโอโซนแถบขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ ทำให้ประชาคมโลกร่วมกันทำอนุสัญญาห้ามการใช้สารซีเอฟซี (Chlorofluorocarbons - CFCs) ซึ่งส่งผลให้รูโหว่ในชั้นโอโซนบางแห่งปิดตัวและหลายแห่งมีขนาดเล็กลง

ทว่ามวลอากาศเย็นของฤดูหนาวในแต่ละปี ทำให้เกิดเมฆบางชนิดที่ทำลายก๊าซโอโซนได้ จนในปัจจุบันยังคงเกิดรูโหว่ตามฤดูกาลในชั้นโอโซนเหนือขั้วโลกทั้งสองแห่งอยู่

อย่างไรก็ตาม รูโหว่ชั้นโอโซนเหนือขั้วโลกใต้และทวีปแอนตาร์กติกาในปีนี้ มีขนาดใหญ่โตจนน่าตกใจ โดยเมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา รูโหว่ดังกล่าวได้ขยายขนาดขึ้นใหญ่สุดถึง 26 ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่งคิดเป็นพื้นที่ใหญ่กว่าทวีปอเมริกาเหนือ และคิดเป็นสองเท่าของพื้นที่ทวีปแอนตาร์กติกาเอง

รูโหว่ในชั้นโอโซนของปีนี้ ยังมีความกว้างใหญ่เทียบได้กับประเทศจีนและประเทศรัสเซียรวมกัน ทั้งยังมีขนาดเป็น 3 เท่าของพื้นที่ประเทศบราซิลอีกด้วย

ศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางแห่งยุโรป (ECMWF) ระบุว่ารูโหว่ในชั้นโอโซนเหนือขั้วโลกใต้ของปีนี้ ก่อตัวขึ้นเร็วกว่าปกติตั้งแต่ช่วงกลางเดือนสิงหาคม ซ้ำยังขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจเป็นเพราะการปะทุของภูเขาไฟใต้น้ำ Hunga Tonga-Hunga Ha'apai ที่ประเทศตองกา เมื่อช่วงต้นปี 2022 โดยเหตุการณ์นี้จัดว่าเป็นการระเบิดที่ทรงพลัง ยิ่งกว่าระเบิดปรมาณูที่ถล่มเมืองฮิโรชิมา 100 ลูกรวมกัน และยังทำให้เกิดกลุ่มควันที่พวยพุ่งขึ้นสูงสุดในประวัติศาสตร์โลก

นักวิทยาศาสตร์ของ ECMWF สันนิษฐานว่า การปะทุอย่างรุนแรงของภูเขาไฟใต้น้ำที่ตองกา ได้ดันให้โมเลกุลน้ำถึง 50 ล้านตันลอยขึ้นสู่บรรยากาศชั้นบนของโลก ทำให้มีไอน้ำเพิ่มขึ้นในบรรยากาศถึง 10% ทันที ซึ่งไอน้ำที่แตกตัวเป็นอนุภาคมีประจุสามารถจะทำลายชั้นโอโซนได้ เช่นเดียวกับสารซีเอฟซี

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญของ ECMWF ประเมินว่า การเกิดรูโหว่ยักษ์ในชั้นโอโซนตามฤดูกาลเช่นนี้ ไม่ใช่สิ่งที่น่าวิตก และมันน่าจะปิดลงได้เองภายในเวลาอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ส่วนแนวโน้มการเยียวยารูโหว่ในชั้นโอโซนทั่วโลกนั้น หากปริมาณของสารซีเอฟซีที่ปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศยังคงต่ำอยู่เช่นนี้ คาดว่ารูโหว่จะปิดตัวลงได้อย่างสมบูรณ์ในปี 2050


https://www.bbc.com/thai/articles/c3gl1enjerko
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 13:20


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger