เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

 
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
Prev คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป Next
  #10  
เก่า 22-02-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก BBCThai


เหตุใดกองทัพเรือไทยเลือกจับมือกับกองทัพเรือสหรัฐฯ เพื่อกู้เรือหลวงสุโขทัยแบบจำกัด


เรือหลวงสุโขทัยอับปางหลังเผชิญคลื่นลมแรง เมื่อ 18 ธ.ค. 2565
ที่มาของภาพ,GETTY IMAGES


กว่า 1 ปี 2 เดือนนับจากเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปางลงบริเวณอ่าวไทยเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2565 ล่าสุดโฆษกกองทัพเรือระบุว่า การสอบสวนหาสาเหตุเรืออับปางคืบหน้าไปแล้ว 90% เหลือเพียงรอหลักฐานจากการกู้เรือเท่านั้น

ภารกิจกู้เรือหลวงสุโขทัยจะเริ่มต้นขึ้นวันที่ 22 ก.พ. นี้ โดยทางกองทัพเรือของไทยร่วมกับกองทัพเรือของสหรัฐอเมริกาช่วยกันกู้เรือแบบจำกัด แทนที่จะกู้เรือขึ้นมาทั้งลำ ซึ่งทางกองทัพเรือของไทยเคยตั้งงบประมาณไว้ที่ 200 ล้านบาท ก่อนจะยกเลิกแผนดังกล่าวไปเมื่อเดือน ธ.ค. 2566


18 ธ.ค. 2565 วันเรืออับปาง

ช่วงเวลาประมาณสี่โมงเย็นของวันที่ 18 ธ.ค. 2565 เรือหลวงสุโขทัยเดินทางออกจากฐานทัพเรือสัตหีบ มุ่งหน้าไปร่วมงานคล้ายวันประสูติของ เสด็จเตี่ย หรือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ที่ จ.ชุมพร แต่ต้องเผชิญกับคลื่นลมแรงในอ่าวไทย จนทำให้เรือเริ่มเอียง น้ำทะลักเข้ามาในตัวเรือ ส่งผลกระทบต่อระบบไฟฟ้าและเครื่องจักร ทำให้มีคำสั่งจากผู้บังคับการเรือให้สละเรือในเวลาต่อมาเมื่อพบว่าเรือเอียง 60 องศา และอับปางลงในเวลาประมาณ 23.30 น. ของวันเดียวกัน ห่างจากท่าเรือ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 20 ไมล์ทะเล

เรือลำดังกล่าวบรรทุกกำลังพลทั้งหมด 106 นาย เป็นกำลังพลประจำเรือกว่า 70 นาย ขณะที่อีกกว่า 30 นาย ไม่ใช่กำลังพลประจำเรือ แต่มาจากหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นต้น

ข้อมูลล่าสุดพบว่า มีผู้สูญหาย 5 นาย เสียชีวิต 24 นาย และรอดชีวิตกว่า 70 นาย

จากการสำรวจของกองทัพเรือพบว่า เรือหลวงสุโขทัยหนัก 930 ตัน จมอยู่ในลักษณะตั้งตรง เรือเอียงซ้ายประมาณ 8 องศา


แผนกู้เรือแบบเต็มรูปแบบ 200 ล้านบาทที่เป็นหมัน

จากเอกสารขอบเขตของงาน หรือ ทีโออาร์ (Terms of reference: TOR) โครงการงานจ้างกู้และลำเลียงเรือหลวงสุโขทัย ของกองทัพเรือ ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2566 ระบุว่า ต้องการจ้างกู้เรือหลวงสุโขทัยที่อับปางทั้งลำในสภาพตัวเรือภายนอกใกล้เคียงกับผลสำรวจ และลำเลียงไปยังท่าเทียบเรือ ณ อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จากนั้นให้ชำระคราบโคลนภายนอกและภายในตัวเรือให้เรียบร้อย ปรับแต่งสภาวะเรือให้มีความปลอดภัย ลอยลำได้ด้วยตัวเอง ตั้งงบประมาณไว้ที่ 200 ล้านบาท มีแผนใช้งบกลางและงบประมาณของกองทัพเรือเอง

โดยผู้ยื่นข้อเสนอต้องมีผลงานกู้เรืออับปางทั้งลำโดยไม่ตัดเป็นชิ้นส่วน ที่มีขนาดระวางขับน้ำไม่น้อยกว่า 1,000 ตัน ระดับความลึกไม่น้อยกว่า 50 เมตร สำเร็จในระยะ 10 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่วันที่ยื่นข้อเสนอ ต่อมาพบว่ามีผู้เสนอยื่นซองประมูลโครงการ 16 ราย

วันที่ 13 ก.ย. 2566 ซึ่งมีการแถลงนโยบายของรัฐบาล ทางนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นอภิปรายนโยบายของรัฐบาล โดยมีเนื้อหาส่วนหนึ่งที่พูดถึงความผิดปกติของขั้นตอนการยื่นซองประมูลโครงการกู้เรือสุโขทัยแบบเต็มรูปแบบ จากกรณีที่กองเรือยุทธการยกเลิกการประมูล โดยไม่มีทีโออาร์ใหม่ ไม่เปิดเชิญชวนยื่นซองประมูลใหม่ แต่กลับให้เอกชนที่เคยยื่นซองก่อนหน้านี้เข้ายื่นซองประมูลใหม่ในราคาเดิม

พร้อมกันนี้ ยังพบว่าบริษัทสุดท้ายที่ยื่นซองประมูล เพิ่งจดจัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2566 และมีกรรมการผู้จัดการใหญ่เป็นคุณหญิง นามสกุล "หนุนภักดี" ซึ่งเป็นนามสกุลเดียวกันกับผู้บัญชาการทหารสูงสุดในขณะนั้น

"จึงขอตั้งคำถามว่ามีเจตนาควบคุมการตรวจสอบกู้ซากหรือไม่" นายจิรัฏฐ์ สส.พรรคก้าวไกล กล่าว

พล.ร.อ. เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการกองทัพเรือ (ผบ.ทร) ในขณะนั้น ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาของ สส.พรรคก้าวไกล ในเวลาต่อมา โดยกล่าวว่า "ไม่มีหรอกครับ คนนี้แค่นามสกุลพ้องกัน ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกัน" พร้อมกับอธิบายว่า 16 บริษัทที่ยื่นซองประมูลต่างส่งเอกสารไม่ครบ คณะกรรมการเปิดซองราคาจึงกำหนดให้แต่ละบริษัทยื่นซองเข้ามาใหม่ พร้อมแจ้งว่าขาดเอกสารใดบ้าง โดยยืนยันว่าไม่มีการล้มประมูล ไม่มีการเปลี่ยนแปลงทีโออาร์เพื่อล็อคสเปคให้กับบริษัทใด โดยช่วงยื่นซองประมูลรอบที่สอง เกิดขึ้นเมื่อเดือน ต.ค. 2566 ที่ผ่านมา

จากนั้นวันที่ 25 ธ.ค. 2566 พบว่า กองเรือยุทธการออกประกาศยกเลิกการจัดจ้างกู้และลำเลียงเรือหลวงสุโขทัย โดยให้เหตุผลว่าเนื่องจากไม่มีผู้ยื่นข้อเสนอผ่านการคัดเลือกตามที่กองเรือยุทธการกำหนด จึงขอยกเลิกการจัดจ้างดังกล่าว

ในสัญญาจัดซื้อเรือหลวงสุโขทัยระบุว่า ไทยมีข้อตกลงกับกองทัพสหรัฐฯ เรื่องการห้ามไม่ให้ชาติอื่นเข้าถึงเทคโนโลยี รวมทั้งกรณีการกู้ซากเรือต้องให้ทางสหรัฐฯ เป็นผู้ดำเนินการ


ทำไมกองทัพเรือเลือกแผนกู้เรือแบบจำกัดแทน

วันที่ 2 ก.พ. 2567 กองทัพเรือของไทยและกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา เปิดเผยระหว่างการฝึกคอบร้าโกลด์ 2024 ว่า กองทัพของทั้งสองประเทศจะร่วมกันทำภารกิจกู้เรือหลวงสุโขทัยแบบจำกัด ซึ่งหมายถึงไม่ได้กู้ซากเรือหลวงขึ้นมาทั้งลำเหมือนกับแผนของกองทัพเรือในตอนแรก โดยมีแผนดำเนินการระหว่างวันที่ 19 ก.พ. ? 4 มี.ค. 2567

คอบร้าโกลด์เป็นการฝึกร่วมผสมนานาชาติประจำปีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและมีประวัติยาวนานมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกองทัพไทยและกองกำลังของสหรัฐฯ ภาคพื้นอินโด-แปซิฟิกจะร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดการฝึกในประเทศไทยเป็นประจำทุกปี

แผนการกู้เรือหลวงสุโขทัยแบบจำกัดในครั้งนี้ ทางกองทัพเรือจะใช้เรือหลวงรัตนโกสินทร์ เรือต่อต้านทุ่นระเบิดจำนวน 2 ลำ เรือตรวจการณ์จำนวน 2 ลำ เรือระบายพลขนาดกลางจำนวน 18 ลำ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด 40 นาย ร่วมปฏิบัติการ ขณะที่กองทัพเรือสหรัฐฯ จะใช้เรือโอเชียน เวเลอร์ (Ocean Valor) พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด 20 นาย ร่วมสนับสนุนปฏิบัติการ


พล.ร.อ.ชาติชาย ทองสะอาด ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เปิดเผยว่า แผนการกู้เรือในครั้งนี้จะแบ่งออกเป็น

- การค้นหาผู้สูญหายจำนวน 5 คน

- สำรวจหลักฐานใต้น้ำเพื่อนำมาประกอบการสอบสวนข้อเท็จจริงของกองทัพเรือ

- ทำให้ยุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ ที่ติดอยู่กับเรือหลวงสุโขทัยหมดความสามารถ

- กองทัพเรือจะนำอุปกรณ์และยุทโธปกรณ์บางส่วนขึ้นจากน้ำ โดยปล่อยให้ตัวเรืออยู่ใต้ทะเล

เรือหลวงสุโขทัยประจำการมา 35 ปี เป็นเรือลำที่ 2 ในเรือคอร์เวตชุดเรือหลวงรัตนโกสินทร์ สร้างโดยบริษัทต่อเรือทาโคมา เมืองทาโคมา รัฐวอชิงตัน สหรัฐฯ


กองทัพเรือของสหรัฐฯ พยายามยื่นข้อเสนอช่วยกู้เรือมาโดยตลอด อ้างอิงจากข้อมูลที่นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ สส.พรรคก้าวไกลในขณะนั้น ได้อภิปรายในวันที่ 2 ของการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2566

นายพิจารณ์ บอกว่า กองทัพเรือของสหรัฐฯ เสนอความช่วยเหลือว่าจะกู้เรือให้ฟรี เพราะเรือลำนี้ไทยซื้อจากสหรัฐฯ และทางสหรัฐฯ เองก็ต้องการสืบสวนหาข้อเท็จจริงว่าอะไรคือเหตุให้เรือล่ม เนื่องจาก "ที่ผ่านมาเรือของเขามีแต่จมลงเพราะสู้รบหรือไม่ก็ชนหินโสโครก ไม่เคยมีที่จมเพราะคลื่นทะเล" โดยมีเงื่อนไขว่าผลการสืบสวนต้องเก็บเป็นความลับระหว่างกองทัพเรือของไทยและกองทัพเรือของสหรัฐฯ

นอกจากนี้ นายชยพล สท้อนดี ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ยังแถลงต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2567 ที่ผ่านมา โดยเปิดเอกสารจากคณะที่ปรึกษาทางการทหารสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย หรือ Joint United State Military Advisory Group, Thailand (JUSMAGTHAI- จัสแม็กไทย) ที่ทวงถามกองทัพเรือของไทยเป็นครั้งที่ 2 จากกรณีการกู้ซากเรือหลวงสุโขทัย

ในเอกสารดังกล่าวมีเนื้อหาใจความว่า ทางจัสแม็กไทยต้องการให้กองทัพเรือของไทยเร่งส่งรายงานอุบัติเหตุและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับเรือรบหลวงสุโขทัยตามสัญญา เพื่อส่งรายงานกลับไปยังสหรัฐฯ พร้อมทั้งระบุว่า การกู้เรือหลวงสุโขทัยจะต้องผ่านการรับรองโดยรัฐบาลสหรัฐฯ ก่อน และหากไทยไม่ทำตาม จะส่งผลต่อการซื้อขายอาวุธระหว่างกันในอนาคต

นายชยพลจึงมีคำถามถึงกองทัพเรือของไทยว่า กองทัพเรือได้มีการคุยกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอย่างใกล้ชิดเพียงใด และกังวลว่าเรื่องนี้อาจกระทบต่อการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ในอนาคต ซึ่งอาจทำให้กองทัพเสียโอกาสที่จะมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยได้

ต่อมาเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2567 เว็บไซต์ของกระทรวงกลาโหมได้เผยแพร่ข่าวการประชุมร่วมกันระหว่างนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ กมธ.การทหาร สภาผู้แทนราษฎร โดยพบว่าส่วนหนึ่งของเนื้อหาการประชุมหารือ ได้มีการกล่าวถึงภารกิจกู้เรือหลวงสุโขทัยด้วย และเนื้อหาสอดคล้องกับข้อมูลของนายชยพล สส.พรรคก้าวไกล

นายสุทินชี้แจง กมธ.การทหารฯ ว่า การจัดซื้อเรือหลวงสุโขทัยนั้น ไทยมีข้อตกลงกับกองทัพสหรัฐฯ เรื่องการห้ามไม่ให้ชาติอื่นเข้าถึงเทคโนโลยี รวมทั้งกรณีการกู้ซากเรือต้องให้ทางสหรัฐฯ เป็นผู้ดำเนินการ


การตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเรืออับปางไปถึงไหนแล้ว

หลังจากเกิดเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปางลง ทางกองทัพเรือได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง 2 ชุด

- คณะทำงานสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อหาสาเหตุที่ทำให้เรือหลวงสุโขทัยอับปาง มีหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อหาสาเหตุ ทั้งด้านความพร้อมของเรือและการปฏิบัติงานของเรือ

- คณะทำงานสอบสวนข้อเท็จจริงในการดำเนินการภายหลังจากเรือหลวงสุโขทัยอับปาง มีหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อตรวจสอบการดำเนินการในขั้นตอนของการสละเรือใหญ่ การค้นหาและช่วยเหลือกำลังพลภายหลังประสบเหตุ ว่าเป็นไปตามหลักการและแนวทางการปฏิบัติที่กำหนดไว้หรือไม่


ถึงแม้สังคมและผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงจำนวนหนึ่งเสนอแนะว่า ควรมีคณะผู้ตรวจสอบภายนอกหรือคณะกรรมการกลางเข้าไปมีส่วนร่วมในการสังเกตการณ์ หรือตรวจสอบกระบวนการไต่สวนข้อเท็จจริงของกองทัพเรือ แต่ พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือในขณะนั้น เคยให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทยเมื่อ ธ.ค. 2565 ว่า ไม่มีระเบียบที่เปิดช่องให้ตั้งคณะผู้ตรวจสอบภายนอกร่วมการสอบสวน แต่ยืนยันว่าจะสอบสวน "อย่างตรงไปตรงมา"

ต่อมา พล.ร.อ.ปกครอง ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2566 ว่าการสอบสวนกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปางคืบหน้าไปแล้วกว่า 90% สอบปากคำพยานไปแล้ว 289 คน เหลือเพียงพยานวัตถุเรือหลวงสุโขทัยที่ยังได้ไม่ครบ ต้องรอจากขั้นตอนการกู้เรือ โดยยืนยันว่า "ไม่มีความพยายามดึงเรื่องให้ช้า แต่พยายามทำให้เร็ว อยากทำให้ทุกอย่างมีความรอบคอบ"


https://www.bbc.com/thai/articles/cv2vvxk6p26o

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
 


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 11:33


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger