เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

 
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
Prev คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป Next
  #3  
เก่า 08-04-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยโพสต์


'สนธิสัญญาพลาสติกโลก' ไทยลงเหวมลพิษพลาสติก



ระหว่างที่ร่างสนธิสัญญาแก้ปัญหามลพิษจากพลาสติก ซึ่งสมาชิก 175 ประเทศลงนามร่วมกันให้จัดทำมาตรการทางกฎหมายเพื่อเป็นแนวทางการจัดการพลาสติกที่ครอบคลุมและตลอดวงจรชีวิตพลาสติก ลดการผลิตพลาสติก เลิกผลิต เลิกใช้ ควบคุม พลาสติกบางประเภท และการขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิต (EPR)

ร่างกฎหมายระหว่างประเทศนี้ เตรียมจะนำมาเจรจาในการประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 4 (INC-4) ที่เมืองออตตาว่า ประเทศแคนาดา ระหว่างวันที่ 23-29 เมษายน 2567 ซึ่งเป็นการเจรจาก่อนเจรจารอบสุดท้าย และเป็นที่คาดหวังว่า เอกสารร่างสนธิสัญญาจะต้องแล้วเสร็จ และกลายเป็นมาตรการทางกฎหมายฉบับแรกของโลกที่จะลดภัยคุกคามพลาสติก ตลอดจนไมโครพลาสติกที่พบแล้วในร่างกายของมนุษย์ รวมถึงลดภาวะโลกเดือด เพราะการผลิตพลาสติกเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมปิโตรเลียม ปล่อยก๊าซเรือนกระจก

มีความเคลื่อนไหวในบ้านเรา มูลนิธิความยุติธรรมเชิงสิ่งแวดล้อม (Environmental Justice Foundation: EJF) กรีนพีซ ประเทศไทย (Greenpeace Thailand) และมูลนิธิบูรณะนิเวศ (EARTH) จัดงาน "สนธิสัญญาพลาสติกโลก สู่การยุติมลพิษพลาสติก สำคัญอย่างไรต่อสังคมไทย" เพื่อสร้างความตระหนักรู้ และประกาศจุดยืนให้มาตราการทางกฎหมายฉบับนี้คำนึงถึงสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมเป็นเป้าหมายสูงสุด และเป็นจุดเริ่มต้นของการยุติมลพิษพลาสติกเพื่อโลกที่ยั่งยืน


ดร.สุจิตรา วาสนาดำรงดี นักวิจัยเชี่ยวชาญสถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่าในระดับโลกมีการผลักดันการแก้ไขภาคสมัครใจมาก่อนแล้ว คือ Ellen MacArthur Foundation ร่วมกับโครงการสิ่งแวดล้อมหสประชาชาติทำโครงการ Global Commitment ผลักดันให้แบรนด์ ห้างค้าปลีกรายใหญ่ รัฐบาลประเทศต่างมาตั้งเป้าร่วมกันว่าภายในปี 2025 จะลดการใช้พลาสติกใหม่ เพิ่มพลาสติกรีไซเคิล ปรับบรรจุภัณฑ์ใช้ซ้ำได้ ซึ่งเริ่มมาตั้งปี 2018 จนถึงปี 2023 มีความคืบหน้า แต่สุดท้ายทั่วโลกยังผลิตพลาสติกใหม่เพิ่มขึ้น ทั้งที่มาให้คำมั่นร่วมพันองค์กร ในรายงาน 5 ปีระบุว่า ยังเป็นส่วนน้อยเท่านั้น ไม่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในระดับโลกได้อย่างแท้จริง ข้อสรุปรายงานบอกว่าต้องมาช่วยกันผลักดันให้สินธิสัญญานี้เกิดขึ้น และมีการออกกฎระเบียบในประเทศเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย

" อุปสรรคสำคัญ สิ่งท้าทายหลัก คือ การส่งเสริมการนำกลับมาใช้ใหม่ ถ้าภาครัฐไม่ได้ส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ส่งเสิมการ reuse refill แม้ภาคธุรกิจอยากจะทำ ก็ทำไม่ค่อยได้ ส่วนบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ช่วยรักษาคุณภาพอาหารหรือเครื่องสำอางค์ยังไม่มีทางออกที่จะปรับวัสดุให้คุ้มค่าต่อต้นทุน และระบบจัดเก็บมารีไซเคิลมีปัญหามาก " ดร.สุจิตรา กล่าว

สำหรับประเทศไทย นักวิจัยเชี่ยวชาญจุฬาฯ กล่าวว่า ปัญหาขยะพลาสติกเริ่มเป็นประเด็นของโลกในปี 2015 จากบทตีพิมพ์ที่จัดอันดับประเทศที่มีการปล่อยขยะพลาสติกลงทะเลมากที่สุดในโลก ซึ่งประเทศไทยอยู่อันดับที่ 6 เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้รัฐบาลไทยเริ่มเต้นขึ้นมา มีมาตรการ โรดแมป และแผนปฏิบัติการขึ้นมา แต่การห้ามใช้พลาสติก 7 ชนิด ของไทย ไม่ได้มีกฏหมายรองรับ เป็นการเลิกใช้แบบสมัครใจ ขอร้องให้เลิกการใช้ เลิกการผลิต ซึ่งทางธุรกิจทำไม่ได้ต้องอาศัยกฎหมาย ยกเว้นการห้ามใช้ไมโครบีด ซึ่งสำนักคณะกรรมการงานอาหารและยา (อย.) มี พ.ร.บ.เครื่องสำอางอยู่แล้ว แต่ไม่มีระบบติดตามตรวจสอบว่า เครื่องสำอางในท้องตลาดมีส่วนผสมของไมโครบีดหรือไม่ โควิดทำให้การใช้พลาสติกเพิ่มขึ้น ระดับโลกยังแก้ไขไม่ได้ แผนปฏิบัติการของไทยที่ไม่มีกฎหมายรองรับจะแก้ไขอะไรได้ ส่วนกฎหมายขยะของไทยยังไม่พร้อม เน้นแค่ปลายทาง ผู้บริโภคที่สร้างขยะ แต่ไม่ไปถึงต้นทางการผลิต กฎหมายบ้านเราทิ้งภาระขยะทุกประเภทที่ไม่ใช่ขยะจากโรงงาน ทิ้งไว้ให้กับท้องถิ่น และไม่มีกฎหมายให้ท้องถิ่นจัดการ ส่วนเงินจ่ายค่าเก็บขนขยะต่ำมาก คนไม่อยากจ่ายเพื่อสิ่งแวดล้อม

ใประเทศที่จัดการขยะได้ดี ดร.สุจิตรา ระบุจะมีกลไกกฎหมายระบบความรับผิดชอบเพิ่มขึ้นของผู้ผลิต (EPR) ,ระบบมัดจำคืนเงิน (DRS), ภาษีเตาเผา ภาษี Landfill และเก็บค่าขยะตามปริมาณที่ทิ้ง ซึ่งประเทศไทยไม่มี 4 เครื่องมือเชิงนโยบายนี้ ต้องช่วยกันผลักดันเพื่อให้แก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะนี้ กรมควบคุมมลพิษกำหนดแผนงานร่างกฎหมาย CE/EPR บรรจุภัณฑ์ ตั้งเป้าประกาศใช้ปี 2569 และร่างกฏหมายส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนภายในปี 2570 แต่ยังไม่ได้นำสนธิสัญญาพลาสติกโลกมาปรับหรือบรรจุหลักการที่เข้มข้นในกฎหมาย อาจต้องทบทวนใหม่


เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ กล่าวว่า วงจรพลาสติกที่ก่อปัญหามลพิษ ประเทศไทยมีมลพิษพลาสติกครบทุกอย่างและสถานการณ์เลวร้ายลงเรื่อยๆ ทั้งจากอุตสาหกรรมปิโตรเคมี อุตสาหกรรมการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซเมื่อกว่า 30 ปีที่ผ่านมาไป โดยเฉพาะ จ.ระยอง ในปี 2561 สหประชาติเปิดแคมเปญระดับโลกขยะในทะเล ทั่วโลกต้องลดปริมาณขยะพลาสติก เพื่อรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเล แต่ก็ไม่สามารถทำให้ทั่วโลกลดขยะพลาสติกลงได้และไม่ลดปริมาณขยะพลาสติกในทะเล นี่เป็นต้นทางจะชักชวนด้วยระบบสมัครใจไม่ได้อีกแล้ว ต้องมีกฎหมายระดับโลกเข้ามาคุม เป็นที่มาผลักดันสนธิสัญญาพลาสติก

" ประเทศอุตสาหกรรม อเมริกา ยุโรป แคนาดา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น มีระบบคัดแยกขยะที่ดีมาก ประเทศของเขาสะอาด และส่งออกขยะไปประเทศอื่น เมื่อจีนห้าม ประเทศไทยเป็นหนึ่งในเป้าหมาย ปี 2561 เกิดเหตุการณ์จับกุมโรงงานรีไซเคิลพลาสติกที่มีการลักลอบนำเข้าขยะพลาสติก ปีนั้นปีเดียวไทยนำเข้าขยะพลาสติกที่เป็นขยะสกปรกด้วยสูงถึง 500,000 ตัน จากก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 50,000-60,000 ตัน อีกทั้งโรงงานรีไซเคิลของจีนขยายในไทยเยอะมาก จากการวิจัยการนำเข้า-ส่งออกพลาสติก ตั้งแต่ปี 2560-2564 มี 80 ประเทศส่งขยะพลาสติกมาที่ไทย " เพ็ญโฉมเผยมลพิษพลาสติก

ผอ.มูลนิธิบูรณะนิเวศ กล่าวต่อว่า การรีไซเคิลอันตรายมาก เพราะมีกระบวนการปล่อยมลพิษสู่ดิน น้ำ อากาศ สูงมาก ขอท้าทายรัฐบาลไทยจะแก้ปัญหา PM2.5 ให้สำเร็จ ต้องจัดการโรงงานอุตสาหกรรมทุกประเภทที่เป็นแหล่งกำเนิด ณ วันนี้เราพูดถึงแต่เผาในที่โล่ง หมอกควันข้ามพรมแดน โรงงานรีไซเคิลเป็นแหล่งหนึ่งที่มีการปล่อย PM 2.5 สูงที่สุด รองจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน โรงปูน แต่รัฐบาลไม่อยากพูดถึง มลพิษอากาศที่เกิดจากอุตสาหกรรมอันตรายกว่า PM2.5 จากภาคเกษตรและไฟป่ามาก เพราะมีสารเคมีหลายชนิด ส่วนหนึ่งมาจากการเผาขยะพลาสติกหลายชนิดระดับพันชนิด ปล่อยสู่อากาศในรูปฝุ่นละอองขนาดเล็ก ยังไม่รวมถึงเชื้อเพลิงที่ใช้ในกระบวนการรีไซเคิล ยิ่งขยายโรงงานรีไซเคิลไม่ว่าโรงงานรีไซเคิลพลาสติก โรงงานอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งปัจจุบันมีมากขึ้นในไทย จะได้รับมลพิษหลากหลายมาก โดยเฉพาะขี้เถ้าจากโรงงานรีไซเคิล

ไทยแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกผิดทาง เพ็ญโฉมวิพากษ์การเอาขยะพลาสติกไปเผาเป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้า เป็นความผิดพลาดมหันต์ เพราะเป็นแหล่งปล่อยไดออกซินโดยตรง ตอนนี้มีแผนจะสร้างโรงไฟฟ้าจากขยะอีก 70 แห่ง และมีแผนสร้างโรงไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรมเพิ่มด้วย อนาคตที่น่ากลัวมาก คือ มลพิษอากาศ ไม่ใช่แค่ PM2.5 รัฐบาลเข้าใจว่าเป็นวิธีกำจัดขยะที่มีประสิทธิภาพที่สุด หรือรื้อขยะในหลุมฝังกลบมาทำ RDF ทางหนึ่งรัฐบอกส่งเสริมการรีไซเคิล สร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน แต่อีกด้านรัฐบาลเร่งสร้างโรงไฟฟ้า ซึ่งมันสวนทางกัน ทำให้สิ่งแวดล้อมไทยก้าวลงสู่เหว

" สารเคมีที่ใช้ในพลาสติกจากการสัมผัสตรง เป็นชีวิตบนความเสี่ยง อันตรายมาก หลายชนิดเป็นสารก่อมะเร็งและทำลายระบบประสาทของเด็ก ทั้งหมดนี้คือรูปแบบมลพิษจากพลาสติกที่สังคมไทยไม่ตระหนัก เราพูดแต่ขยะๆ ยังมีอีกหลายมุม ต้องพลิกขึ้นมาดูให้แจ่มแจ้ง แล้วมาดูกันว่าสนธิสัญญาพลาติกจะตอบโจทย์ปัญหาที่เรากำลังเผชิญหรือไม่ รวมทั้งท่าทีของรัฐบาลไทย และอิทธิพลของกลุ่มอุตสาหกรรมที่จะมีผลต่อการเกิดขึ้นของสนธิสัญญาพลาสติก " เพ็ญโฉมกล่าว

ในวงเสวนา พิชามญชุ์ รักรอด หัวหน้าโครงการยุติมลพิษพลาสติก กรีนพีซ ประเทศไทย กล่าวว่า เราต้องการสนธิสัญญาพลาสติกโลกที่เข้มแข็ง และมุ่งไปที่การลดการผลิตพลาสติกอย่างน้อย 75% ภายในปี 2583 เพื่อให้เรายังคงอุณหภูมิโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส ไทยมีบทบาทสำคัญในการต่อกรกับปัญหามลพิษพลาสติกในเวทีเจรจาที่กำลังจะมีขึ้น โดยการให้คำมั่นต่อการปกป้องสิ่งแวดล้อมและกลุ่มเปราะบาง โดยยึดโยงกับหลักการสิทธิมนุษยชน ทั้งยังสามารถเริ่มกำหนดนโยบายช่วยลดพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้งในประเทศได้ โดยกำหนดให้มีการพัฒนาและบังคับใช้กฎหมายการขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิต (EPR) ซึ่งตั้งอยู่บนหลักการผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย ( PPP) ที่ครอบคลุมตลอดวงจรชีวิตพลาสติกตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ การกระจายสินค้า การรับคืน การสร้างระบบใช้ซ้ำ รวมไปถึงรับผิดชอบต่อผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม

หลังเสวนาองค์กรภาคประชาสังคม 3 องค์กรอ่านแถลงการณ์ต่อการเจรจาจัดตั้ง "สนธิสัญญาพลาสติกโลก" พร้อมเรียกร้องรัฐบาลไทยร่วมมือกับประเทศที่เข้าร่วมการเจรจาเพื่อร่างสนธิสัญญาพลาสติกโลกที่ทะเยอทะยาน มีการตั้งกรอบเวลาการดำเนินการที่ชัดเจน มีกลไกทางการเงินที่ยั่งยืน โปร่งใส และเป็นธรรม เปิดพื้นที่ให้ทุกภาคส่วนได้เข้ามามีบทบาท และมุ่งสู่การบรรลุเป้าหมาย 10 ประการอีกด้วย


https://www.thaipost.net/news-update/566486/

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
 


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:17


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger