เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 10-05-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is online now
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก Nation


อัปเดตสถานการณ์ "ปะการังฟอกขาว" ล่าสุด พบในเขตอุทยานฯ 12 แห่ง สั่งปิดพื้นที่ห้ามรบกวน ......... ต่อ


"ปะการังฟอกขาว" คืออะไร มีผลกระทบอย่างไรกับโลกใต้ทะเล

อ้างอิงข้อมูลจาก ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา อธิบายเกี่ยวกับ "ปะการังฟอกขาว" (Coral bleaching) ว่า เป็นปรากฏการณ์ที่เนื้อเยื่อปะการังมีสีซีดหรือจางลงจากการสูญเสีย "สาหร่ายซูแซนเทลลี" (zooxanthellae) ซึ่งเกิดจากสภาวะที่ไม่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตของสาหร่าย เช่น อุณหภูมิน้ำทะเลสูงเกินไป มีน้ำจืดไหลลงมาทำให้ความเค็มลดลง ตะกอนที่ถูกน้ำจืดไหลพัดพามาจากชายฝั่ง หรือแม้แต่มลพิษที่เกิดจากการใช้ประโยชน์ทางทะเลของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยน้ำเสีย การใช้ครีมกันแดด การทิ้งขยะตามแนวชายหาดก็ล้วนมีผลให้สาหร่ายซูแซนเทลลีออกมาจากเนื้อเยื่อของปะการังเพื่อความอยู่รอด

นอกจากนี้ "ปะการังฟอกขาว" ยังเป็นสัญญาณเตือนหนึ่งของวิกฤตโลกร้อน เนื่องจากปะการังเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงทางสภาพแวดล้อมในมหาสมุทร การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิน้ำทะเลเพียง 1?2 องศาเซลเซียส ภายในระยะเวลา 3 สัปดาห์ สามารถทำให้ปะการังเกิดการฟอกขาวขึ้นได้


ผลกระทบ

เมื่อปะการังเกิดการฟอกขาว ย่อมส่งผลกระทบต่อโลกใต้ท้องทะเล เช่น

- ปริมาณสัตว์น้ำลดลงเนื่องจากขาดแหล่งอนุบาล

- ปะการังฟอกขาวทำให้แนวปะการังเสื่อมโทรม ส่งผลให้กระทบต่อสมดุลในระบบนิเวศแนวปะการัง

- ปะการังเกิดความเสื่อมโทรม ส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว

ปะการังฟอกขาว จึงเป็นเรื่องใกล้ตัวมากกว่าที่คิด อีกทั้ง สิ่งมีชีวิตอย่างปะการัง มีคุณค่ากับท้องทะเลเช่นเดียวกับสัตว์น้ำอื่นๆ หากมันหายไปย่อมส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเล

ซึ่งเราเองก็สามารถช่วยกันดูแลรักษา และอนุรักษ์แนวปะการังได้ โดยเริ่มจากการลดการสร้างมลภาวะ เช่น ไม่ทิ้งขยะลงทะเลและตามชายฝั่ง , หลีกเลี่ยงการกระทำที่จะเป็นการทำลายแนวปะการัง เป็นต้น

หากพบเห็นการเกิดปะการังฟอกขาว สามารถแจ้งข่าวสารผ่านเว็บไซต์ https://thailandcoralbleaching.dmcr.go.th/th เพื่อทุกฝ่ายจะได้เตรียมพร้อมรับมือและลงพื้นที่ติดตาม เฝ้าระวังสถานการณ์ปะการังฟอกขาวอย่างใกล้ชิดต่อไป


ขอบคุณข้อมูลและภาพบางส่วนจาก :
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
เฟซบุ๊ก ทราย สก๊อต
เฟซบุ๊กเพจ Environman
https://www.bangkokbiznews.com/environment/1117126
https://sciplanet.org/content/8276
https://hub.mnre.go.th/th/knowledge/detail/65637
https://km.dmcr.go.th/c_3/d_1772
https://www.springnews.co.th/keep-th...ronment/848470
https://thailandcoralbleaching.dmcr....oral/detail/83
Scimath คลังความรู้
มูลนิธิสืบนาคะเสถียร



https://www.nationtv.tv/news/social/378943652

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 10-05-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is online now
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก SpringNews



โลกร้อนทำให้ธารน้ำแข็งแห่งสุดท้ายใน "เวเนซุเอลา" ละลายหมดแล้ว


SHORT CUT

- เวเนซุเอลามีธารน้ำแข็ง 6 แห่ง ตั้งอยู่บนเทือกเขาเซียร์ราเนวาดา เด เมริดา อยู่บนความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 5,000 เมตร แต่ธารน้ำแข็งทั้ง 5 แห่งได้ละลายหายไปก่อนแล้วในปี 2554

- อากาศในเวเนซุเอลา หลายเดือนมีอากาศร้อนเกินค่าเฉลี่ยราว 3 ? 4 องศา ผนวกกับปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่เป็นตัวเร่งให้อุณหภูมิพุ่งสูงเข้าไปใหญ่

- เว็บไซต์ Herrera ได้คาดการณ์ว่าประเทศที่จะปราศจากน้ำแข็งรายต่อไปคือ อินโดนีเซีย เม็กซิโก และสโลวีเนีย




หากใครยังสงสัยอยู่ว่าโลกร้อนมันร้อนขึ้นแค่ไหนกันนะ springnews อยากให้ลองอ่านเคสนี้เป็นกรณีศึกษา จากน้ำแข็งที่ปกคลุมทั่วทั้งภูเขา แถมอยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเล 5,000 เมตร ยังถูกอากาศร้อนเล่นงาน จนน้ำแข็งละลายหายเกลี้ยง


เวเนซุเอลาไม่เหลือธารน้ำแข็งอีกแล้ว

เว็บไซต์ The Guardian รายงานว่า ขณะนี้ ธารน้ำแข็งแห่งสุดท้ายในเวเนซุเอลาได้ละลายไปหมดแล้ว เหลือแค่ภูเขาเกลี้ยงเตียนทิ้งไว้ดูต่างหน้า ทั้งหมดนี้ เป็นพิษสงจากอะไรพอจะเดากันได้ไหม...

ปูพื้นก่อนว่าเวเนซุเอลามีธารน้ำแข็งสำคัญทั้งหมด 6 แห่ง ตั้งอยู่บนเทือกเขาเซียร์ราเนวาดา เด เมริดา อยู่บนความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 5,000 เมตร แต่ธารน้ำแข็งทั้ง 5 แห่งได้ละลายหายไปก่อนแล้วในปี 2554 ซึ่งขณะนี้ ธารน้ำแข็งฮุมโบลดต์ ก็ตามเพื่อนไปแล้ว

"ฮูลิโอ ซีซาร์ เซนเตโน ที่ปรึกษาการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยสิ่งแวดล้อมและการพัฒนา (UNCED) เปิดเผยกับสำนักข่าว AFP ว่า "เวเนซุเอลาไม่มีธารน้ำแข็งอีกแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่คือชิ้นส่วนน้ำแข็ง ในสัดส่วน 0.4% ของธารน้ำแข็งเดิม"


ต้องบอกว่า ประเทศอื่น ๆ สูญเสียธารน้ำแข็งไปเมื่อหลายสิบปีก่อน ก่อนที่โลกจะเกิดการปฏิวัติครั้งใหญ่ แต่ถ้านับปัจจุบัน เวเนซุเอลาถือเป็นเคสแรกที่ธารน้ำแข็งละลายเพราะโลกเดือด


เวเนซุเอลา อากาศร้อนทุบค่าเฉลี่ย

อย่างไรก็ดี เมื่อไปดูอุณหภูมิของเวเนซุเอลาในเขตพื้นที่แอนเดียน พบว่าหลายเดือนมีอากาศร้อนเกินค่าเฉลี่ยราว 3 ? 4 องศา ผนวกกับปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่เป็นตัวเร่งให้อุณหภูมิพุ่งสูงเข้าไปใหญ่ อากาศร้อนขนาดนี้ จึงไม่แปลกใจที่ธารน้ำแข็งละลายไปจนหมด

อันที่จริงมีสัญญานเตือนมาสักระยะแล้ว เริ่มมีการสังเกตว่าน้ำแข็งมันเริ่มละลาย รัฐบาลเวเนซุเอลาจึงสั่งติดตั้งผ้าห่มกันความร้อนเพื่อป้องกันการละลายเพิ่มเติม แต่ไม่เป็นผล...

ไม่แน่ใจว่าโลกจะถอดบทเรียนจากเคสของเวเนซุเอลามากแค่ไหน แต่คงไม่ต้องอธิบายให้มากความอีกแล้วว่า สิ่งใดเป็นต้นเหตุให้โลกเคลื่อนเข้าสู่สภาวะที่เดือดเป็นหม้อไฟเช่นนี้


เตือน! เหยื่อน้ำแข็งละลายรายต่อไป

ข่าวร้ายไปกว่านั้นอีกคือ เวเนซุเอลาจะไม่อยู่คนเดียวในลิสต์ประเทศที่ธารน้ำแข็งละลายอย่างเหงาหงอยแน่นอน เพราะหากสภาพอากาศโลกยังแปรปรวนเพราะภาวะโลกเดือด (Global Boiling) แบบนี้

เว็บไซต์ Herrera ได้คาดการณ์ว่าประเทศที่จะปราศจากน้ำแข็งรายต่อไปคือ อินโดนีเซีย เม็กซิโก และสโลวีเนีย


ที่มา: The Guardian, Eco Watch


https://www.springnews.co.th/keep-th...-change/850147
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 10-05-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is online now
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก SpringNews



เปิด 7 ประโยชน์ ที่ "แนวปะการัง" มอบให้กับท้องทะเลไทย


SHORT CUT

- โลกเดือด อากาศเดือดกว่า! ส่งผลให้อุณหภูมิน้ำทะเลไทยพุ่งทะเล 32 องศา พื้นที่ชายฝั่งอันดามันและอ่าวไทยเกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวแล้ว

- เคสล่าสุดเกิดขึ้นที่ เกาะปลิง จ. ภูเก็ต แนวปะการังเกิดการฟอกขาวแล้ว ทำให้อุทยานแห่งชาติสิรินาถต้องประกาศปิดการท่องเที่ยวบริเวณเกาะปลิงและแนวปะการังเป็นการชั่วคราว

- สปริงพาไปดู 7 ประโยชน์ของแนวปะการัง ที่เป็นทั้งบ้าน แหล่งอาหาร แหล่งกำเนิดวัตถุดิบสำคัญ เป็นเกราะป้องกันการกัดเซาะ เรื่อยไปจนถึงเป็นผลดีในแง่การสร้างเม็ดเงินเข้าประเทศ




ครั้งก่อน สปริงพาไปทำความรู้จักกับแนวปะการังในไทยมาแล้ว ว่าอยู่ที่ไหน และมีจำนวนเท่าไร บทความชิ้นนี้จะพาทุกคนไปดูประโยชน์ของแนวปะการังกัน แล้วคนจะรู้ว่า แนวปะการังใต้ท้องทะเลนั้นสำคัญไฉน

ตอนนี้โลกใต้บาดาลเรียกได้ว่าเดือดไม่แพ้บนดิน เพราะอากาศร้อนถึงขั้นส่งผลให้อุณหภูมิน้ำทะเลพุ่งทะลุ 32 องศา ส่งผลให้ทั้งชายฝั่งอ่าวไทยและอันดามันเกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว (Coral Bleaching) เป็นที่เรียบร้อย


ปะการังฟอกขาวที่เกาะปลิง จ.ภูเก็ต

เคสล่าสุดเกิดขึ้นที่ เกาะปลิง จังหวัดภูเก็ต พบว่าแนวปะการังเกิดการฟอกขาวแล้ว ทำให้อุทยานแห่งชาติสิรินาถต้องประกาศปิดการท่องเที่ยวบริเวณเกาะปลิงและแนวปะการังเป็นการชั่วคราว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อแนวปะการัง

นี่เป็นแค่กรณีตัวอย่าง แต่คาดว่าเราจะได้ยินข่าวปะการังฟอกขาวกันบ่อยครั้งยิ่งขึ้น เพราะแนวปะการังทนอุณหภูมิของท้องทะเลไทยไม่ไหว น้ำเดือดประหนึ่งอยู่ในหม้อไฟร้อน ๆ

ด้วยเหตุนี้ สปริงจึงขอพาทุกคนไปสำรวจประโยชน์ของแนวปะการังอีกครั้ง สปริงรวบรวมมาได้ทั้งหมด 7 ข้อ เราจะเห็นว่าแนวปะการังเป็นทั้งบ้าน แหล่งอาหาร แหล่งกำเนิดวัตถุดิบสำคัญ เป็นเกราะป้องกันการกัดเซาะ เรื่อยไปจนถึงเป็นผลดีในแง่การสร้างเม็ดเงินเข้าประเทศ

อย่างไรก็ดี ประโยชน์ทั้ง 7 ข้อนี้จะไม่มีความหมายใดใดเลย อะไรที่เราเคยได้รับ เราก็จะไม่ได้สิ่งนั้นแล้ว หากแนวปะการังซึ่งเป็นบ้านหลังใหญ่ของสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลถูกพิษสงของทะเลเดือดเล่นงานจนเป็นปะการังฟอกขาวตายไปหมด


เปิด 7 ประโยชน์ของแนวปะการัง

1. แหล่งที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหาร : สิ่งมีชีวิตต่างๆ ใช้แนวปะการังเป็นแหล่งสืบพันธุ์ แหล่งวางไข่ แหล่งอนุบาลตัวอ่อน แหล่งหลบภัย และแหล่งหากิน แนวปะการังเป็นแหล่งที่มีผลผลิตทางชีวภาพสูง ผลผลิตประเภทปลาเศรษฐกิจหลายชนิดพบในแนวปะการัง

2. แหล่งหลบภัยให้กับสัตว์นานาชนิดตั้งแต่ช่วงวัยอ่อนจนถึงตัวเต็มวัย

3. แหล่งทำการประมง : เนื่องจากเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหารของสิ่งมีชีวิตมากมายใต้ท้องทะเล

4. แนวป้องกันชายฝั่งจากการกัดเซาะของคลื่นและกระแสน้ำ : บริเวณชายฝั่งที่แนวปะการังถูกทำลายจะถูกกัดเซาะอย่างรุนแรงจากคลื่นลมทะเลในฤดูมรสุม

5. แหล่งของสิ่งมีชีวิตที่มีความสำคัญทางด้านเภสัช : ตัวยาหลายชนิด มีแนวโน้มว่าพบได้ในปะการัง รวมทั้งในสิ่งมีชีวิตในแนวปะการังหลายชนิด เช่น การสกัดสารจากเพรียง-หัวหอม สำหรับเป็นตัวยาต้านมะเร็ง และหินปะการังบางชนิด ได้แก่ ปะการังดอกไม้ทะเล (Goniopora spp.) ใช้ในการทำกระดูกเทียมรักษาผู้ป่วยที่กระดูกหัก

6. แหล่งกำเนิดเม็ดทราย : จากการสึกกร่อนของโครงสร้างหินปูน การกัดกร่อนโดยสัตว์ทะเลบางชนิด และจากกระแสคลื่น ซึ่งทำให้หินปูนปะการังแตกละเอียดเป็นเม็ดทรายที่ขาวสะอาด มีการประมาณว่าแร่ธาตุแคลเซียมคาร์บอเนตที่ทับถมในมหาสมุทรนั้น ร้อยละ 50 เกิดจากแนวปะการัง

7. แหล่งท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ให้แก่ประเทศอย่างมหาศาล : มูลค่าแนวปะการังด้านการท่องเที่ยว คิดเป็นเงินประมาณ 84,357 ล้านบาท ต่อปี


ที่มา: กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง


https://www.springnews.co.th/keep-th...ronment/850157
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:33


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger