![]() |
|
|
|
#1
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก Nation
อัปเดตสถานการณ์ "ปะการังฟอกขาว" ล่าสุด พบในเขตอุทยานฯ 12 แห่ง สั่งปิดพื้นที่ห้ามรบกวน ......... ต่อ "ปะการังฟอกขาว" คืออะไร มีผลกระทบอย่างไรกับโลกใต้ทะเล อ้างอิงข้อมูลจาก ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา อธิบายเกี่ยวกับ "ปะการังฟอกขาว" (Coral bleaching) ว่า เป็นปรากฏการณ์ที่เนื้อเยื่อปะการังมีสีซีดหรือจางลงจากการสูญเสีย "สาหร่ายซูแซนเทลลี" (zooxanthellae) ซึ่งเกิดจากสภาวะที่ไม่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตของสาหร่าย เช่น อุณหภูมิน้ำทะเลสูงเกินไป มีน้ำจืดไหลลงมาทำให้ความเค็มลดลง ตะกอนที่ถูกน้ำจืดไหลพัดพามาจากชายฝั่ง หรือแม้แต่มลพิษที่เกิดจากการใช้ประโยชน์ทางทะเลของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยน้ำเสีย การใช้ครีมกันแดด การทิ้งขยะตามแนวชายหาดก็ล้วนมีผลให้สาหร่ายซูแซนเทลลีออกมาจากเนื้อเยื่อของปะการังเพื่อความอยู่รอด นอกจากนี้ "ปะการังฟอกขาว" ยังเป็นสัญญาณเตือนหนึ่งของวิกฤตโลกร้อน เนื่องจากปะการังเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงทางสภาพแวดล้อมในมหาสมุทร การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิน้ำทะเลเพียง 1?2 องศาเซลเซียส ภายในระยะเวลา 3 สัปดาห์ สามารถทำให้ปะการังเกิดการฟอกขาวขึ้นได้ ผลกระทบ เมื่อปะการังเกิดการฟอกขาว ย่อมส่งผลกระทบต่อโลกใต้ท้องทะเล เช่น - ปริมาณสัตว์น้ำลดลงเนื่องจากขาดแหล่งอนุบาล - ปะการังฟอกขาวทำให้แนวปะการังเสื่อมโทรม ส่งผลให้กระทบต่อสมดุลในระบบนิเวศแนวปะการัง - ปะการังเกิดความเสื่อมโทรม ส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว ปะการังฟอกขาว จึงเป็นเรื่องใกล้ตัวมากกว่าที่คิด อีกทั้ง สิ่งมีชีวิตอย่างปะการัง มีคุณค่ากับท้องทะเลเช่นเดียวกับสัตว์น้ำอื่นๆ หากมันหายไปย่อมส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเล ซึ่งเราเองก็สามารถช่วยกันดูแลรักษา และอนุรักษ์แนวปะการังได้ โดยเริ่มจากการลดการสร้างมลภาวะ เช่น ไม่ทิ้งขยะลงทะเลและตามชายฝั่ง , หลีกเลี่ยงการกระทำที่จะเป็นการทำลายแนวปะการัง เป็นต้น หากพบเห็นการเกิดปะการังฟอกขาว สามารถแจ้งข่าวสารผ่านเว็บไซต์ https://thailandcoralbleaching.dmcr.go.th/th เพื่อทุกฝ่ายจะได้เตรียมพร้อมรับมือและลงพื้นที่ติดตาม เฝ้าระวังสถานการณ์ปะการังฟอกขาวอย่างใกล้ชิดต่อไป ขอบคุณข้อมูลและภาพบางส่วนจาก : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เฟซบุ๊ก ทราย สก๊อต เฟซบุ๊กเพจ Environman https://www.bangkokbiznews.com/environment/1117126 https://sciplanet.org/content/8276 https://hub.mnre.go.th/th/knowledge/detail/65637 https://km.dmcr.go.th/c_3/d_1772 https://www.springnews.co.th/keep-th...ronment/848470 https://thailandcoralbleaching.dmcr....oral/detail/83 Scimath คลังความรู้ มูลนิธิสืบนาคะเสถียร https://www.nationtv.tv/news/social/378943652
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
#2
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก SpringNews
โลกร้อนทำให้ธารน้ำแข็งแห่งสุดท้ายใน "เวเนซุเอลา" ละลายหมดแล้ว SHORT CUT - เวเนซุเอลามีธารน้ำแข็ง 6 แห่ง ตั้งอยู่บนเทือกเขาเซียร์ราเนวาดา เด เมริดา อยู่บนความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 5,000 เมตร แต่ธารน้ำแข็งทั้ง 5 แห่งได้ละลายหายไปก่อนแล้วในปี 2554 - อากาศในเวเนซุเอลา หลายเดือนมีอากาศร้อนเกินค่าเฉลี่ยราว 3 ? 4 องศา ผนวกกับปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่เป็นตัวเร่งให้อุณหภูมิพุ่งสูงเข้าไปใหญ่ - เว็บไซต์ Herrera ได้คาดการณ์ว่าประเทศที่จะปราศจากน้ำแข็งรายต่อไปคือ อินโดนีเซีย เม็กซิโก และสโลวีเนีย ![]() หากใครยังสงสัยอยู่ว่าโลกร้อนมันร้อนขึ้นแค่ไหนกันนะ springnews อยากให้ลองอ่านเคสนี้เป็นกรณีศึกษา จากน้ำแข็งที่ปกคลุมทั่วทั้งภูเขา แถมอยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเล 5,000 เมตร ยังถูกอากาศร้อนเล่นงาน จนน้ำแข็งละลายหายเกลี้ยง เวเนซุเอลาไม่เหลือธารน้ำแข็งอีกแล้ว เว็บไซต์ The Guardian รายงานว่า ขณะนี้ ธารน้ำแข็งแห่งสุดท้ายในเวเนซุเอลาได้ละลายไปหมดแล้ว เหลือแค่ภูเขาเกลี้ยงเตียนทิ้งไว้ดูต่างหน้า ทั้งหมดนี้ เป็นพิษสงจากอะไรพอจะเดากันได้ไหม... ปูพื้นก่อนว่าเวเนซุเอลามีธารน้ำแข็งสำคัญทั้งหมด 6 แห่ง ตั้งอยู่บนเทือกเขาเซียร์ราเนวาดา เด เมริดา อยู่บนความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 5,000 เมตร แต่ธารน้ำแข็งทั้ง 5 แห่งได้ละลายหายไปก่อนแล้วในปี 2554 ซึ่งขณะนี้ ธารน้ำแข็งฮุมโบลดต์ ก็ตามเพื่อนไปแล้ว "ฮูลิโอ ซีซาร์ เซนเตโน ที่ปรึกษาการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยสิ่งแวดล้อมและการพัฒนา (UNCED) เปิดเผยกับสำนักข่าว AFP ว่า "เวเนซุเอลาไม่มีธารน้ำแข็งอีกแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่คือชิ้นส่วนน้ำแข็ง ในสัดส่วน 0.4% ของธารน้ำแข็งเดิม" ต้องบอกว่า ประเทศอื่น ๆ สูญเสียธารน้ำแข็งไปเมื่อหลายสิบปีก่อน ก่อนที่โลกจะเกิดการปฏิวัติครั้งใหญ่ แต่ถ้านับปัจจุบัน เวเนซุเอลาถือเป็นเคสแรกที่ธารน้ำแข็งละลายเพราะโลกเดือด เวเนซุเอลา อากาศร้อนทุบค่าเฉลี่ย อย่างไรก็ดี เมื่อไปดูอุณหภูมิของเวเนซุเอลาในเขตพื้นที่แอนเดียน พบว่าหลายเดือนมีอากาศร้อนเกินค่าเฉลี่ยราว 3 ? 4 องศา ผนวกกับปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่เป็นตัวเร่งให้อุณหภูมิพุ่งสูงเข้าไปใหญ่ อากาศร้อนขนาดนี้ จึงไม่แปลกใจที่ธารน้ำแข็งละลายไปจนหมด อันที่จริงมีสัญญานเตือนมาสักระยะแล้ว เริ่มมีการสังเกตว่าน้ำแข็งมันเริ่มละลาย รัฐบาลเวเนซุเอลาจึงสั่งติดตั้งผ้าห่มกันความร้อนเพื่อป้องกันการละลายเพิ่มเติม แต่ไม่เป็นผล... ไม่แน่ใจว่าโลกจะถอดบทเรียนจากเคสของเวเนซุเอลามากแค่ไหน แต่คงไม่ต้องอธิบายให้มากความอีกแล้วว่า สิ่งใดเป็นต้นเหตุให้โลกเคลื่อนเข้าสู่สภาวะที่เดือดเป็นหม้อไฟเช่นนี้ เตือน! เหยื่อน้ำแข็งละลายรายต่อไป ข่าวร้ายไปกว่านั้นอีกคือ เวเนซุเอลาจะไม่อยู่คนเดียวในลิสต์ประเทศที่ธารน้ำแข็งละลายอย่างเหงาหงอยแน่นอน เพราะหากสภาพอากาศโลกยังแปรปรวนเพราะภาวะโลกเดือด (Global Boiling) แบบนี้ เว็บไซต์ Herrera ได้คาดการณ์ว่าประเทศที่จะปราศจากน้ำแข็งรายต่อไปคือ อินโดนีเซีย เม็กซิโก และสโลวีเนีย ที่มา: The Guardian, Eco Watch https://www.springnews.co.th/keep-th...-change/850147
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
#3
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก SpringNews
เปิด 7 ประโยชน์ ที่ "แนวปะการัง" มอบให้กับท้องทะเลไทย SHORT CUT - โลกเดือด อากาศเดือดกว่า! ส่งผลให้อุณหภูมิน้ำทะเลไทยพุ่งทะเล 32 องศา พื้นที่ชายฝั่งอันดามันและอ่าวไทยเกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวแล้ว - เคสล่าสุดเกิดขึ้นที่ เกาะปลิง จ. ภูเก็ต แนวปะการังเกิดการฟอกขาวแล้ว ทำให้อุทยานแห่งชาติสิรินาถต้องประกาศปิดการท่องเที่ยวบริเวณเกาะปลิงและแนวปะการังเป็นการชั่วคราว - สปริงพาไปดู 7 ประโยชน์ของแนวปะการัง ที่เป็นทั้งบ้าน แหล่งอาหาร แหล่งกำเนิดวัตถุดิบสำคัญ เป็นเกราะป้องกันการกัดเซาะ เรื่อยไปจนถึงเป็นผลดีในแง่การสร้างเม็ดเงินเข้าประเทศ ![]() ครั้งก่อน สปริงพาไปทำความรู้จักกับแนวปะการังในไทยมาแล้ว ว่าอยู่ที่ไหน และมีจำนวนเท่าไร บทความชิ้นนี้จะพาทุกคนไปดูประโยชน์ของแนวปะการังกัน แล้วคนจะรู้ว่า แนวปะการังใต้ท้องทะเลนั้นสำคัญไฉน ตอนนี้โลกใต้บาดาลเรียกได้ว่าเดือดไม่แพ้บนดิน เพราะอากาศร้อนถึงขั้นส่งผลให้อุณหภูมิน้ำทะเลพุ่งทะลุ 32 องศา ส่งผลให้ทั้งชายฝั่งอ่าวไทยและอันดามันเกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว (Coral Bleaching) เป็นที่เรียบร้อย ปะการังฟอกขาวที่เกาะปลิง จ.ภูเก็ต เคสล่าสุดเกิดขึ้นที่ เกาะปลิง จังหวัดภูเก็ต พบว่าแนวปะการังเกิดการฟอกขาวแล้ว ทำให้อุทยานแห่งชาติสิรินาถต้องประกาศปิดการท่องเที่ยวบริเวณเกาะปลิงและแนวปะการังเป็นการชั่วคราว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อแนวปะการัง นี่เป็นแค่กรณีตัวอย่าง แต่คาดว่าเราจะได้ยินข่าวปะการังฟอกขาวกันบ่อยครั้งยิ่งขึ้น เพราะแนวปะการังทนอุณหภูมิของท้องทะเลไทยไม่ไหว น้ำเดือดประหนึ่งอยู่ในหม้อไฟร้อน ๆ ด้วยเหตุนี้ สปริงจึงขอพาทุกคนไปสำรวจประโยชน์ของแนวปะการังอีกครั้ง สปริงรวบรวมมาได้ทั้งหมด 7 ข้อ เราจะเห็นว่าแนวปะการังเป็นทั้งบ้าน แหล่งอาหาร แหล่งกำเนิดวัตถุดิบสำคัญ เป็นเกราะป้องกันการกัดเซาะ เรื่อยไปจนถึงเป็นผลดีในแง่การสร้างเม็ดเงินเข้าประเทศ อย่างไรก็ดี ประโยชน์ทั้ง 7 ข้อนี้จะไม่มีความหมายใดใดเลย อะไรที่เราเคยได้รับ เราก็จะไม่ได้สิ่งนั้นแล้ว หากแนวปะการังซึ่งเป็นบ้านหลังใหญ่ของสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลถูกพิษสงของทะเลเดือดเล่นงานจนเป็นปะการังฟอกขาวตายไปหมด เปิด 7 ประโยชน์ของแนวปะการัง 1. แหล่งที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหาร : สิ่งมีชีวิตต่างๆ ใช้แนวปะการังเป็นแหล่งสืบพันธุ์ แหล่งวางไข่ แหล่งอนุบาลตัวอ่อน แหล่งหลบภัย และแหล่งหากิน แนวปะการังเป็นแหล่งที่มีผลผลิตทางชีวภาพสูง ผลผลิตประเภทปลาเศรษฐกิจหลายชนิดพบในแนวปะการัง 2. แหล่งหลบภัยให้กับสัตว์นานาชนิดตั้งแต่ช่วงวัยอ่อนจนถึงตัวเต็มวัย 3. แหล่งทำการประมง : เนื่องจากเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหารของสิ่งมีชีวิตมากมายใต้ท้องทะเล 4. แนวป้องกันชายฝั่งจากการกัดเซาะของคลื่นและกระแสน้ำ : บริเวณชายฝั่งที่แนวปะการังถูกทำลายจะถูกกัดเซาะอย่างรุนแรงจากคลื่นลมทะเลในฤดูมรสุม 5. แหล่งของสิ่งมีชีวิตที่มีความสำคัญทางด้านเภสัช : ตัวยาหลายชนิด มีแนวโน้มว่าพบได้ในปะการัง รวมทั้งในสิ่งมีชีวิตในแนวปะการังหลายชนิด เช่น การสกัดสารจากเพรียง-หัวหอม สำหรับเป็นตัวยาต้านมะเร็ง และหินปะการังบางชนิด ได้แก่ ปะการังดอกไม้ทะเล (Goniopora spp.) ใช้ในการทำกระดูกเทียมรักษาผู้ป่วยที่กระดูกหัก 6. แหล่งกำเนิดเม็ดทราย : จากการสึกกร่อนของโครงสร้างหินปูน การกัดกร่อนโดยสัตว์ทะเลบางชนิด และจากกระแสคลื่น ซึ่งทำให้หินปูนปะการังแตกละเอียดเป็นเม็ดทรายที่ขาวสะอาด มีการประมาณว่าแร่ธาตุแคลเซียมคาร์บอเนตที่ทับถมในมหาสมุทรนั้น ร้อยละ 50 เกิดจากแนวปะการัง 7. แหล่งท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ให้แก่ประเทศอย่างมหาศาล : มูลค่าแนวปะการังด้านการท่องเที่ยว คิดเป็นเงินประมาณ 84,357 ล้านบาท ต่อปี ที่มา: กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง https://www.springnews.co.th/keep-th...ronment/850157
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
![]() |
|
|