เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

 
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
Prev คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป Next
  #5  
เก่า 14-08-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก SpringNews


"นักฆ่าเงียบ" อากาศร้อนที่คร่าชีวิตชาวยุโรปแล้ว 50,000 รายในปีเดียว


SHORT CUT

- อากาศร้อนที่เกิดจากมลพิษคาร์บอน คร่าชีวิตผู้คนในยุโรปไปเกือบ 50,000 รายเมื่อปีที่แล้ว

- ความพยายามของผู้คนในการปรับตัวกับความร้อนช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตได้ แต่ก็ยังเป็นอัตราการเสียชีวิตที่มากเกินไป

- แพทย์แนะนำให้ทุกคนดูแลตัวเองเบื้องต้น หลีกเลี่ยงการเผชิญความร้อน




อากาศร้อนในยุโรปได้ถูกแพทย์นิยามให้เป็น "นักฆ่าเงียบ" หลังมีคนต้องเสียชีวิตเกือบ 50,000 ราย ในปี 2566 ซึ่งเป็นอัตราการเสียชีวิตที่ร้ายแรงเกินกว่าที่มีการคาดการณ์

นักวิจัยพบว่า อากาศร้อนอบอ้าวที่เกิดจากมลพิษคาร์บอน ได้คร่าชีวิตผู้คนในยุโรปไปเกือบ 50,000 รายเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ทวีปยุโรปกำลังร้อนขึ้นในอัตราที่รวดเร็วกว่าทวีปอื่นของโลกถึงสองเท่า ทำให้เกิดไฟป่าลุกลามในป่านอกกรุงเอเธนส์ของกรีซ ฝรั่งเศสต้องออกคำเตือนถึงอากาศที่ร้อนมากเกินไปสำหรับการออกกลางแจ้ง และสหราชอาณาจักรก็ต้องรับมือกับวันที่ร้อนที่สุดของปี

ผลการวิจัยยังพบว่า ความพยายามในการปรับตัวทางสังคมเพื่อรับมือกับคลื่นความร้อนนั้นเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพ เพราะหากผู้คนไม่ปรับตัวเข้ากับอุณหภูมิที่สูงขึ้นในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ตัวเลขการเสียชีวิตดังกล่าวอาจเพิ่มสูงขึ้นอย่างน้อยอีก 80%

อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้เสียชีวิตก็ยังนับว่าสูงจนเกินไป โดยอัตราการเสียชีวิตสูงสุดอยู่ที่กรีซ ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 393 ราย ต่อประชากร 1 ล้านคน ตามมาด้วยอิตาลีที่ 209 รายต่อ 1 ล้านคน และสเปน 175 รายต่อ 1 ล้านคน

ดร.ซานติ ดี. ปิเอโตร ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านเวชศาสตร์ฉุกเฉินที่มหาวิทยาลัยปาเวีย กล่าวว่า ตอนนี้ทีมแพทย์ต้องรักษาผู้ป่วยจำนวนมากกว่าปกติ โดยเฉพาะในช่วงฤดูไข้หวัดใหญ่เมื่อต้นเดือนมกราคม พร้อมย้ำว่า ปัญหาความร้อนจะต้องได้รับการแก้ไขในทุกระดับ

ส่วนผู้คนก็สามารถใช้มาตรการง่ายๆเพื่อปกป้องตนเองและคนที่พวกเขารักได้ เช่น การหลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วงเวลาที่ร้อนที่สุดของวัน หาที่ร่มเมื่ออยู่ข้างนอก และดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม โดยเฉพาะผู้สูงอายุซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะมีภาวะขาดน้ำ เพราะพวกเขาไม่รู้ถึงความกระหาย จึงควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ

ที่มา: The Guardian


https://www.springnews.co.th/keep-th...-change/852076


__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
 


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 09:42


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger