เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 22-08-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก SpringNews


เปิดข้อเสนอทางวิชาการ 3 แนวทาง แก้ปัญหาก่อน "กรุงเทพจมทะเล"


SHORT CUT

- คุยกับ รศ.ดร.สุจริต คูณธนกุลวงศ์ อดีตอาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมแหล่งน้ำ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อดีตคณะทำงานศึกษาเรื่องกรุงเทพจมน้ำของสภาปฏิรูปแห่งชาติ

- นักวิชาการมี 3 ข้อเสนอที่จำเป็นต้องทำ ถ้ามิเช่นนั้น "กรุงเทพ มีโอกาสจมน้ำ" ได้จริง ในอีก 40-50 ปีข้างหน้า แต่ปัจจุบันผ่านมาแล้ว 10 ปี ยังไม่มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม หรือการสื่อสารทางการเพื่อแสวงหาฉันทามติของสังคม

- เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ใช้ทุนสูง ดังนั้นต้องขับเคลื่อนเรื่อง "เงิน-สังคม-สิ่งแวดล้อม" ไปพร้อมกัน ก่อนเมืองหลวงของไทย จะจมหายไปในทะเล




มีข้อเสนอ แต่ไม่ได้สนอง...นักวิชาการบอก "กรุงเทพฯ จ" แน่ ต้องแก้ด้วย 3 แนวทาง แต่ผ่านมา 10 ปี ไทยไม่เลือกอะไรสักทาง หวังเห็นพิมพ์เขียวเพื่อให้สังคมเห็นร่วมกันว่าต้องป้องกันเรื่องนี้

"กรุงเทพฯ จม" เคยเป็นวาระสำคัญที่บรรดานักวิชาการเคยเข้ามาทำงานอย่างเป็นรูปธรรมครั้งหนึ่งในช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมือง หลังรัฐประหารปี 2557 ก่อเกิด "สภาปฏิรูปแห่งชาติ" ที่ทำงานตอบสนองวาระ "ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง" เพื่อศึกษาปัญหาต่างๆ ทุกแง่มุมในสังคม เพื่อนำไปสู่ข้อเสนอเพื่อแก้ไขปัญหา โดยตั้งอยู่บน 3 ปัจจัยก่อนกรุงเทพจะจม คือ แผ่นดินจะทรุดลงไหม? น้ำทะเลจะหนุนสูงขึ้นกว่าเดิมไหม? ฝนที่เคยตกหนักจะตกหนักกว่าเดิมได้อีกหรือเปล่า? แล้วกรุงเทพฯ เมืองหลวงที่อยู่ใกล้ปากแม่น้ำ พื้นดินสูงกว่าระดับน้ำทะเลไม่เกิน 2 เมตร จะรอดได้ไหม?

"ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย ยังไงกรุงเทพฯ ก็จะจมน้ำ" คือคำที่ ดร.สุจริต คูณธนกุลวงศ์ หนึ่งในคณะกรรมการการเตรียมการเพื่อรับมือวิกฤตการณ์ "กรุงเทพจม" ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ บอกสิ่งที่คณะทำงานคิดเอาไว้ตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว ว่าสิ่งที่คาดการณ์ ทั้งเรื่องแนวโน้มน้ำทะเลจะสูงขึ้น ฝนจะตกหนักขึ้น ล้วนเกิดขึ้นครบแล้วทุกสิ่ง ตอนนี้กรุงเทพฯ ยังอยู่รอดเพราะแม่น้ำและคันกั้นน้ำริมตลิ่งยังทำหน้าที่ได้ดี แต่วันใดที่น้ำทะเลหนุนจนการพร่องน้ำในแม่น้ำมีปัญหา แม้จะขุดบายพาสเร่งระบาย ก็ระบายไม่ออกเพราะทะเลหนุน วันนั้นแหละต้องนับหนึ่ง "กรุงเทพฯ จม" โดยที่เราจะทำอะไรไม่ทัน

ดร.สุจริต บอกกับ SPRiNG ว่าคณะทำงานฯ เคยได้มีข้อเสนอแผน 3 แนวทางที่ต้องทำเพื่อป้องกันกรุงเทพฯ จม ใต้การคาดการณ์ว่าอีก 50 ปี ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นอีก 50 เซนติเมตร คือ ต้องยกคันกั้นน้ำริมตลิ่งให้สูงขึ้นเป็น 3.5 เมตร หรือสร้างเขื่อนปิดแม่น้ำสายสำคัญ เช่น เจ้าพระยา แม่กลอง หรือการสร้างเขื่อนกั้นปิดทะเลอ่าวไทยตั้งแต่หิวหินถึงสัตหีบ


แนวทางแรก ยกคันกั้นน้ำริมตลิ่งให้สูงขึ้น

จะรับได้ไหมถ้าต้องเสียทัศนียภาพ ความสวยงามของแม่น้ำไปเลย เพราะเราอาจจะต้องมีกำแพงริมแม่น้ำที่สูงมากเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมเมือง


แนวทางที่สอง การสร้างประตูเขื่อนปิดปากแม่น้ำ

เมื่อน้ำทะเลขึ้นก็ปิด น้ำทะเลลดระดับก็เปิดให้น้ำระบายออก เพื่อไม่ให้น้ำขึ้นท่วมเข้ามาในเมือง และยกระดับถนนสายสำคัญเพื่อเป็นคันกั้นน้ำ เป็นโมเดลที่หลายประเทศทำแล้ว เช่น ญี่ปุ่น แต่ข้อท้าทายคือระบบนี้จะต้องรื้อระบบบำบัดน้ำเสียของ กทม.ใหม่ทั้งหมด เพราะเมื่อไม่มีน้ำทะเลมาผสมฆ่าเชื้อโรค น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะเน่าทันทีภายใน 7 ชั่วโมง


แนวทางที่สาม การสร้างถนนหรือเขื่อนปิดแนวทะเลอ่าวไทย

จากหัวหินถึงสัตหีบ มูลค่าประมาณแสนล้านบาท แล้วสร้างแนวกังหันลมปั่นไฟจากลมทะเล แต่จะสร้างผลกระทบขนาดใหญ่ต่อระบบนิเวศ ระบบมวลของน้ำจะไม่เหมือนเดิม น้ำขึ้น-น้ำลงจะเปลี่ยนไป ชายหาดจะเปลี่ยนไปตลอดกาล

"เราให้เวลา 10 ปีจากวันนั้นติดตามว่าการคาดการณ์แผ่นดินทรุดดีขึ้นไหม ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นหรือเปล่า และฝนจะตกหนักกว่าเดิมไหม จนถึงวันนี้ ผ่านมา 10 ปีพอดี (2558-2567) พบว่าเป็นไปตามที่คาดไว้ เดี๋ยวนี้ฝนตกแรงขึ้นจริง น้ำทะเลขึ้นอาจมีเวลาอีก 5-10 ปี แผ่นดินทรุดดีขึ้นเพราะหยุดสูบน้ำบาดาล แต่เรายังไม่ตัดสินใจว่าจะทำ หรือไม่ทำ แล้วถ้าทำจะทำในรูปแบบ 1, 2 หรือ 3" ดร.สุจริต กล่าว

ปัจจุบัน นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ศึกษาผลกระทบและออกแบบแผน ทำ Master Plan และ SEA แต่ก็ยังไม่มีการสั่งการอะไรจากทางการเมืองที่มีอำนาจจัดสรรงบประมาณ และเรื่องสำคัญกว่านั้นคือการสร้าง "ฉันทามติ" ของประชาชนทุกพื้นที่ที่มีส่วนได้ส่วนเสียว่าเรื่องนี้สำคัญอย่างไร และเราต้องมีจุดหมายเดียวกันเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมกรุงเทพฯ เพราะเป็นเรื่องใหญ่ งบประมาณเยอะ และกระทบต่ออนาคตของทุกคนอย่างไม่เลือกหน้า เป็นปัญหาเรื่อง "เงิน-สังคม-สิ่งแวดล้อม" ที่ต้องเดินไปพร้อมกัน

"ตอนนี้ทุกรัฐบาลเขามองแค่ว่าอีก 4 ปีจะเลือกตั้งยังไงให้กลับมาเป็นรัฐบาล ฉะนั้นอะไรที่ยาวให้นักวิชาการทำไปก่อน การแข่งขันทางการเมืองมันสูงมาก พอเราพูดกับเขา เขาบอกอาจารย์ทำไปก่อนได้ไหม ตอนนี้ของบศึกษาโครงการสัก 100-200 ล้านบาท ก็อาจจะไม่ได้ก็ได้นะ เพราะเอาไปทำดิจิทัลวอลเล็ตหมด ปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้มันไม่มีใคร Take Care ทุกวันนี้กลายเป็น Short Term Benefit ไปหมด มันมีความสำคัญน้อยกว่าสิ่งที่เขาคิดอยู่"


https://www.springnews.co.th/keep-th...-change/852241


__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:10


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger