![]() |
|
#1
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ยังคงมีอากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า สำหรับยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-14 องศาเซลเซียส และยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-15 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และระมัดระวังอันตรายจากการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอก สำหรับเกษตรกรบริเวณภาคเหนือตอนบนควรระวังความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตรที่จะเกิดขึ้นไว้ด้วย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนน้อย โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งทางตอนล่างของภาค กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมฆบางส่วน กับมีอากาศเย็น และมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 12 ? 13 ธ.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางที่ปกคลุมประเทศไทยอ่อนกำลังลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น แต่ยังคงมีอากาศเย็นโดยทั่วไปกับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนในช่วงวันที่ 14 - 15 ธ.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่อีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีน จะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 1?3 องศาเซลเซียส กับมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1?2 องศาเซลเซียส กับมีอากาศเย็นในตอนเช้า และ ในช่วงวันที่ 16-17 ธ.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยจะอ่อนกำลังลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า อนึ่ง ในช่วงวันที่ 14 - 17 ธ.ค. 64 หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณเกาะบอร์เนียวจะเคลื่อนผ่านประเทศมาเลเซีย ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้ตลอดช่วง และควรระมัดระวังการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย สำหรับเกษตรกรที่ตากผลผลิตทางการเกษตรบริเวณภาคเหนือตอนบนควรระวังความเสียหายจากฝนเล็กน้อยบางแห่งในวันที่ 12 ธ.ค.64 นี้ไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 14-17 ธ.ค. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก สำหรับชาวเรือบริเวณภาคใต้ตอนล่างควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย ![]() ![]()
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
#2
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
ไม่น่ามอง! ขยะทะเลกองเต็มชายหาดแหลมสมิหลา ผลจากคลื่นลมแรงในช่วงฤดูมรสุม ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชายหาดแหลมสมิหลา จ.สงขลา เต็มไปด้วยขยะทะเลจำนวนมากตลอดแนวชายหาดทั้ง 2 ด้าน บางจุดหนาแน่นจนไม่สามารถลงไปเดินเล่นได้ ผลจากคลื่นซัดเอาขยะจากทะเลในช่วงฤดูมรสุมที่มีคลื่นลมแรง ![]() วันนี้ (11 ธ.ค.) บรรยากาศที่บริเวณชายหาดแหลมสมิหลา อ.เมืองสงขลา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลชื่อดังของ จ.สงขลา ในวันหยุดยาวสุดสัปดาห์นี้ มีนักท่องเที่ยวทั้งคนในพื้นที่ และจากจังหวัดใกล้เคียงเดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อนตลอดแนวชายหาด และคลื่นลมในทะเลเริ่มอ่อนแรงลง ฝนเริ่มทิ้งช่วง ทำนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง แต่ตอนนี้สภาพตลอดแนวชายหาดแหลมสมิหลา กลับเต็มไปด้วยขยะจากทะเลจำนวนมากที่ถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยตื้นอยู่บริเวณแนวชายหาด ทั้งบริเวณหาดสมิหลา และหาดชลาทัศน์ ส่งผลกระทบกับสภาพภูมิทัศน์ของชายหาดเพราะเต็มไปด้วยขยะ ทั้งเศษท่อนไม้ กิ่งไม้ เศษอวน ขวดพลาสติก ขวดแก้ว และโฟมที่ถูกคลื่นซัดขึ้นมากองอยู่ริมชายหาดในช่วงฤดูมรสุมที่มีคลื่นลมแรง ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน และต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา บางจุดที่มีขยะทะเลกองจำนวนมาก นักท่องเที่ยวไม่สามารถลงไปเดินเล่นบริเวณชายหาดได้ ขณะที่ทางเทศบาลนครสงขลา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมจัดบิ๊กคลีนนิ่งชายหาดแหลมสมิหลาทันทีที่ผ่านพ้นช่วงฤดูมรสุม เนื่องจากขณะนี้สภาพคลื่นลมในทะเลยังค่อนข้างแรง เพื่อให้กลับมาเป็นชายหาดที่ขาวสะอาด และสวยงามเช่นเดิม เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงปีใหม่นี้ https://mgronline.com/south/detail/9640000122479
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
#3
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก มติชน
เต่าตนุขึ้นวางไข่ อุทยานฯสิมิลัน ติดตาม-ดูแลใกล้ชิด ![]() วันที่ 11 ธันวาคม นายดำรัส โพธิ์ประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากนายไพศาล บุญสวัสดิ์ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันว่า นายศุภเชษฐ์ ชะตาแก้ว หัวหน้าหน่วยฯ ที่ สล.3 (เกาะตาชัย) และทีมงาน ขณะออกดูแลความสะอาดเรียบร้อยบริเวณชายหาดทะเล เกาะตาชัย (เกาะที่ 11) ในพื้นที่ อช.สล. เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. เวลา 08.20 น. พบเต่าจำนวน 1 ตัว ขึ้นมาวางไข่ในหลุมทรายที่ชายหาดเกาะตาชัย อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันจึงได้สั่งการให้ทำการตรวจสอบชนิดและบันทึกภาพ โดยห้ามเข้ากระทำการใดๆ กับเต่าและหลุมทรายที่วางไข่ ให้ปล่อยเป็นไปธรรมชาติของเต่า และให้เจ้าหน้าที่ติดตามกลุ่มรังวางไข่ แบบห่างๆ ต่อไป ผลจากการตรวจ บันทึกภาพ และตรวจค้นข้อมูลประกอบ ได้ข้อสรุปว่า เป็นชนิด เต่าตนุ มีชื่อสามัญว่า Green Turtle ชื่อวิทยาศาสตร์ Chelonia mydas ที่พบเป็นเต่าตนุ มีขนาดประมาณ โตหรือยาว 1 เมตร น้ำหนัก 130 กก. ซึ่งปกติวางไข่ครั้งละ 70-150 ฟอง เป็นเต่าที่กินทั้งพืชและสัตว์ทะเลขนาดเล็กเป็นอาหาร เช่นจำพวกหญ้าทะเลหรือสาหร่ายทะเล ปลาทะเล หรือแมงกะพรุน และกลับมาวางไข่ในถิ่นกำเนิด ซึ่งมักพบเต่าตนุในเขตน้ำตื้นใกล้ชายฝั่งหรือตามเกาะต่างๆ โดยกระจายพันธุ์ในพื้นที่ประเทศไทย พบได้ในทะเลอ่าวไทยและทะเลอันดามัน สำหรับในพื้นที่ อช.สล. พบได้ทุกเกาะในพื้นที่ทะเล ตั้งแต่เกาะที่ 1-11 https://www.matichon.co.th/local/qua...e/news_3082622
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
#4
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS
เกาหลีใต้เตรียมสร้าง "Oceanix City เมืองลอยน้ำ" รับมือภัยพิบัติ ![]() เกาหลีใต้เตรียมสร้าง Oceanix City เมืองลอยน้ำให้กลายเป็นเมืองต้นแบบ และรับมือกับภัยพิบัติต่าง ๆ คาดว่าโครงการนี้จะแล้วเสร็จในปี 2025 เกาหลีใต้เตรียมสร้างเมืองลอยน้ำ Oceanix City เพื่อรองรับการเพิ่มจำนวนของประชากร และจัดการกับปัญหาภัยพิบัติต่าง ๆ โดยโปรเจกต์เมืองลอยน้ำนี้ได้รับการรับรองจากองค์การสหประชาชาติ (UN) เมื่อประสบความสำเร็จจะกลายเป็นเมืองลอยน้ำต้นแบบ เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดเมืองอื่น ๆ ทั่วโลกต่อไป โครงการนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2025 Oceanix City เป็นโปรเจกต์เมืองลอยน้ำที่ได้รับการยอมรับจาก UN-Habitat โดยเป็นโครงการที่เกิดจากความร่วมมือของ Oceanix และรัฐบาลเมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ โดยมีวัตถุประสงค์ในการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนโลก ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติต่าง ๆ เช่น น้ำท่วม สึนามิ พายุเฮอร์ริเคนระดับ 5 เป็นต้น รวมถึงการจัดสรรที่อยู่อาศัยให้เพียงพอกับจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้น รูปแบบของเมืองลอยน้ำ Oceanix City ถูกออกแบบมาให้เป็นการเชื่อมต่อของอาคารชุดแบบหกเหลี่ยม ต่อกันจนกลายเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่มีระบบจัดการตัวเอง สามารถผลิตและจัดสรรทรัพยากรสำหรับชาวเมืองได้อย่างยั่งยืน โดยตัวอาคารมีผิวผนังที่เคลือบด้วยหินปูนที่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้ การพึ่งพาตัวเองแบบยั่งยืนเป็นหนึ่งในแนวคิดสำคัญของการพัฒนาเมืองลอยน้ำ โดยมีแผงโซลาร์เซลล์ผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับใช้ในเมือง มีระบบจัดการน้ำเพื่อการบริโภคและทำเกษตรกรรม ขนาดของเมืองตามการคาดการณ์จะสามารถรองรับประชากรได้ถึง 10,000 คน บนพื้นที่ขนาด 75 เฮกตาร์ (500 ไร่) และมีโอกาสที่จะขยายพื้นที่ได้มากขึ้นตามการเติบโตของชุมชน แนวคิดการพัฒนาเมืองลอยน้ำ อาจดูเหมือนเป็นเรื่องที่อยู่เหนือจินตนาการ แต่หากการก่อสร้างประสบความเสร็จไปด้วยดี และได้ผลลัพธ์ตรงตามเงื่อนไขขององค์การสหประชาชาติ (UN) จะทำให้ Oceanix City ของประเทศเกาหลีใต้ กลายเป็นเมืองต้นแบบที่สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดในพื้นที่อื่นของโลกได้ต่อไป https://news.thaipbs.or.th/content/310562
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
![]() |
|
|