พฤศจิกายน 29, 2025, 12:51:28 AM
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว
: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ค้นหา
สมาชิก
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
กระดานข่าว Save Our Sea.net
>
หมวดหมู่ทั่วไป
>
ห้องรับแขก
(ผู้ดูแล:
สายชล
,
สายน้ำ
) >
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันอังคารที่ 19 สิงหาคม 2551
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันอังคารที่ 19 สิงหาคม 2551 (อ่าน 3987 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 4627
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันอังคารที่ 19 สิงหาคม 2551
«
เมื่อ:
สิงหาคม 19, 2008, 01:24:44 AM »
กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป
ร่องความกดอากาศต่ำกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักในระยะนี้ไว้ด้วย
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
คาดหมาย
ในช่วงวันที่ 19-23 ส.ค. ร่องความกดอากาศต่ำกำลังปานกลาง พาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลัง แรงขึ้นประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย และในช่วงวันที่ 21-23 ส.ค. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมจะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกชุกหนาแน่น โดยมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่
ในช่วงวันที่ 24-25 ส.ค. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้มีฝนลดลง
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 19-23 ส.ค.ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก อาทิเช่น บริเวณจังหวัด
เชียงราย พะเยา น่าน เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ สุรินทร์ อุบลราชธานี นครนายก และปราจีนบุรี
ระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย
Forecast.jpg
(16.67 KB, 232x381 - ดู 1163 ครั้ง.)
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 20, 2008, 01:01:04 AM โดย สายน้ำ
»
บันทึกการเข้า
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 4627
Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันอังคารที่ 19 สิงหาคม 2551
«
ตอบ #1 เมื่อ:
สิงหาคม 19, 2008, 01:43:34 AM »
ข่าวสด
จำกัดคนเข้าอุทยาน
:
คอลัมน์ บทบรรณาธิการ
ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ออกประกาศเรื่องการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ 10 แห่ง
โดยเริ่มนำร่องจากอุทยานแห่งชาติ 5 แห่ง ก็คืออุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ดอยปุย จ.เชียงใหม่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา นครนายก สระบุรี และปราจีนบุรี อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จ.กาญจนบุรี อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-เกาะเสม็ด จ.ระยอง และอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา
ที่ล้วนแล้วแต่เป็นแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่ได้รับความนิยมจากประชาชน
ต้องนับว่าเป็นความปรารถนาดี ที่เริ่มต้นเดินทางมาถูกทางแล้ว
เพราะที่ผ่านมาปริมาณนักท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ โดยเฉพาะในอุทยานแห่งชาติยอดนิยมทั้งหลาย มีจำนวนมากเกินกว่าขีดความสามารถของธรรมชาติและการบริหารจัดการจะรองรับได้
ในด้านหนึ่ง แม้การท่องเที่ยวตามธรรมชาติจะปลูกฝังให้ประชาชนและเยาวชนผูกพัน รักหวงแหน และพร้อมจะร่วมอนุรักษ์ธรรมชาติมากขึ้น รวมทั้งสามารถสร้างรายได้ให้กับรัฐจำนวนมากในแต่ละปี
แต่ในทางกลับกัน เมื่อปริมาณนักท่องเที่ยวเกินขีดพอดี ก็จะมีผลเสียมหาศาลตามมา ไม่ว่าจะเป็นการสูญพันธุ์ของต้นไม้และสัตว์ป่า ความสกปรกเสื่อมโทรมของธรรมชาติอันเนื่องจากขยะ และพฤติกรรมมักง่ายหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของนักท่องเที่ยว
การจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยวที่จะเข้าชมธรรมชาติในอุทยาน
จึงเป็นแนวทางที่ถูกต้องและควรแก่การสนับสนุน
อย่างไรก็ดี กรมอุทยานแห่งชาติฯ ระบุว่า แม้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่พร้อมจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่อุทยาน แต่ปัญหาสำคัญก็คือการขาดการประชาสัมพันธ์ ทำให้ความรับรู้เรื่องการจำกัดนักท่องเที่ยวในอุทยานยังอยู่ในวงจำกัด
ฉะนั้นความจำเป็นเร่งด่วนเฉพาะหน้าก็คือการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไป รับรู้ว่าขณะนี้มีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติแล้ว
และที่สำคัญยิ่งกว่า ก็คือใช้ทุกช่องทางที่มีอยู่เพื่อทำให้เกิดความเข้าใจ ว่าเหตุใดจึงต้องเลือกทางที่บางคนอาจจะเกิดความรู้ว่าเหมือนการจำกัดสิทธิ์หรือกีดกันเช่นนั้น
เพราะถ้าไม่สามารถให้ความรู้ที่ถูกต้อง ไม่สามารถทำความเข้าใจให้เกิดขึ้นได้ แนวทางที่ถูกต้องเช่นนี้อาจจะดำเนินต่อไปอย่างไม่ราบรื่นนัก
เพราะเป็นมาตรการที่ขัดใจคนทั่วไป
บันทึกการเข้า
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 4627
Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันอังคารที่ 19 สิงหาคม 2551
«
ตอบ #2 เมื่อ:
สิงหาคม 19, 2008, 01:47:20 AM »
คม ชัด ลึก
ชาวสัตหีบผุด "คอนโดปู" คืนชีวิตสัตว์น้ำสู่ท้องทะเล
ตามหลักวิชาการเชื่อว่าแม่ปูม้า 1 ตัว สามารถวางไข่ได้ 2 แสน-1.2 ล้านตัว ถ้างดการล่า...ไม่จับปูไข่นอกกระดองมาบริโภค ภายในระยะเวลา 5-6 เดือน จะมีปริมาณปูม้าให้จับมากขึ้นอย่างแน่นอน
จากวิกฤติการณ์ขาดแคลนสัตว์น้ำในทะเลอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงในอนาคต โดยเฉพาะประมงพื้นบ้านในพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งมีสัตว์เศรษฐกิจที่สร้างรายได้มาอย่างต่อเนื่องคือ "ปูม้า" แต่กลับถูกเครื่องมือสมัยใหม่กวาดจับไปเกือบหมด
ด้วยเหตุนี้ นายณรงค์ บุญบรรเจิดศรี นายกเทศมนตรีเมืองสัตหีบ จึงริเริ่มทำโครงการคอนโด และธนาคารปูไข่ (ปูม้า) ร่วมกับกองทัพเรือ พร้อมวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการขยายพันธุ์ปูม้ามาถ่ายทอดความรู้
นายณรงค์กล่าวว่า โครงการนี้เกิดขึ้นจากปัญหาทรัพยากรธรรมชาติชายฝั่งเสื่อมโทรม เพราะถูกมนุษย์ทำลายจนส่งผลให้ปริมาณสัตว์ทะเล โดยเฉพาะปูม้าลดลง สังเกตได้จากปริมาณการจับปูม้าจากเดิมที่เคยจับได้วันละ 20-30 กิโลกรัมต่อวัน แต่ขณะนี้จับได้เพียง 5-6 กิโลกรัมเท่านั้น ทั้งยังเป็นปูม้าที่มีขนาดไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ เพราะปูม้าขนาดเล็กถูกจับบริโภคจนส่อว่าจะสูญพันธุ์ในอนาคต
ดังนั้นเทศบาลเมืองสัตหีบจึงจัดโครงการนี้เพื่อฟื้นฟูและเพิ่มพูนทรัพยากรสัตว์น้ำในทะเลอ่าวสัตหีบ ทั้งยังเป็นการสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ให้แก่ประชาชนและนักเรียนในพื้นที่ให้มีความรัก หวงแหน และเพิ่มพูนทรัพยากรสัตว์น้ำคืนสู่ทะเล
ก่อนหน้านี้ นางวีรพรรณ อินตรา พยาบาลวิชาชีพ 6 ว จัดทำโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการและศึกษาดูงานธนาคารปูไข่ที่เทศบาลเมืองศรีราชา เพื่อเชิญชวนให้กลุ่มประมงเรือเล็กและชุมชนแออัดซอยธรรมวิทยา ร่วมกันอนุรักษ์ปูม้า และเป็นการเพิ่มผลผลิตให้แก่ท้องทะเลอ่าวสัตหีบ โดยมีทัพเรือภาคที่ 1 เป็นผู้ดูแลและจัดระเบียบทางทะเลคอยดูแลความปลอดภัยไม่ให้มีการลักขโมยปูม้าเกิดขึ้น
ส่วนรูปแบบของ "คอนโดปู" จะใช้เหล็กขึ้นเป็นโครงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยจะคำนวณความสูงให้สมดุลกับความลึกของน้ำทะเลเพราะเมื่อน้ำลงทะเลเต็มที่ คอนโดปูม้าจะไม่ขาดน้ำจนทำให้ปูตาย
ส่วนวัสดุจะเลือกใช้สเตนเลสเป็นหลัก เพราะมีควางคงทนกว่าเหล็ก และไม่เกิดสนิมจนเป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
เมื่อขึ้นโครงเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะทำเป็น "แพลอยน้ำ" ด้วยการใช้ถังพลาสติก แบ่งซอยออกเป็นช่องเพื่อบรรจุตะกร้าพลาสติกที่มีลักษณะเป็นรูตาข่ายที่สามารถระบายน้ำได้ดี
ลักษณะของคอนโดปูจะนำตะกร้ามาประกบกันแล้วยึดให้แน่น ก่อนจะทำที่เปิดด้านบนสำหรับตอนที่จะนำปูใส่และนำปูออก
คอนโดปูตามหลักนิยมในพื้นที่ อ.สัตหีบ จะใช้ตะกร้าพลาสติกประกบกันสูง 5 ชั้น (10 ใบ) แล้วใส่ในช่องเหล็กที่แบ่งไว้ เพราะแนวชายฝั่งจะเป็นน้ำตื้นเสียส่วนมาก หากทำสูงมากจะต้องนำออกไปลอยในระยะไกล ซึ่งยากต่อการตรวจสอบและป้องกันการลักขโมยปูม้า
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมี พล.ร.ต.ผจญ รามโกมุท รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ประธานโครงการอนุรักษ์พะยูน และหญ้าทะเลอ่าวสัตหีบ และ นายฉัตรชัย ทิมกระจ่าง นายกเทศมนตรีเมืองศรีราชา ร่วมให้การสนับสนุนงบประมาณและดำเนินโครงการด้วย
นายกเทศบาลเมืองสัตหีบยังได้มอบเงินอุดหนุนโครงการอนุรักษ์พะยูนและหญ้าทะเลในอ่าวสัตหีบจำนวน 2 แสนบาท แก่ พล.ร.ต.ผจญ อีกด้วย
ขณะที่ นายไพฑูรย์ แซ่โอ๋ อายุ 54 ปี ชาวประมงในพื้นที่หมู่ 6 ต.สัตหีบ แกนนำกลุ่มประมงอวนปูอ่าวสัตหีบ กล่าวสนับสนุนว่า โครงการนี้นับเป็นความหวังใหม่ของชาวประมงชายฝั่งสัตหีบที่ยึดอาชีพจับปูม้าขาย และเชื่อว่าจะสามารถเห็นผลได้ภายใน 3 เดือน
ถ้ามีลูกปูคลานอยู่บริเวณชายหาดสัตหีบมากขึ้น นั่นหมายถึงสัญญาณของความสำเร็จในโครงการนี้ ตามหลักวิชาการเชื่อว่าแม่ปูม้า 1 ตัว สามารถวางไข่ได้ 2 แสน-1.2 ล้านตัว
ถ้างดการล่า...ไม่จับปูไข่นอกกระดองมาบริโภค ภายในระยะเวลา 5-6 เดือน จะมีปริมาณปูม้าให้จับมากขึ้นอย่างแน่นอน
นี่คือโครงการดีๆ ของชาวสัตหีบ ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อคืนสัตว์น้ำกลับสู่ทะเล เพื่อรายได้ที่ยั่งยืนของประชาชนชาวสัตหีบ และเพื่อความสมดุลของระบบนิเวศวิทยาทางทะเลที่จะอยู่คู่กับท้องทะเลอ่าวสัตหีบตลอดไป
บันทึกการเข้า
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 4627
Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันอังคารที่ 19 สิงหาคม 2551
«
ตอบ #3 เมื่อ:
สิงหาคม 19, 2008, 01:50:18 AM »
X-cite ไทยโพสต์
แมวน้ำเปิดโลกแอนตาร์กติก
:
โลกน่ารู้
นักวิทยาศาสตร์ได้นำแมวน้ำช้างมาติดอุปกรณ์เก็บข้อมูล เพื่ออาศัยพวกมันเป็นเสมือนนักวิจัยลงไปสำรวจใต้แผ่นน้ำแข็งแถบแอนตาร์กติกในช่วงหน้าหนาว
แมวน้ำพวกนี้ตัวใหญ่มาก บางตัวหนักถึง 3 ตัน ข้อมูลที่มันลงไปเก็บจะถูกส่งขึ้นไปยังดาวเทียมเมื่อมันโผล่ขึ้นมาหายใจ
สตีฟ รินโทลต์ แห่งศูนย์วิจัยระบบนิเวศและบรรยากาศแถบแอนตาร์กติกของออสเตรเลีย บอกว่า เป็นครั้งแรกที่นักวิทยาศาสตร์จะสามารถศึกษาพื้นที่กว้างข้างใต้แผ่นน้ำแข็งในทะเลช่วงหน้าหนาวได้ ดาวเทียมไม่สามารถมองทะลุแผ่นน้ำแข็งได้ ทุ่นก็ไม่สามารถลอยผ่านน้ำแข็งได้ และการใช้เรือก็มีค่าใช้จ่ายสูงและกินเวลานาน
แมวน้ำเหล่านี้จะวัดอุณหภูมิ ความเค็ม และความลึก ขณะพวกมันดำลงไปลึกเกือบ 2 กิโลเมตร และว่ายน้ำไกลถึงวันละ 65 กิโลเมตร
พวกมันสามารถเก็บข้อมูลได้มากกว่าวิธีการอื่นๆ ถึง 30 เท่า
บริเวณขั้วโลกมีความสำคัญต่อระบบภูมิอากาศของโลก และกำลังมีสภาพเปลี่ยนแปลงในอัตราที่รวดเร็วกว่าพื้นที่ส่วนอื่นๆ ของโลก การเปลี่ยนแปลงที่นั่นจะส่งผลต่ออัตราการเปลี่ยนแปลงในที่อื่นๆ
ข้อมูลระดับความเค็มของน้ำทะเลจะบ่งบอกได้ว่ามีน้ำแข็งก่อตัวขึ้นมากแค่ไหนในช่วงหน้าหนาว
น้ำแข็งในทะเลมีความสำคัญต่อภูมิอากาศ เพราะมันช่วยสะท้อนพลังงานจากดวงอาทิตย์กลับออกสู่อวกาศ ถ้าโลกมีน้ำแข็งในทะเลน้อยลง โลกก็จะดูดซับพลังงานมากขึ้น ทำให้โลกร้อนขึ้น
"เรายังไม่เคยสามารถวัดปริมาณน้ำแข็งที่ก่อตัวขึ้นได้เลย ข้อมูลจากแมวน้ำจะช่วยเราในเรื่องนี้เป็นครั้งแรก" เขาบอก
เซ็นเซอร์ที่ติดไปกับตัวแมวน้ำ มีขนาดเท่าโทรศัพท์มือถือ เมื่อมันโผล่จากใต้น้ำขึ้นมาหายใจ เสาอากาศจะส่งข้อมูลขึ้นไปยังดาวเทียม.
บันทึกการเข้า
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 4627
Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันอังคารที่ 19 สิงหาคม 2551
«
ตอบ #4 เมื่อ:
สิงหาคม 19, 2008, 02:00:48 AM »
กรุงเทพธุรกิจ
ขยะเป็นพิษกับชุมชน
ชาวบ้าน ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ ชลบุรี ร้องเรียนกำลังเดือดร้อนจากบ่อทิ้งขยะบนเขาเพชร ของ ต.สัตหีบ และ ต.พลูตาหลวง ซึ่ง อบจ.ชลบุรี ก่อสร้าง 150ล้านบาท แต่กำจัดขยะไม่หมดปริมาณทะลักล้นตามถนน ชาวบ้านต้องทนกลิ่นเหม็น เชื้อโรค น้ำบนดินและบาดาลใช้ไม่ได้
บันทึกการเข้า
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
หมวดหมู่ทั่วไป
-----------------------------
=> ห้องรับแขก
=> กิจกรรมและผลงาน
=> เรื่องเล่าชาวทะเล
=> ท่องเที่ยวทั่วแผ่นดิน
=> คุยเฟื่องเรื่องดำน้ำ
=> หลังเลนส์
=> สรรพชีวิตแห่งท้องทะเล
=> คลังกระทู้เก่า
กำลังโหลด...