กระดานข่าว Save Our Sea.net
พฤศจิกายน 29, 2025, 12:45:38 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันอังคารที่ 19 สิงหาคม 2551  (อ่าน 3986 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« เมื่อ: สิงหาคม 19, 2008, 01:24:44 AM »

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ร่องความกดอากาศต่ำกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักในระยะนี้ไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 19-23 ส.ค. ร่องความกดอากาศต่ำกำลังปานกลาง พาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลัง แรงขึ้นประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย และในช่วงวันที่ 21-23 ส.ค. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมจะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกชุกหนาแน่น โดยมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่

ในช่วงวันที่ 24-25 ส.ค. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้มีฝนลดลง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 19-23 ส.ค.ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก อาทิเช่น บริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ สุรินทร์ อุบลราชธานี นครนายก และปราจีนบุรี ระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย



* Forecast.jpg (16.67 KB, 232x381 - ดู 1163 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 20, 2008, 01:01:04 AM โดย สายน้ำ » บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #1 เมื่อ: สิงหาคม 19, 2008, 01:43:34 AM »

ข่าวสด


จำกัดคนเข้าอุทยาน                        :                     คอลัมน์ บทบรรณาธิการ

ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ออกประกาศเรื่องการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ 10 แห่ง

โดยเริ่มนำร่องจากอุทยานแห่งชาติ 5 แห่ง ก็คืออุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ดอยปุย จ.เชียงใหม่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา นครนายก สระบุรี และปราจีนบุรี อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จ.กาญจนบุรี อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-เกาะเสม็ด จ.ระยอง และอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา

ที่ล้วนแล้วแต่เป็นแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่ได้รับความนิยมจากประชาชน

ต้องนับว่าเป็นความปรารถนาดี ที่เริ่มต้นเดินทางมาถูกทางแล้ว



เพราะที่ผ่านมาปริมาณนักท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ โดยเฉพาะในอุทยานแห่งชาติยอดนิยมทั้งหลาย มีจำนวนมากเกินกว่าขีดความสามารถของธรรมชาติและการบริหารจัดการจะรองรับได้

ในด้านหนึ่ง แม้การท่องเที่ยวตามธรรมชาติจะปลูกฝังให้ประชาชนและเยาวชนผูกพัน รักหวงแหน และพร้อมจะร่วมอนุรักษ์ธรรมชาติมากขึ้น รวมทั้งสามารถสร้างรายได้ให้กับรัฐจำนวนมากในแต่ละปี

แต่ในทางกลับกัน เมื่อปริมาณนักท่องเที่ยวเกินขีดพอดี ก็จะมีผลเสียมหาศาลตามมา ไม่ว่าจะเป็นการสูญพันธุ์ของต้นไม้และสัตว์ป่า ความสกปรกเสื่อมโทรมของธรรมชาติอันเนื่องจากขยะ และพฤติกรรมมักง่ายหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของนักท่องเที่ยว

การจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยวที่จะเข้าชมธรรมชาติในอุทยาน

จึงเป็นแนวทางที่ถูกต้องและควรแก่การสนับสนุน



อย่างไรก็ดี กรมอุทยานแห่งชาติฯ ระบุว่า แม้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่พร้อมจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่อุทยาน แต่ปัญหาสำคัญก็คือการขาดการประชาสัมพันธ์ ทำให้ความรับรู้เรื่องการจำกัดนักท่องเที่ยวในอุทยานยังอยู่ในวงจำกัด

ฉะนั้นความจำเป็นเร่งด่วนเฉพาะหน้าก็คือการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไป รับรู้ว่าขณะนี้มีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติแล้ว

และที่สำคัญยิ่งกว่า ก็คือใช้ทุกช่องทางที่มีอยู่เพื่อทำให้เกิดความเข้าใจ ว่าเหตุใดจึงต้องเลือกทางที่บางคนอาจจะเกิดความรู้ว่าเหมือนการจำกัดสิทธิ์หรือกีดกันเช่นนั้น

เพราะถ้าไม่สามารถให้ความรู้ที่ถูกต้อง ไม่สามารถทำความเข้าใจให้เกิดขึ้นได้ แนวทางที่ถูกต้องเช่นนี้อาจจะดำเนินต่อไปอย่างไม่ราบรื่นนัก

เพราะเป็นมาตรการที่ขัดใจคนทั่วไป

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #2 เมื่อ: สิงหาคม 19, 2008, 01:47:20 AM »

คม ชัด ลึก


ชาวสัตหีบผุด "คอนโดปู" คืนชีวิตสัตว์น้ำสู่ท้องทะเล
 


ตามหลักวิชาการเชื่อว่าแม่ปูม้า 1 ตัว สามารถวางไข่ได้ 2 แสน-1.2 ล้านตัว ถ้างดการล่า...ไม่จับปูไข่นอกกระดองมาบริโภค ภายในระยะเวลา 5-6 เดือน จะมีปริมาณปูม้าให้จับมากขึ้นอย่างแน่นอน

จากวิกฤติการณ์ขาดแคลนสัตว์น้ำในทะเลอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงในอนาคต โดยเฉพาะประมงพื้นบ้านในพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งมีสัตว์เศรษฐกิจที่สร้างรายได้มาอย่างต่อเนื่องคือ "ปูม้า" แต่กลับถูกเครื่องมือสมัยใหม่กวาดจับไปเกือบหมด

 ด้วยเหตุนี้ นายณรงค์ บุญบรรเจิดศรี นายกเทศมนตรีเมืองสัตหีบ จึงริเริ่มทำโครงการคอนโด และธนาคารปูไข่ (ปูม้า) ร่วมกับกองทัพเรือ พร้อมวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการขยายพันธุ์ปูม้ามาถ่ายทอดความรู้



 นายณรงค์กล่าวว่า โครงการนี้เกิดขึ้นจากปัญหาทรัพยากรธรรมชาติชายฝั่งเสื่อมโทรม เพราะถูกมนุษย์ทำลายจนส่งผลให้ปริมาณสัตว์ทะเล โดยเฉพาะปูม้าลดลง สังเกตได้จากปริมาณการจับปูม้าจากเดิมที่เคยจับได้วันละ 20-30 กิโลกรัมต่อวัน แต่ขณะนี้จับได้เพียง 5-6 กิโลกรัมเท่านั้น ทั้งยังเป็นปูม้าที่มีขนาดไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ เพราะปูม้าขนาดเล็กถูกจับบริโภคจนส่อว่าจะสูญพันธุ์ในอนาคต

 ดังนั้นเทศบาลเมืองสัตหีบจึงจัดโครงการนี้เพื่อฟื้นฟูและเพิ่มพูนทรัพยากรสัตว์น้ำในทะเลอ่าวสัตหีบ ทั้งยังเป็นการสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ให้แก่ประชาชนและนักเรียนในพื้นที่ให้มีความรัก หวงแหน และเพิ่มพูนทรัพยากรสัตว์น้ำคืนสู่ทะเล

 ก่อนหน้านี้ นางวีรพรรณ อินตรา พยาบาลวิชาชีพ 6 ว จัดทำโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการและศึกษาดูงานธนาคารปูไข่ที่เทศบาลเมืองศรีราชา เพื่อเชิญชวนให้กลุ่มประมงเรือเล็กและชุมชนแออัดซอยธรรมวิทยา ร่วมกันอนุรักษ์ปูม้า และเป็นการเพิ่มผลผลิตให้แก่ท้องทะเลอ่าวสัตหีบ โดยมีทัพเรือภาคที่ 1 เป็นผู้ดูแลและจัดระเบียบทางทะเลคอยดูแลความปลอดภัยไม่ให้มีการลักขโมยปูม้าเกิดขึ้น

 ส่วนรูปแบบของ "คอนโดปู" จะใช้เหล็กขึ้นเป็นโครงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยจะคำนวณความสูงให้สมดุลกับความลึกของน้ำทะเลเพราะเมื่อน้ำลงทะเลเต็มที่ คอนโดปูม้าจะไม่ขาดน้ำจนทำให้ปูตาย

 ส่วนวัสดุจะเลือกใช้สเตนเลสเป็นหลัก เพราะมีควางคงทนกว่าเหล็ก และไม่เกิดสนิมจนเป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม

 เมื่อขึ้นโครงเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะทำเป็น "แพลอยน้ำ" ด้วยการใช้ถังพลาสติก แบ่งซอยออกเป็นช่องเพื่อบรรจุตะกร้าพลาสติกที่มีลักษณะเป็นรูตาข่ายที่สามารถระบายน้ำได้ดี

 ลักษณะของคอนโดปูจะนำตะกร้ามาประกบกันแล้วยึดให้แน่น ก่อนจะทำที่เปิดด้านบนสำหรับตอนที่จะนำปูใส่และนำปูออก

 คอนโดปูตามหลักนิยมในพื้นที่ อ.สัตหีบ จะใช้ตะกร้าพลาสติกประกบกันสูง 5 ชั้น (10 ใบ) แล้วใส่ในช่องเหล็กที่แบ่งไว้ เพราะแนวชายฝั่งจะเป็นน้ำตื้นเสียส่วนมาก หากทำสูงมากจะต้องนำออกไปลอยในระยะไกล ซึ่งยากต่อการตรวจสอบและป้องกันการลักขโมยปูม้า

 ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมี พล.ร.ต.ผจญ รามโกมุท รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ประธานโครงการอนุรักษ์พะยูน และหญ้าทะเลอ่าวสัตหีบ และ นายฉัตรชัย ทิมกระจ่าง นายกเทศมนตรีเมืองศรีราชา ร่วมให้การสนับสนุนงบประมาณและดำเนินโครงการด้วย

 นายกเทศบาลเมืองสัตหีบยังได้มอบเงินอุดหนุนโครงการอนุรักษ์พะยูนและหญ้าทะเลในอ่าวสัตหีบจำนวน 2 แสนบาท แก่ พล.ร.ต.ผจญ อีกด้วย

 ขณะที่ นายไพฑูรย์ แซ่โอ๋ อายุ 54 ปี ชาวประมงในพื้นที่หมู่ 6 ต.สัตหีบ แกนนำกลุ่มประมงอวนปูอ่าวสัตหีบ กล่าวสนับสนุนว่า โครงการนี้นับเป็นความหวังใหม่ของชาวประมงชายฝั่งสัตหีบที่ยึดอาชีพจับปูม้าขาย และเชื่อว่าจะสามารถเห็นผลได้ภายใน 3 เดือน

 ถ้ามีลูกปูคลานอยู่บริเวณชายหาดสัตหีบมากขึ้น นั่นหมายถึงสัญญาณของความสำเร็จในโครงการนี้ ตามหลักวิชาการเชื่อว่าแม่ปูม้า 1 ตัว สามารถวางไข่ได้ 2 แสน-1.2 ล้านตัว

 ถ้างดการล่า...ไม่จับปูไข่นอกกระดองมาบริโภค ภายในระยะเวลา 5-6 เดือน จะมีปริมาณปูม้าให้จับมากขึ้นอย่างแน่นอน

 นี่คือโครงการดีๆ ของชาวสัตหีบ ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อคืนสัตว์น้ำกลับสู่ทะเล เพื่อรายได้ที่ยั่งยืนของประชาชนชาวสัตหีบ และเพื่อความสมดุลของระบบนิเวศวิทยาทางทะเลที่จะอยู่คู่กับท้องทะเลอ่าวสัตหีบตลอดไป

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #3 เมื่อ: สิงหาคม 19, 2008, 01:50:18 AM »

X-cite  ไทยโพสต์


แมวน้ำเปิดโลกแอนตาร์กติก                     :                     โลกน่ารู้

นักวิทยาศาสตร์ได้นำแมวน้ำช้างมาติดอุปกรณ์เก็บข้อมูล เพื่ออาศัยพวกมันเป็นเสมือนนักวิจัยลงไปสำรวจใต้แผ่นน้ำแข็งแถบแอนตาร์กติกในช่วงหน้าหนาว

แมวน้ำพวกนี้ตัวใหญ่มาก  บางตัวหนักถึง  3  ตัน ข้อมูลที่มันลงไปเก็บจะถูกส่งขึ้นไปยังดาวเทียมเมื่อมันโผล่ขึ้นมาหายใจ

สตีฟ รินโทลต์ แห่งศูนย์วิจัยระบบนิเวศและบรรยากาศแถบแอนตาร์กติกของออสเตรเลีย บอกว่า เป็นครั้งแรกที่นักวิทยาศาสตร์จะสามารถศึกษาพื้นที่กว้างข้างใต้แผ่นน้ำแข็งในทะเลช่วงหน้าหนาวได้ ดาวเทียมไม่สามารถมองทะลุแผ่นน้ำแข็งได้  ทุ่นก็ไม่สามารถลอยผ่านน้ำแข็งได้ และการใช้เรือก็มีค่าใช้จ่ายสูงและกินเวลานาน

แมวน้ำเหล่านี้จะวัดอุณหภูมิ  ความเค็ม  และความลึก ขณะพวกมันดำลงไปลึกเกือบ 2 กิโลเมตร และว่ายน้ำไกลถึงวันละ 65 กิโลเมตร

พวกมันสามารถเก็บข้อมูลได้มากกว่าวิธีการอื่นๆ ถึง 30 เท่า

บริเวณขั้วโลกมีความสำคัญต่อระบบภูมิอากาศของโลก  และกำลังมีสภาพเปลี่ยนแปลงในอัตราที่รวดเร็วกว่าพื้นที่ส่วนอื่นๆ ของโลก การเปลี่ยนแปลงที่นั่นจะส่งผลต่ออัตราการเปลี่ยนแปลงในที่อื่นๆ

ข้อมูลระดับความเค็มของน้ำทะเลจะบ่งบอกได้ว่ามีน้ำแข็งก่อตัวขึ้นมากแค่ไหนในช่วงหน้าหนาว

น้ำแข็งในทะเลมีความสำคัญต่อภูมิอากาศ  เพราะมันช่วยสะท้อนพลังงานจากดวงอาทิตย์กลับออกสู่อวกาศ ถ้าโลกมีน้ำแข็งในทะเลน้อยลง โลกก็จะดูดซับพลังงานมากขึ้น ทำให้โลกร้อนขึ้น

"เรายังไม่เคยสามารถวัดปริมาณน้ำแข็งที่ก่อตัวขึ้นได้เลย  ข้อมูลจากแมวน้ำจะช่วยเราในเรื่องนี้เป็นครั้งแรก" เขาบอก

เซ็นเซอร์ที่ติดไปกับตัวแมวน้ำ  มีขนาดเท่าโทรศัพท์มือถือ เมื่อมันโผล่จากใต้น้ำขึ้นมาหายใจ เสาอากาศจะส่งข้อมูลขึ้นไปยังดาวเทียม.

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #4 เมื่อ: สิงหาคม 19, 2008, 02:00:48 AM »

กรุงเทพธุรกิจ


ขยะเป็นพิษกับชุมชน



ชาวบ้าน ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ ชลบุรี ร้องเรียนกำลังเดือดร้อนจากบ่อทิ้งขยะบนเขาเพชร ของ ต.สัตหีบ และ ต.พลูตาหลวง ซึ่ง อบจ.ชลบุรี ก่อสร้าง 150ล้านบาท แต่กำจัดขยะไม่หมดปริมาณทะลักล้นตามถนน ชาวบ้านต้องทนกลิ่นเหม็น เชื้อโรค น้ำบนดินและบาดาลใช้ไม่ได้

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.021 วินาที กับ 20 คำสั่ง