ชากังราว.....เพชรบุรีศรีกำแพงเพชร....อดีตที่หวนคืนมา

[สายน้ำ]

จุดที่น่าสนใจอีกจุดหนึ่งในวัดนี้คือ ศาลาที่ตั้งของเรือขุดไม้ตะเคียนลำทั้งเล็กและใหญ่  ดูจะเชื่อกันว่าเก่าแก่และเป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้านแถวนี้ โดยเฉพาะคอหวยทั้งหลาย

สามารถสังเกตได้จากรอยเรียบๆมันๆตามด้านข้างลำตัวเรือที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมขูดเลขหวยกันเป็นประจำครับ

[สายน้ำ]

ใกล้ๆกับศาลาเรือไม้ .... เป็นกลุ่มของร้านอาหารฝีมือแบบชาวบ้าน แต่มีคนหมุนเวียนเปลี่ยนหน้ากันมากินตลอดเวลา มีทั้งก๋วยเตี๋ยวหมูแดง  กาแฟโบราณ และที่น่าสนใจคือ ขนมเบื้องญวน ....

[สายน้ำ]

ใต้ถุนของศาลาหลังใหม่  เลยจากจุดที่เราทำบุญเลี้ยงภัตตาหารเพลแก่พระสงฆ์ไปอีกด้านหนึ่ง  มีกลุ่มสตรีสูงอายุกำลังช่วยกันปั๊มอะไรบางอย่าง  เป็นกิจกรรมแก้เหงายามชราที่น่าสนใจ แถมยังได้บุญที่มาใช้แรงงานเท่าที่จะทำได้ถวายให้แก่กิจกรรมของวัด

[สายน้ำ]

ทีแรก เห็นนั่งปั๊มกันอย่างนี้  คงจะหนีไม่พ้นองค์จตุคามรามเทพที่อยู่ในกระแสนิยมขณะนี้ ....

แต่ไม่ใช่ครับ กระแสนั้นคงเจาะเข้ามาไม่ถึงวัดนี้ ...

สิ่งที่คุณป้าคุณย่าคุณยายทั้งหลายก้มหน้าก้มตาปั๊มกันนั้นคือ พระดินปั้น ที่นำดินมาเข้าแบบ ปั๊มออกมาเป็นองค์พระ ก่อนที่จะนำไปเผาและเข้าพิธีพุทธาภิเษก ..... ทำกันปริมาณมากๆขนาดนี้ เห็นทีจะมีงานบุญที่วัดเร็วๆนี้แน่นอน แต่ปากหนักไป ไม่ได้ถามให้ชัดว่าเป็นงานอะไรครับ

[สายน้ำ]

ปิดท้ายภาคผนวกด้วยเรื่องถนัดคือเรื่องบริโภคครับ ....

นอกจากข้าวปลาอาหาร ก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ ที่นำมาถวายพระแล้ว  ของบริโภคอีกอย่างหนึ่งที่พี่นิด พี่สาวของคุณสายชล ภูมิใจนำเสนอคือ เมี่ยงคำสมุนไพร พื้นบ้านแท้ๆครับ .... ชุดละแค่ 15 บาทเท่านั้น

[สายน้ำ]

ใน 1 คำจะประกอบไปด้วย  :   ใบชะพลู  ถั่วลิสงคั่ว  มะนาว  ขิง  ตะไคร้  พริกขี้หนู  ราดหน้าด้วยมะพร้าวกวน หรือเต้าเจี้ยว  และโรยปิดหน้าด้วยหมี่กรอบขาวสวย

จะเสิร์ฟมา 2 แบบคือ แบบเมี่ยงคำที่เราเห็นๆกันทั่วไปคือ จัดเครื่องวางบนใบชะพลู  เรียงกันมาเป็นระเบียบบนถาด  ไม่ต้องราดอะไรกันอีก ยกขึ้นใส่ปากเป็นคำๆได้เลย

หรืออีกแบบหนึ่ง จะพับห่อเป็นทรงสามเหลี่ยม แล้วเสียบไม้ไว้  ไม้ละสามคำ .... คำหัวและคำท้ายจะเป็นไส้มะพร้าว ส่วนคำกลางจะเป็นไส้เต้าเจี้ยว  ใส่ปากเคี้ยวได้ง่ายๆไม่มีเลอะเทอะ

[สายน้ำ]

มานครชุมครั้งใด เป็นต้องได้เพลิดพลินกับการกินเมี่ยงทุกครั้ง....

ครั้งที่ผ่านๆมา จะกินเฉพาะเมี่ยงที่เป็นใบชาหมัก  นำออกมาคลี่ แล้วโรยด้วยไส้เมี่ยงคือ มะพร้าวและถั่วคั่วโรยน้ำตาลทราย อร่อยอย่าบอกใครเลย

ส่วนครั้งนี้ ได้ชิมเมี่ยงคำสมุนไพร และที่น่าสนใจคือ เมี่ยงลาว ซึ่งถ้าเป็นกรุงเทพเมืองฟ้าปิดคนคิดแต่จะฆ่ากัน จะขายเป็นชุดๆ เป็นตัวเมี่ยงห่อด้วยใบผักกาดดองบางๆ  กินคู่กับข้าวตัง  แต่เมี่ยงที่นครชุม  ไส้จะเหมือนเมี่ยงลาวที่คน กทม.กิน แต่จะใช้ใบผักกาดจอที่มีเส้นใบด้วย มาห่อเป็นคำโตขนาดลูกชิ้นแชมป์  กินกันเพียวๆไม่ต้องมีข้าวตังมาทำให้เสียอรรถรสเลยครับ

แต่เสียใจ ..... ไม่มีภาพมาให้ชมกัน เพราะคว้ากล้องไม่ทัน ชุดแรกหมดไปเสียแล้ว ตอนออกเดินทางกลับ แวะไปซื้ออีก ปรากฎว่า หมด ... ถ้าจะเอาต้องรออีกเป็นชั่วโมง เลยต้องบ๋ายบาย วันหน้ามาใหม่

ขอจบด้วยภาพโคลสอัพ เมี่ยงคำสมุนไพร .... ถ้าสนใจจะไปชิมของอร่อยแบบพื้นบ้าน รวมทั้งแวะชมโบราณสถานของเมืองชากังราว  ให้อากาศเย็นกว่านี้หน่อยครับ แล้วสองสายจะนำทางไป แค่เสาร์อาทิตย์ก็เพียงพอแล้วครับ 

[WayfarinG]

[เสือดาว]

บอกได้คำเดียวว่าปลื้มกับภาพถ่ายและข้อมูลที่แน่นมาก ๆ เหมือนได้อ่านสารคดีคุณภาพเรื่องใหญ่ ๆ เรื่องหนึ่งทีเดียวครับ 

ภาพเมืองและวัดวาอาราม ขลังและบอกถึงความรุ่งเรืองในอดีตของเมืองนี้ได้ดีทีเดียว  

กำแพงเพชรเป็นอีกเมืองหนึ่งที่ผมเคยผ่าน แต่เข้าไปสัมผัสจริง ๆ จัง ๆ น้อยมาก ต้องหาเวลาไปแวะเยี่ยมเยือนเมืองนี้ให้มากขึ้นซะแล้ว

[สายชล]

ขอบคุณค่ะน้องเสือดาว....ดีใจที่น้องชอบค่ะ

แห่ะๆ...ข้อมูลเพรียบเพราะไปได้มาจากหนังสือ "นำชมอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร" ของกรมศิลปากร ที่เราใช้เปิดอ่านไปเที่ยวไปค่ะ

ต้องขอขอบคุณกรมศิลปากรที่บูรณะซ่อมแซมเมืองโบราณให้กลับฟื้นคืนมาให้เราได้ชื่นชมอย่างสุขใจ แถมให้ข้อมูลที่เพรียบพร้อม ประเภทที่เที่ยวเองได้...ไม่ต้องมีไกด์