กระดานข่าว Save Our Sea.net
มิถุนายน 01, 2024, 11:08:05 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ผลโลกร้อนทำ'ปะการังอ่อน'ตายเป็นแนวยาว 200 กม.  (อ่าน 16015 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« เมื่อ: พฤศจิกายน 02, 2007, 02:50:00 PM »


ผลโลกร้อนทำ'ปะการังอ่อน'ตายเป็นแนวยาว 200 กม. - 'ปลานีโม่' ตายนับพันตัว



นักวิชาการทางทะเลตะลึงปะการังอ่อนที่เกาะลันตา-เกาะห้าใหญ่-เกาะรอก-เกาะตะรุเตา ตายเป็นแนวยาวกว่า 200 กม. เปรียบเหมือนภูกระดึงถูกระเบิดหายทั้งลูก ปลาการ์ตูนก็ไม่รอด คาดเหตุช็อคตายเพราะกระแสน้ำเย็นจากภาวะโลกร้อน -กระแสคลื่นน้ำเย็นมีต้นกำเนิดจากหมู่เกาะนิโคบา คลื่นน้ำเย็นที่เข้ามาทำให้อุณหภูมิน้ำลดลง ทำให้ปริมาณออกซิเจนในน้ำลดต่ำลงด้วยเป็นสาเหตุให้ปะการังอ่อนและสัตว์น้ำช็อคตาย

ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน กล่าวสันนิษฐานว่ากระแสคลื่นน้ำเย็นที่เกิดจากภาวะโลกร้อน ทั้งนี้ ปกติแล้วอุณหภูมิในทะเลอันดามันจะอยู่ที่ 26 องศาเซลเซียส แต่บางช่วงกลับวัดได้เพียง 15 องศาเซลเซียสเท่านั้น ทำให้กระแสคลื่นน้ำเย็นนี้จะเข้ามาเป็นช่วงๆ ครั้งละประมาณ 15 นาที ถึง 1 ชั่วโมง

หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ลงไปดำน้ำเก็บข้อมูล และนับจำนวนปลาการ์ตูนส้มขาวในทะเลบริเวณหมู่เกาะลันตา จ.กระบี่ พบว่า ปะการังอ่อนที่เคยขึ้นเกาะโขดหินสีสันสวยงามก่อนหน้านี้ตายหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บริเวณเกาะห้าใหญ่ และหินม่วงหินแดงพื้นที่ดำน้ำที่ดีที่สุดของประเทศไทยซึ่งมีปะการังอ่อนหลากหลายสีสัน ไปจนถึงเกาะรอก เกาะตะรุเตา คิดเป็นระยะทางความเสียหายยาวประมาณ 200 กิโลเมตร

'สภาพที่เห็นคือ หินม่วงหินแดง กลายเป็นโขดหินเปล่าๆ ที่เกาะตะรุเตานั้นปะการังอ่อนหายไปมากกว่าครึ่ง ความเสียหายที่เกิดขึ้นในทะเลบริเวณนี้ ถ้าเปรียบกับสิ่งของบนบกก็เหมือนกับภูกระดึงทั้งภูระเบิดหายไปหมด' ดร.ธรณ์กล่าว

ดร.ธรณ์กล่าวว่า นอกจากปะการังอ่อนตายแล้ว ยังพบว่าปลาการ์ตูนส้มขาวที่ตนกับทีมงานเอาไปปล่อยไว้จำนวน 1,100 ตัว และลงไปนับจำนวนการเพิ่มลดเป็นประจำ พบว่าก่อนหน้านี้มีการเพิ่มปริมาณตามสภาพธรรมชาติ แต่ล่าสุดเหลือปลาการ์ตูนส้มขาวอยู่เพียง 50 กว่าตัวเท่านั้น และทุกตัวที่เหลือนั้นอยู่ในสภาพทรุดโทรม ชอกช้ำ มีริ้วรอยที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าผ่านการใช้ชีวิตที่ทรมานอย่างแสนสาหัสมาแล้ว ส่วนปลาเล็กอื่นๆ ก็อยู่ในสภาพที่ไม่แตกต่างกัน

ดร.ธรณ์กล่าวว่า ทราบดีว่าการออกมาพูดเรื่องนี้อาจจะทำให้เกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยว เพราะเกาะห้าใหญ่และหินม่วงหินแดงนั้น ถือเป็นหัวใจสำคัญของแหล่งดำน้ำในประเทศไทย หากเสียพื้นที่ดำน้ำอันดามันใต้ หรือบริเวณตรงนี้ไป จะสูญเสียรายได้มหาศาล แต่ที่ต้องพูด เพราะอยากให้รัฐบาลตระหนักถึงเรื่องการรับมือกับปัญหาโลกร้อนอย่างจริงจัง เพราะปรากฏการณ์นี้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างทั้งบนบกและในน้ำ ควรจะให้เรื่องโลกร้อนเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องแก้ปัญหาอย่างจริงจังแล้ว ไม่ใช่รณรงค์เล่นๆ เพียงแค่เปิดแอร์ 25 องศา หรือใช้ถุงผ้าเท่านั้น

ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรม การเปลี่ยนแปลงของโลกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า กระแสคลื่นน้ำเย็นนั้นเข้ามาในน่านน้ำไทยเป็นระยะ โดยเฉพาะฝั่งอันดามัน มีต้นกำเนิดจากหมู่เกาะนิโคบา คลื่นน้ำเย็นที่เข้ามาทำให้อุณหภูมิน้ำลดลงจากเดิมประมาณ 5 องศาเซลเซียส และทำให้ปริมาณออกซิเจนในน้ำลดต่ำลงด้วยเป็นสาเหตุให้ปะการังอ่อนและสัตว์น้ำช็อคตาย

นายสมเกียรติ ขอเกียรติวงศ์ หัวหน้ากลุ่มงานสมุทรศาสตร์ สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า เพิ่งเดินทางกลับจากการตรวจสอบสภาวะสมุทรศาสตร์ หมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา พบว่ามีมวลน้ำจากทะเลลึกข้างนอกเข้ามาในทะเลอันดามัน ทำให้น้ำทะเลที่ความลึก 20 เมตรลงไปเย็นกว่าปกติ รวมทั้งมีค่าออกซิเจนละลายน้ำต่ำกว่าปกติอีกด้วย

'ช่วงปกติในระดับน้ำลึก 100 เมตรลงไป ปริมาณออกซิเจนจะอยู่ที่ 5 มิลลิกรัมต่อลิตร ไม่เคยต่ำกว่า 2  มิลลิกรัมต่อลิตรเลย ยิ่งระดับน้ำลึก ปริมาณออกซิเจนก็จะยิ่งน้อยลง เพราะน้ำมีอุณหภูมิต่ำลงด้วย แต่ล่าสุดที่ไปตรวจวัดมา พบว่าในระดับน้ำลึกเพียง 30-40 เมตร ปริมาณออกซิเจนต่ำกว่า 2 มิลลิกรัมต่อลิตร ปรากฏการณ์ดังกล่าวอาจจะมีผลต่อปะการังอ่อนและสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวได้ แต่ทีมงานยังไม่ได้ดำน้ำลงไปสำรวจใต้ทะเล เพียงแต่วัดอุณหภูมิและปริมาณออกซิเจนจากผิวน้ำเท่านั้น' นายสมเกียรติกล่าว

เมื่อถามว่า ปรากฏการณ์ที่เกาะสิมิลัน เชื่อมโยงกับเรื่องปะการังอ่อนตายจำนวนมากที่เกาะห้าใหญ่และที่หินม่วงหินแดงหรือไม่ นายสมเกียรติกล่าวว่า ต้องไปตรวจสอบอีกครั้ง แต่เรื่องปรากฏการณ์คลื่นน้ำเย็นนั้น เข้ามาบริเวณกว้าง ส่วนเรื่องปะการังอ่อนตายนั้น อาจจะเป็นผลมาจากปีที่ผ่านมา เพราะก่อนหน้านี้กระแสน้ำเย็นดังกล่าวนี้ทำให้ปะการังอ่อนในบริเวณดังกล่าวเสียหายไปจำนวนมาก มาถึงปีนี้อาจจะยังฟื้นตัวไม่ทัน อย่างไรก็ตาม หากมีปรากฏการณ์เดียวกันเข้ามาซ้ำเติมก็จะยิ่งทำให้การฟื้นตัวของปะการังอ่อนช้ามากขึ้นอีก
นายกวีพล ขจรศิริสิน มัคคุเทศก์ดำน้ำ กล่าวว่า ปีนี้เพิ่งจะเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวทางทะเล ยังไม่ได้ลงไปดูที่เกาะห้าใหญ่ และหินม่วงหินแดง แต่ปีที่ผ่านมากระแสน้ำเย็นทำให้ปะการังอ่อนในพื้นที่ดังกล่าวหายไปมากพอสมควร นักดำน้ำจึงไปดำน้ำกันที่เกาะเชือก เกาะม้า ที่ จ.ตรังแทน บริเวณดังกล่าวยังมีปะการังอ่อนสวยงามให้ชมอยู่



จาก              :             มติชน  วันที่ 2 พฤศจิกายน 2550
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 02, 2007, 11:59:51 PM โดย สายน้ำ » บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8186


Saaychol


« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 02, 2007, 07:47:53 PM »

ความทรุดโทรมของหินม่วงหินแดงขนาดปะการังอ่อนและสัตว์น้อยใหญ่ตายไปนั้นได้ข่าวว่าเริ่มมาตั้งแต่ต้นปีนี้แล้วไม่ใช่หรือคะ.....

ลองไปอ่านที่นี่นะคะ   http://www.saveoursea.net/boardsmf/index.php?topic=1232.0

จะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม....ทราบเรื่องแล้วก็ได้แต่เศร้าใจ ไม่ทราบจะช่วยได้อย่างไรดี  ได้แต่ภาวนาว่าสภาพแวดล้อมใต้ทะเลที่อันดามันใต้โดยทั่วไปจะดีขึ้นค่ะ
บันทึกการเข้า

Saaychol
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8186


Saaychol


« ตอบ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 02, 2007, 07:49:59 PM »

ส่วนเรื่องปลานีโมที่นำไปปล่อยแล้วหายไปนี่....เห็นเคยออกข่าวว่ามีคนปล่อยไปแล้ว วันรุ่งขึ้นกลับไปดูอีกครั้งปลาก็หายไปเกือบหมดแล้วไม่ใช่หรือคะ....

เป็นเพราะโลกร้อน.....ปลาใหญ่กินปลาเล็ก.....หรือมีคนจับเอาไปขายจนเกือบหมดกันแน่หนอ....
บันทึกการเข้า

Saaychol
conundrum
อีกไม่กี่กระทู้ก็ได้5ดาวแล้วเร่งมือหน่อย
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 454


« ตอบ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2007, 05:18:15 AM »

เรื่องแบบนี้ เราต้องไปดูไปเห็นด้วยตาของตนเอง    แล้ว  มาเป็นหลักฐานครับ พี่สายชล 

... แล้วเราจะไปเมื่อไหร่กันดีอ่ะ! 555555
บันทึกการเข้า
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8186


Saaychol


« ตอบ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2007, 07:31:40 AM »

ใช่ค่ะ........น้องconundrum  เราต้องไปเห็นกับตาตัวเอง....

เมื่อวานเห็นอาจารย์ธรณ์ไปออกทีวีช่อง 3 กับสรยุทธ์เรื่องนี้ด้วย......ต้องให้คนดังไปออกข่าวกับคนดังอย่างนี้แหล่ะ เจ้าใหญ่นายโตทั้งหลายถึงจะสนใจ  ทีเราๆท่านๆร้องเรียนเร่งเร้าอย่างไรก็ไม่สนใจ  รอฟังว่าเหตุเพราะอะไรมาตั้งหลายเดือนแล้ว ก็ยังไม่ได้คำตอบสักที.....

ตอนนี้กำลังดูวันที่จะไปอยู่ค่ะ.....คุยๆกันไว้แล้วว่าน่าจะเป็นช่วงกลางเดือนและปลายๆเดือนกุมภาพันธ์  โดยทำเป็นโครงการปล่อยสัตว์น้ำ....เก็บขยะ/ตัดอวน ที่อันดามันใต้ จะได้ไปดูว่าสภาพการณ์มันเลวร้ายขนาดไหนกันแน่ค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 03, 2007, 07:42:09 AM โดย สายชล » บันทึกการเข้า

Saaychol
voldermort
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 564



เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2007, 08:34:49 AM »

เมื่อตอนช่วงเดือนเม.ย. ได้ไปดำน้ำแถวอันดามันใต้ค่ะ
ก็เห็นว่าปะการังที่หินแดงหินม่วงตายไปเยอะเหมือนกัน ที่หินแดงยังเหลือปะการังอยู่เยอะพอสมควรค่ะ
แต่ที่หินม่วงก็ตายค่อนข้างเยอะ แต่ก็ยังพอมีบริเวณที่มีปะการังเหลือนะคะ ไม่ถึงกับเหลือแต่หินโล้นๆอย่างที่ อ.ธรณ์บอก
แต่ตอนนี้ก็ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรบ้างแล้วค่ะ

ตอนนั้นเท่าที่เห็นเนี่ย ปะการังอ่อนตายเยอะพอสมควร sea anemone ก็ตายค่ะ
ไม่ค่อยเห็นปลาการ์ตูนเท่าไหร่ เพราะ sea anemone ตายเลยไม่มีปลาการ์ตูนอยู่ล่ะมั้งคะ
แม้แต่ปลาดาวก็ตายค่ะ มอเรย์ก็ตาย กุ้งตายก็เจอ แต่ตอนนั้นเห็นบอกว่าเป็นเพราะเอลนีโญ่ไม่ใช่เหรอคะ 

คงต้องรอติดตามดูข่าวกันต่อไป แล้วถ้าเป็นไปได้ ก็อยากจะเห็นกับตาค่ะ ไม่งั้นทำใจเชื่อลำบากหน่อย
เด๋วจะมาเหมือนข่าวตอนสึนามิที่ออกมาโวยวายว่า ปะการังตายทั้งแถบ แล้วต้องมาออกข่าวแก้กันอีก   
บันทึกการเข้า
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8186


Saaychol


« ตอบ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2007, 08:56:13 AM »

ได้ยินและได้เห็นภาพอย่างที่น้อง voldermort เล่ามาให้ฟังค่ะ

ถ้าเป็นเรื่องของธรรมชาติ....ธรรมชาติก็น่าจะเยียวยารักษาตัวเองให้ฟื้นคืนตัวขึ้นมาได้เอง แม้จะช้าหน่อย....แต่ก็ไม่ต้องลงทุนลงแรงให้สิ้นเปลืองเงินทอง....แรงกาย...แรงสมอง....

แต่ตอนนี้เห็นว่ามีความพยายามจะทำให้เรื่องนี้เป็น วาระแห่งชาติ.....

เข้าใจว่า....ถ้าเป็น  วาระแห่งชาติ แล้ว ก็คงมีการเดินทางไปสำรวจ....ศึกษา....วิเคราะห์...สรุปผล แล้วก็คงจะมีโครงการฟื้นฟู....พลิกฟื้น....ฯลฯ ตามมา

เงิน....เงิน....เงิน....ก็จะไหลมาเทมา เพื่อการนี้นะคะ 

แต่แนวปะการัง (อ่อน)จะกลับฟื้นคืนมาด้วยฝีมือมนุษย์หรือธรรมชาติเยียวยาตัวเองนั้น.....จะพิสูจน์กันได้อย่างไรหนอ...

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 03, 2007, 09:01:07 AM โดย สายชล » บันทึกการเข้า

Saaychol
voldermort
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 564



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2007, 10:56:16 AM »



เข้าใจว่า....ถ้าเป็น  วาระแห่งชาติ แล้ว ก็คงมีการเดินทางไปสำรวจ....ศึกษา....วิเคราะห์...สรุปผล แล้วก็คงจะมีโครงการฟื้นฟู....พลิกฟื้น....ฯลฯ ตามมา

เงิน....เงิน....เงิน....ก็จะไหลมาเทมา เพื่อการนี้นะคะ 

แต่แนวปะการัง (อ่อน)จะกลับฟื้นคืนมาด้วยฝีมือมนุษย์หรือธรรมชาติเยียวยาตัวเองนั้น.....จะพิสูจน์กันได้อย่างไรหนอ...


ฟังแล้วรู้สึกปลงกับระบบทุนนิยมเมืองไทยจังค่ะ   
บันทึกการเข้า
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8186


Saaychol


« ตอบ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2007, 11:08:37 AM »

หึ่ๆ....มันเป็นอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะค่ะหนู voldermort.....

อยู่ๆไปหนูก็จะเห็นอะไรๆ ที่บางครั้งก็ทำให้ผะอืดผะอม.....อยากจะอ๊อกซะจริงๆ....
บันทึกการเข้า

Saaychol
นายโพ้นทะเล
ตอบกระทู้เยอะ ๆ จะได้ 2 ดาว
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1


« ตอบ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2007, 12:18:31 PM »

สวัสดีครับ...กระผมนายโพ้นทะเล(dive leader เกาะห้า หินแดง หินม่วง พ.ค.-เม.ย.ทุกๆปี) หนึ่งในผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ในช่วงวันแรกๆ ที่หินแดงหินม่วงล่มสลายเมื่อช่วงต้นปีครับ มันเริ่มจากหินม่วงก่อน แล้วลุกลามมายังหินแดง แล้วก็เกาะห้าครับ คงไม่ต้องท้าวความถึงความเสียหายให้ชอกช้ำกันอีกนะครับ ...... ช่วงที่ไม่ได้ lead ดำน้ำ ก็ประกอบกิจการส่วนตัวทางภาคอีสานครับ เลยไม่ได้ติดตามข่าวสาร ความเปลี่ยนแปลงของ dive site เท่าไรนัก เพียงแต่คาดหมายว่าในช่วง low season หินม่วงน่าจะดีขึ้น พออ่านเจอกระทู้นี้เข้าความหดหู่เข้าครอบงำเลยครับ ก็เลยมีความประสงค์ที่จะขอเป็นอาสาสมัครรายงานความเปลี่ยนแปลงของหินม่วง หินแดง ไม่ว่าจะเป็นไปในแนวทางที่ดีขึ้นหรือว่าเลวร้ายไปกว่าเดิมนะครับ เพราะว่าวันที่ 12 พ.ย.50 นี้ จะเริ่มลงไปประจำการที่เกาะลันตาแล้วครับ จะมีทริป หินแดง หินม่วง สัปดาห์ละ 3 ครั้ง คิดว่าน่าจะเกาะติดสถานการณ์ได้ดีพอสมควร และคงจะเริ่มรายงานความคืบหน้าได้ก็ประมาณวันที่ 15 พ.ย.ละครับ .....หาก เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ หรือนักวิชาการและผู้มีความรู้ และข้อมูล หรือต้องการที่จะให้กระผมนายโพ้นทะเล เก็บข้อมูลเบื้องต้น หรือจะให้สังเกตอะไรเป็นพิเศษ หรือเก็บตัวอย่างอะไรก็ยินดีครับ จะได้ช่วยกันหลายๆฝ่าย
บันทึกการเข้า
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8186


Saaychol


« ตอบ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2007, 01:05:56 PM »

....ยินดีต้อนรับสู่บ้าน  SOS ค่ะนายโพ้นทะเล....

ขอบคุณในน้ำใจของคุณมากๆ ที่ได้เสนอให้ความช่วยเหลือมาค่ะ....

จริงๆแล้ว สายชลยังอยากให้คุณซึ่งใกล้ชิดติดหินแดง....หินม่วง...และเกาะห้าใหญ่ เล่าให้เราฟังถึงสภาพเหตุการณ์ในช่วงวันแรกๆ ที่จุดดำน้ำดังกล่าวล่มสลายไปเมื่อช่วงต้นปี ว่ามันมีสภาพตั้งแต่เริ่มต้นจนล่มสลายไปได้อย่างไรค่ะ  หากมีภาพประกอบด้วยก็จะทำให้เข้าใจและเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น

สายชลยังเชื่อว่าถ้าเป็นเรื่องที่เกิดจากธรรมชาติแล้ว ความเสียหายคงจะค่อยเป็นค่อยไป....ตรงข้าม หากเป็นฝีมือมนุษย์แล้ว ความเสียหายคงเกิดขึ้นได้ภายในวันสองวันอย่างแน่นอน 

นอกจากนี้.....สิ่งที่พวกเราหลายๆคนต้องการก็คือ ข้อมูลและภาพ ที่แท้จริงของหินม่วง....หินแดง....เกาะห้าใหญ่ ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ค่ะ (ส่วนการเก็บข้อมูลเบื้องต้น และเก็บตัวอย่างทางด้านวิชาการนั้น คิดว่าทางอาจารย์ธรณ์คงดำเนินการไปบ้างแล้ว)
บันทึกการเข้า

Saaychol
WayfarinG
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2388



« ตอบ #11 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2007, 01:10:51 PM »

อ่านข่าวเมื่อเช้าเหมือนกัน...


แย่แล้ว..ทะเลไทย.. 
บันทึกการเข้า

If you reject the food, ignore the customs, fear the religion and avoid the people, you might better stay home.  -- > James Michener
Plateen
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 522



« ตอบ #12 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2007, 01:39:28 AM »

อ่านข่าวแล้วเสียใจมากครับ
หินม่วงหินแดงเป็นจุดที่ประทับใจผมมาก เมื่อมามีอันเสียหายแบบนี้เลยเศร้าเลย
จะคอยติดตามข่าวความเป็นไปอยู่เรื่อยๆนะครับ
บันทึกการเข้า

For God so loved the world, that he gave his only begotten Son, that whosever believeth in him should not perish, but have everlasting life[John3:16]
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8186


Saaychol


« ตอบ #13 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2007, 04:57:57 AM »

อ่านเรื่องนี้ประกอบด้วยนะคะ เพื่อที่จะได้ทราบว่ามนุษย์ที่ใจร้ายและเห็นแก่ได้เขาทำลายสรรพชีวิตในทะเลให้ย่อยยับได้ขนาดไหน

http://www.saveoursea.net/boardapr2007/index.php?topic=85.0
บันทึกการเข้า

Saaychol
voldermort
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 564



เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2007, 05:09:32 AM »

อ่านเรื่องนี้ประกอบด้วยนะคะ เพื่อที่จะได้ทราบว่ามนุษย์ที่ใจร้ายและเห็นแก่ได้เขาทำลายสรรพชีวิตในทะเลให้ย่อยยับได้ขนาดไหน

http://www.saveoursea.net/boardapr2007/index.php?topic=85.0
ตอนแรกๆที่ได้ไปดำน้ำที่หินแดง หินม่วง แล้วเจอสภาพแบบที่เลยเล่าไปอ่ะค่ะ
พอขึ้นจาก ไดฟ์แรกที่หินม่วง ก็ขึ้นมาคุยกันว่า เหมือนเจอสารเคมีนะคะ เพราะว่า มันเสียหายเยอะจริงๆ

ยิ่งพอได้อ่านกระทู้ที่อาสายชลลง link ไว้ ก็ยิ่งรู้สึกแย่ค่ะ
ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดจากมือมนุษย์จริงๆ ภาวะโลกร้อนก็ด้วย เกิดจากเทคโนโลยีฝีมือมนุษย์มิใช่หรือ
จะแก้ก็ได้แต่ทำตอนที่มันหมดทางแก้ แล้วจะมีประโยชน์อะไรกัน
คนที่มีจิตสำนึกที่จะแก้ไข แบบที่ทำด้วยใจ ก็มีน้อยเหลือเกิน คงสู้พวกที่มีกำลังทรัพย์และอิทธิพลยาก   
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.054 วินาที กับ 20 คำสั่ง